AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

มนุษยสัมพันธ์ สร้างได้ ฝึกลูกปรับตัว เข้าใจคนอื่น

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

การสอนลูกน้อย ให้เข้าสังคม ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน และเข้าใจคนอื่น เป็นการสร้าง มนุษยสัมพันธ์ ที่ดีให้ลูกน้อย ช่วยให้ลูกของเรามีอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย อยู่กับทุกคนอย่างมีความสุข ช่วยพัฒนาทางด้านอารมณ์ การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สำคัญที่ลูกน้อยควรเรียนรู้

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

พญ.เสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการ และพฤติกรรม โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า สังคมทุกวันนี้ คนฉลาดมีอยู่มาก แต่ขาดคนที่มีความฉลาดทางสังคม คุณธรรม จริยธรรม ทำให้รู้จักตัวเองน้อยลง จริงใจน้อยลง เห็นใจคนอื่นน้อยลง และฟังคนอื่นน้อยลง นี่คือสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ควรหันมาใส่ใจ สอนให้ลูกรู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร และเข้าใจคนอื่น

ตัวอย่าง มนุษยสัมพันธ์ ที่ดีมาจากพ่อแม่

การไม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็น เวลามีคนทำให้โมโหไม่พูดจาหยาบคาย หรือโวยวาย แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด เป็นการทำให้ลูกเชื่อมั่นว่า เมื่อลูกน้อยมีปัญหา หรือเรื่องไม่ดีในชีวิต คุณพ่อ คุณแม่จะยังรับฟัง และให้คำปรึกษา ไม่ใส่อารมณ์กับเขา ไม่ซ้ำเติมเขา สิ่งเหล่านี้คือความมั่นคงในจิตใจของลูกน้อย

สิ่งแวดล้อมในครอบครัว คือหัวใจสำคัญในการเรียนรู้การปฏิบัติตัวต่อผู้อื่นของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่คุณพ่อ ปฏิบัติกับคุณแม่ คนในครอบครัวปฏิบัติต่อกัน ลูกน้อยจะซึมซับแล้วนำไปใช้กับผู้อื่น

เด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นอย่างไร?

1.ชอบทำงานกับคนอื่น ทำงานเป็นทีมได้ดี

2.มีทักษะในการรับฟังที่ดี ประนีประนอม

3.เข้าใจในความต้องการของผู้อื่น

4.ชอบที่จะสื่อสารกับผู้อื่น ทั้งทางตรง และทางอ้อม

5.มีเพื่อนมากมาย มีความสุขกับการทำงานกับคนอื่น

6.ได้รับโอกาสในการเป็นสื่อกลางในการพูดคุย โต้วาที ต่อยอดไปถึงความสามารถในอนาคต เช่น เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ดี เป็นผู้จัดอบรมที่ดี และดูแลบุคลากรได้ดี

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

อ่านต่อ “วิธีฝึกให้ลูกมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี” คลิกหน้า 2

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

วิธีฝึกให้ลูกมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

1.อยู่เคียงข้าง และให้กำลังใจ

ความมั่นใจในตัวเอง เป็นพื้นฐานของมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คุณพ่อ คุณแม่มีส่วนช่วยในการให้กำลังใจ กับกิจกรรมที่ลูกทำ คอยปลอบโยน และเคียงข้างเมื่อลูกรู้สึกแย่ หรือผิดหวัง ลูกจะรู้สึกว่ามีคนเข้าใจ และผลักดันให้กล้าออกไปทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ส่งผลต่อทักษะทางสังคมที่ดี

2.ชวนเพื่อนของลูกมาที่บ้าน

เด็กๆ จะฝึกทักษะการเข้าสังคมได้ดีมากยิ่งขึ้น เมื่ออยู่ที่บ้าน เพราะการได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองคุ้นเคย จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อาจจะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือปิดเทอม ชวนเพื่อนๆ มานั่งเล่นที่บ้าน ทำกิจกรรมร่วมกัน

