AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

หมอแนะ! ลูกน้ำเหลืองไม่ดี ต้องทำอย่างไร

ลูกน้ำเหลืองไม่ดี โดนยุงกัดเลยทำให้ขาลาย จริงหรือ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนั้น พร้อมวิธีการดูแลโดยคุณหมอกันค่ะ

 

 

คุณแม่เคยได้ยินชื่อโรค หรืออาการน้ำเหลืองไม่ดีกันบ้างไหมคะ วันนี้ทีมงานมีบทความจากคุณหมอแมวจะมานำเสนอคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบกันค่ะ โดยจะขอหยิบยกบทความของคุณหมอมาไว้ดังนี้

มีอยู่วันหนึ่ง ผมตรวจผู้ป่วยเด็กที่ผู้ปกครองพามา ผู้ปกครองให้ประวัติว่าเด็กคนนี้น้ำเหลืองไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก เวลาโดนยุงกัดก็จะขึ้นเห่อเป็นแผล หรือแม้แต่อยู่ดี ๆ ก็จะมีตุ่มเห่อขึ้นแดงตามตัว ผมพิจารณาจากการตรวจร่าง กาย ก็ได้บอกชื่อโรคและแนะนำแนวทางการรักษาและการกลับไปปฏิบัติตัวที่บ้าน จากนั้นก็ได้ให้ยากลับบ้านไป … หลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้ปกครองพาเด็กกลับมาอีกโดยบอกว่า “รักษากับหมอแล้วไม่ดีขึ้น”

หมอได้ตรวจดูตามตัวก็เห็นว่า แผลพุพองที่เห็นเมื่อวันก่อนนั้น มาบัดนี้ได้กลายเป็นแผลที่อักเสบและติดเชื้อไปแล้ว วัดไข้เด็กก็มีไข้สูง แต่พอซักกันไปจริง ๆ แล้วพบว่า หลังจากได้ยาไปจากโรงพยาบาล ก็กินไปครั้งเดียว ที่เหลือไปรักษาโดยการพ่นน้ำหมากจากผู้เฒ่าผู้แก่ และให้กินยาแผนโบราณบางชนิด… เมื่อไม่หายผู้ที่รักษาทางนั้นได้ให้เหตุผลว่า ที่ไม่ดีขึ้นเพราะยาหมอจากโรงพยาบาลทำให้น้ำเหลืองเดินไม่สะดวกจึงเกิดอาการลุกลาม

คำว่า “โรคน้ำเหลืองไม่ดี” นั้น เป็นชื่อโรคที่ได้ยินกันมานานแล้ว ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงว่าโรคน้ำเหลืองไม่ดีทางแพทย์แผนไทยเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่ผมชอบบอกไว้เสมอว่า คนที่รู้เรื่องแพทย์แผนไทยจริง ๆ ในชุมชนปัจจุบันนั้นไม่ได้มีมาก… คำ ๆ นี้ก็เช่นกัน ที่น่าจะเรียกว่าศัพท์ภาษาท้องถิ่นหรือชื่อทั่วไปมากกว่า เพราะโรคน้ำเหลืองไม่ดีนั้น โดยส่วนใหญ่จะพูดถึงโรคที่เกิดแผลหรือตุ่มพุพองขึ้นและมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมา โดยไม่สนว่าสาเหตุของมันจะเป็นอะไร เรียกได้ว่าคำว่าน้ำเหลืองไม่ดี เป็นชื่อของอาการมากกว่าที่จะเป็นตัวโรคจริง ๆ

ภาวะน้ำเหลืองไม่ดี คืออะไร?

