การบ้านลูกไม่ใช่การบ้านแม่!
กฎข้อแรก ต้องจำไว้ว่า นี่ไม่ใช่การบ้านของคุณแม่นะคะ หน้าที่ของเรามีเพียงแค่ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ถึงวิธีการแก้ปัญหาและคิดรูปแบบของโครงงานด้วยตัวเอง อย่างเช่นถ้าลูกต้องทำเรื่องอวกาศ คุณสามารถช่วยด้วยการจัดหาวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ต้องการ และถ้าอุปกรณ์ที่ลูกเลือกดูแล้วไม่ค่อยปลอดภัยนักคุณก็สามารถเสนอแนะทางเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสม
แต่ถ้างานยังเหลืออีกบานเบอะ ดูยังไงก็เสร็จไม่ทันกำหนดแน่ ถ้าเป็นแบบนี้คุณคิดว่าสมควรที่คุณจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยหรือไม่คำตอบก็คือ ถ้านี่เป็นเพียงงานชิ้นแรกหรือชิ้นสองที่ลูกต้องนั่งหน้าดำคร่ำเครียดกับโครงงานมาเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงแล้ว (แต่คุณต้องแน่ใจนะว่าเห็นเธอนั่งทำนานขนาดนี้จริงๆ) ก็น่าจะเข้าไปช่วยได้ สิ่งสำคัญที่ลูกจะได้เรียนรู้ก็คือ เป็นการฝึกทำงานภายใต้ภาวะกดดัน ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเติบโตมากขึ้น
ช่วยลูกจัดสรรเวลาทำการบ้าน
พอเข้าวัยประถม ลูกๆ ก็มีการบ้านที่ต้องทำมากขึ้น จนแม้แต่พ่อแม่ยังต้องปวดหัวไปด้วย ลองมาหาวิธีช่วยลูกจัดตารางทำการบ้าน บริหารเวลาให้เป็นกันดีกว่า
-
จัดชั่วโมงเรียนรู้
แทนที่จะปล่อยให้เขาคิดเอาเองว่าจะการบ้านตอนไหน (ซึ่งบางทีเจ้าตัวแสบก็แอบเกเรไม่ยอมทำ หรือลืมเสียสนิท) มาช่วยกันจัดตาราง ‘ชั่วโมงเรียนรู้’ ซึ่งควรเป็นช่วงเวลาที่คุณกับลูกคิดว่าเหมาะสม เช่น หลังกลับจากโรงเรียน เมื่อกินของว่างแล้ว หรือหลังอาหารเย็น และทำตามตารางนั้นทุกวัน อย่างตรงต่อเวลา
-
จัดสรรเวลา
เมื่อถึงชั่วโมงเรียนรู้ประจำวัน เริ่มวางแผนกับลูกว่า วิชาไหนยากง่ายกว่ากัน จะทำการบ้านวิชาไหนก่อน-หลัง
-
ถ้าวันไหนลูกทำการบ้านเสร็จเร็ว…
ก็ให้เขาใช้เวลาที่เหลือทำกิจกรรมที่ชอบจนกว่าจะหมดชั่วโมงเรียนรู้ ถ้านึกไม่ออก ก็ชวนลูกอ่านหนังสือหรือเล่นเกมต่างๆ ด้วยกันก็ได้
หากยอมปล่อยให้ลูกติดนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง พวกเขาอาจคิดว่าคุณจะต้องยื่นมือเข้าช่วยทุกครั้งที่มีปัญหา คราวต่อไปถ้าลูกทำงานไม่เสร็จ ลองปล่อยให้ไปเผชิญปัญหาที่จะเกิดขึ้นที่โรงเรียนในวันรุ่งขึ้นด้วยตัวเองดูบ้าง วิธีนี้น่าจะช่วยให้ลูกจัดการกับโครงงานชิ้นต่อไปได้อย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร AMARIN Baby & Kids
ภาพ : womensenews.org, www.bebelu.ro, www.multiplemayhemmamma.com, www.news.com.au, www.sparefoot.com