3.ฝึกมารยาททางสังคมเบื้องต้น

สำหรับครอบครัวที่มีลูกมากกว่า 1 คน อาจได้เปรียบ เพราะได้เล่น และสื่อสารกับเด็กวัยใกล้เคียงกัน ช่วยฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคม แต่สำหรับลูกคนเดียว คุณพ่อ คุณแม่ก็สามารถสอนให้ลูกน้อยรู้จักมารยาททางสังคมให้เขาได้ เช่น การพูดจาไพเราะ ไม่พูดหยาบคาย รู้จักแบ่งปันของเล่น และอาหารให้เพื่อนที่โรงเรียน อาจจะหาสัตว์เลี้ยงมาช่วยในการฝึกความอ่อนโยน

4.ให้รางวัลเพื่อเป็นกำลังใจ

ถ้าลูกแสดงความมีน้ำใจกับเพื่อน หรือสัตว์เลี้ยง คุณพ่อ คุณแม่ อาจจะให้รางวัลเล็กน้อย เป็นการตอบแทนความดี และเป็นกำลังใจให้ลูกน้อยทำดีต่อไป พร้อมกับการเรียนรู้ความมีน้ำใจกับคนรอบข้างด้วย

5.จัดปาร์ตี้กระชับความสัมพันธ์

การที่ลูกได้พบเจอผู้คนเยอะๆ และได้สื่อสารกัน โดยการจัดงานวันเกิดให้ลูกน้อย มีเพื่อนๆ และญาติๆ จะช่วยให้ลูกน้อยฝึกทักษะการเข้าสังคม

6.อย่าบังคับ

การฝึกทักษะการเข้าสังคมให้ลูก ต้องไม่เป็นการยัดเยียด คะยั้นคะยอ ควรเว้นช่วงให้ลูกน้อยได้มีเวลาส่วนตัว เพื่อเป็นการฝึกพัฒนาทักษะทางสังคมอย่างเป็นธรรมชาติ

7.สอนให้เข้าใจความแตกต่างของคนรอบข้าง

การใช้ชีวิต และสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมให้คนมีนิสัยที่แตกต่างกัน ลูกจะต้องได้พบเจอกับความแตกต่างเหล่านี้ สอนให้ลูกเข้าใจ และเรียนรู้ความแตกต่าง และปรับตัวอยู่ร่วมกับคนในสังคมที่แตกต่างกัน

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

อ่านต่อ “วิธีสอนลูกฉลาดเข้าสังคม” คลิกหน้า 3

ฝึกลูกสร้างมนุษยสัมพันธ์

วิธีสอนลูกฉลาดเข้าสังคม

1.เล่นบทบาทสมมติ

ลองเล่นบทบาทสมมติกับลูก ถ้าต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ในสังคม ลูกน้อยควรจะทำตัวอย่างไร พูดอย่างไร เป็นการฝึกการปรับตัวแบบไม่น่าเบื่อ

2.ฝึกให้ลูกอดทน

การฝึกให้ลูกรู้จักเสียสละ และอดทนต่อการสูญเสีย ไม่แสดงความชื่นชมลูกมากเกินไปจนรู้สึกว่าทับถมคนอื่น สอนให้ลูกมองข้อดีของคนอื่น เป็นการฝึกเข้าสังคมที่ดี

3.ยิ้มเข้าไว้

สอนให้ลูกรู้จักยิ้มทักทายคนอื่น เพราะมิตรภาพมักจะงอกเงยมาจากรอยยิ้ม การทำหน้าบึ้งตึงใส่คนอื่น เป็นการแสดงอาการที่ไม่น่ารัก ใครๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้

4.เห็นอกเห็นใจคนอื่น

บอกลูกว่าถ้าไม่อยากให้เพื่อนทำกับตัวเองแบบนี้ ก็อย่าทำกับเขาแบบนี้เช่นกัน เช่น ลูกน้อยอยากหยิกเพื่อนเพราะอยากแกล้ง คุณพ่อ คุณแม่ลองถามลูกน้อยว่าถ้าเพื่อนแกล้งคืนหนูจะรู้สึกอย่างไร เป็นต้น