ภาวะน้ำเหลืองไม่ดี (Poor lymph disorder) คือ ปรากฏการณ์ที่อวัยวะมีการอัดอั้น ระบายน้ำเหลืองไม่ราบรื่น เมื่อเรื้อรังก็จะอุดอู้ทำให้ของเสียคั่งค้าง ไม่ถ่ายออกเทไป ทำให้ก่ออักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเกิดมีการแสลงอาหาร จากผลิตภัณฑ์สัตว์ (เนื้อไข่นม) ปนการแทรกซ้อนที่ติดเชื้อตามผิวหนัง กลายเป็นโรคน้ำเหลืองเสีย

โรคน้ำเหลืองไม่ดี มีอาการและอาการแสดงที่หลากหลายกว่าที่เราเคยรู้จักกันมา ยกตัวอย่างเช่น โรคหลอดเลือดขอด โรคปวดเข่า(เสื่อม) โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังผื่นคัน เป็นต้น

สาเหตุของน้ำเหลืองไม่ดี

คุณหมอได้รวบรวมและพบว่า ในมุมมองของคนทั่วไปนั้นคิดว่า น้ำเหลืองไม่ดี ที่พบโดยส่วนใหญ่นั้น เกิดจากสาเหตุดังนี้

ผื่นขึ้นในเด็กโดยหาสาเหตุไม่ได้  มักเป็นโรคผื่นแพ้ที่ผิวหนังซึ่งเกิดในวัยเด็กเมื่อโตขึ้นก็มักจะหายไป หาสาเหตุอย่างไรก็หาไม่เจอ…แต่ถ้าไปถามแพทย์ว่าผื่นแพ้ที่พบในเด็กมี อาการผื่นคันตามตัวเป็นแผลพุพองโดยที่ไม่ได้ไปเกาหรือมีแผลมาก่อน แพทย์ส่วนมากมักจะบอกว่าเป็นโรค Atopic Dermatitis ซึ่งโรคนี้มีที่มาที่ไปไม่ได้เป็นโรคที่ไม่มีสาเหตุ … โดยสาเหตุของมันก็เกิดจากกระบวนการแพ้ในชั้นผิวหนังซึ่งทำให้ผิวหนังเกิดการ อักเสบขึ้นมา พบได้ในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 10 ขวบ โดยในแต่ละวัยก็จะมีตำแหน่งที่เป็นแตกต่างกัน ถ้าซักต่อไปก็จะพบว่าในครอบครัวมักจะมีคนที่เป็นโรคพวกนี้ … ทั้งเมื่อโตขึ้นเด็กที่เป็นก็จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าปกติ นั่นเอง

ยุงกัดแล้วเกิดผื่นคัน ในน้ำลายของยุงจะมีสารที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวเพื่อมันจะได้ดูดเลือดได้อย่างสะดวก ทีนี้แต่ละคนมีภูมิต้านทานไม่เหมือนกัน ทำให้บางคนเจอยุงกัดแล้วไม่เจ็บไม่คัน บางคนโดนกัดเป็นแค่ตุ่มแดง บางคนตุ่มแดงจะเห่อขยายขึ้นเป็นแผล ถ้าเทียบกันระหว่างเกากับไม่เกา คนที่เกาตุ่มก็จะยิ่งเห่อแดง คนที่ไม่เกา ตุ่มก็จะเท่าเดิมและค่อย ๆ ยุบลง หรือแนะนำให้เอาน้ำสะอาดล้างน้ำลายยุงในบริเวณที่โดนยุงกัด เท่านี้อาการคันก็ดีขึ้นได้แล้วละค่ะ

จู่ ๆ ก็มีผื่นตุ่มพอง บางทีกลายเป็นหนอง บางคนมีลักษณะผิวหนังที่ง่ายต่อการกระตุ้น เมื่อเกา ถูกความร้อนความเย็น หรือไปสัมผัสกับสารที่แพ้เข้าผิวหนังก็จะเกิดการปล่อยสารก่อภูมิแพ้ขึ้นจน ผิวหนังบวมเห่อและคัน ถ้าหากไปเกาเพิ่มอาการคันก็จะมากขึ้น ในที่สุดอาจจะเกาจนเป็นแผล เมื่อเกิดแผลขึ้นเชื้อโรคที่อาศัยตามผิวหนังก็จะเข้าไปในบาดแผลและเกิดการติดเชื้อได้ ทางแก้ง่าย ๆ คือถ้าใครรู้ตัวว่าคันง่าย มีผื่นขึ้นบ่อย ก็ควรตัดเล็บให้สั้น ตะไบไม่ให้เล็บคม เพื่อไม่ให้เกิดแผล หลังจากนั้นก็ต้องค้นหาสาเหตุกันต่อว่าแพ้จากอะไร