5.ฝึกทักษะในการฟัง

เด็กช่างพูด มักรู้ตัวว่าตัวเองเป็นจุดสนใจ ยิ่งเรียกร้องความสนใจได้มากเท่าไหร่ ยิ่งภูมิใจในตัวเอง จนคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น ฉลาดกว่าคนอื่น  จนกลายเป็นคนไม่ยอมฟังคนอื่น คุณพ่อ คุณแม่ควรฝึกให้ลูกรับฟังคนอื่น เปิดโอกาสให้คนอื่นพูดบ้าง

วิธีสังเกตเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี

อ่านต่อ “วิธีสังเกตเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี” คลิกหน้า 4

วิธีสังเกตเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี

วิธีสังเกตเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี

1.มีเพื่อนมากในโรงเรียน

2.ชอบเล่นกีฬาเป็นทีม เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล

3.ชอบทำงานเป็นกลุ่ม มากกว่าทำงานคนเดียว

4.มักถูกเลือกให้เป็นผู้นำ หรือหัวหน้า

5.มักมีคนมาขอความคิดเห็น หรือให้ช่วยตัดสินใจ

6.ไม่ชอบอยู่คนเดียว ชอบไปเที่ยวกับเพื่อน

7.มีความเห็นใจคนอื่น ชอบช่วยเหลือคนถ้าสามารถทำได้

8.ชอบระดมสมองในการตัดสินใจมากกว่าการตัดสินใจคนเดียว

9.เป็นสมาชิกชมรมต่างๆ ที่มีกิจกรรมทางสังคม

10.มีความสนใจ และมีความรู้เรื่องข่าวสาร สังคมอยู่เสมอ

11.ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม ถ้ามีคนมาชักชวน

12.งานอดิเรกคือการช่วยเหลือคนอื่น

13.สังเกต และรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของคนอื่น

14.ชอบอ่านประวัติของบุคคลที่อุทิศตัวให้คนอื่น

15.เป็นคนที่คิดริเริ่มในกลุ่มเพื่อน ในการทำสิ่งใหม่ๆ

ส่งเสริมให้ลูกมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

อ่านต่อ “การส่งเสริมเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี” คลิกหน้า 5

ส่งเสริมให้ลูกมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

การส่งเสริมเด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี

ถ้าลองสังเกตลูกน้อยแล้วพบว่า มีมากกว่า 11 ข้อ แสดงว่าลูกน้อยมีพรสวรรค์ในการผูกมิตรกับผู้อื่น คุณพ่อ คุณแม่สามารถส่งเสริมลูกน้อยได้ ดังนี้

1.ให้ลูกน้อยจดบันทึก ชื่อ ที่อยู่ ลักษณะเด่นของเพื่อน และติดต่อเพื่อนอย่างสม่ำเสมอ

2.ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ทั้งในโรงเรียน และชุมชน เช่น ชมรมอาสาต่างๆ

3.ฝึกทักษะการฟังอย่างเข้าใจ และถูกต้อง

4.ฝึกทักษะการพูด แก้ไขปัญหา ด้วยความพูดที่สร้างสรรค์

5.ฝึกให้ลูกติดต่อกับผู้อื่นผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต จดหมาย

6.ส่งเสริมให้ลูกน้อยช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเขาเดือดร้อน

7.ชวนลูกน้อยไปร่วมงานที่มีคนเยอะๆ เช่น สมาคมศิษย์เก่าของคุณพ่อ คุณแม่ หรือไปเยี่ยมญาติ

8.ส่งเสริมให้ลูกศึกษาประวัติของบุคคลที่ช่วยเหลือสังคม น่านับถือเป็นตัวอย่าง

ส่งเสริมให้ลูกมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

เครดิต: นายแพทย์อนันต์ โลหะพัฒนบำรุง กุมารแพทย์, http://baby.kapook.com, ผู้จัดการออนไลน์

Save