น้ำเหลืองไม่ดีแบบมีตุ่มขึ้น ปวดแสบร้อนเหมือนโดนน้ำร้อนลวก อาจจะต้องระวังพวกเริมหรืองูสวัด ซึ่งเป็นโรคที่มาด้วยตุ่มน้ำพองใส แสบร้อน ในรายที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน ก็ต้องนึกถึงโรคอีสุกอีใสด้วย การรักษาในช่วงแรกก็อาจจะใช้ยาต้านเชื้อไวรัสในรายที่เป็นงูสวัด และระมัดระวังแผลไม่ให้ติดเชื้อ ในช่วงหลังก็อาจจะให้ยาเพื่อลดอาการเจ็บแสบร้อน

แต่ในมุมมองของแพทย์นั้น แท้จริงแล้วมีสาเหตุต่าง ๆ คือ

1. โรคที่เกี่ยวกับการแพ้และภูมิคุ้มกันของร่างกาย ตั้งแต่โรคภูมิแพ้ผิวหนังทั่วไป โรคภูมิแพ้ผิวหนังของเด็ก ซึ่งเป็นโรคที่ความรุนแรงไม่มากไปจนถึงกลุ่มที่มีอาการมากและมีอาการทางผิวหนังด้วย เช่น สะเก็ดเงิน เป็นต้น

2. โรคที่เกี่ยวกับการแพ้ที่มีสาเหตุ เช่น การแพ้สารเคมี การแพ้สารจากสัตว์หรือพืชบางชนิด การแพ้สารก่อภูมิแพ้ที่มีในสิ่งแวดล้อมเช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์

3. ผิวหนังได้รับสารที่ระคายเคืองหรือสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น ถูกสารเคมี(น้ำยาล้างห้องน้ำ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย)

4. การติดเชื้อ เช่น งูสวัด เริม เกลื้อน กลาก ผิวหนังเกิดการติดแบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเอง หรือการที่ผิวหนังมีบาดแผลแล้วติดเชื้อซ้ำเข้าไป

ที่การแบ่งของ แพทย์แบ่งตามเหตุที่เป็นก็เพื่อให้การรักษาที่ครบถ้วนหรือมุ่งสู่องค์รวมมากที่สุด เพราะการรักษาผื่นผิวหนังแบบนี้ ไม่ใช่แค่บอกว่าเป็นน้ำเหลืองไม่ดีแล้วรักษาเหมือนกัน แต่จะต้องจัดการตั้งแต่ต้นเหตุ รักษาอาการที่ทำให้รู้สึกไม่สบาย และจัดการตั้งแต่ต้นเหตุรวมทั้งป้องกันผลข้างเคียงของแผลเหล่านั้นที่จะตามมา รักษาอาการที่ทำให้ไม่สบาย อาการที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องมาได้แก่อาการคัน เจ็บแสบร้อน ปวดบวม การรักษามีตั้งแต่การใช้ยาลดการแพ้แก้คันชนิดกิน และยาทาที่ทำให้ผิวหนังเย็นเช่น คาลาไมน์ หรือ เหล้าผสมน้ำ หากมีบาดแผลเกิดขึ้นก็ให้ทำแผลจนกว่าผิวหนังจะกลับมาเป็นปกติ

รักษาที่สาเหตุ

หากแพทย์หาสาเหตุได้หรือสงสัยสาเหตุว่า ผื่นผิวหนังเกิดจากตัวกระตุ้นใด ก็จะรักษาตามสาเหตุนั้น ๆ หรือเรียกได้ว่าเป็นการรักษาตามอาการนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น

แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด ส่วนเรื่องการป้องกันการติดเชื้อนั้น ให้หมั่นทำความสะอาดแผล และปิดด้วยวัสดุที่สะอาดและผ่าการฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น

ขอบคุณที่มา: คุณหมอแมว จากเพจ Hunsa

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids