AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

หวัดลงกระเพาะ ระบาดในเด็กเล็ก! วิธีรับมือเมื่อลูกอาเจียน-ท้องเสีย

หวัดลงกระเพาะ

หวัดลงกระเพาะ หรือ ไวรัสลงกระเพาะ โรคที่มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัด แต่มีอันตรายมากกว่าหากไม่รีบรักษา โดยเฉพาะหากโรคนี้เกิดขึ้นกับทารก และเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี

หวัดลงกระเพาะ ระบาดในเด็กเล็ก! วิธีรับมือเมื่อลูกอาเจียน-ท้องเสีย

หวัดลงกระเพาะ คืออะไร?

แม่ ๆ มักจะคุ้นชินกับโรคไวรัสลงกระเพาะ ซึ่งโรคนี้มักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ ทำให้คิดว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือระบบทางเดินอาหารอักเสบ แต่จริง ๆ แล้ว ตัวร้ายของโรคไวรัสลงกระเพาะ คือเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสนี้นอกจากอาการไอ จาม มีไข้ และมีน้ำมูกแล้ว ไวรัสนี้ยังทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำร่วมด้วย นี่เป็นเพราะเชื้อไวรัสได้เข้าไปเกิดอาการอักเสบที่บริเวณกระเพาะอาหาร หรือบริเวณลำไส้ เมื่อมีอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไปแล้ว ทำให้โรคนี้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคหวัดธรรมดา ไม่ได้อันตรายร้ายแรงอะไร แต่ทราบไหมคะว่าเมื่อเป็น หวัดลงกระเพาะ แล้ว หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ไวรัสลงกระเพาะ หรือ หวัดลงกระเพาะ คือ ภาวะติดเชื้อไวรัสในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาจเกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรค หรือใช้เครื่องใช้ที่มีอุจจาระ อาเจียน หรือน้ำลายปนเปื้อนเชื้อโรคติดอยู่ รวมทั้งการคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคนี้โดยตรง ผู้ป่วยมักอุจจาระเป็นน้ำ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีไข้ โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักหายจากโรคนี้ได้เอง แต่เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ อีกทั้งยังไม่มีวิธีรักษาภาวะนี้โดยตรง ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการรักษาประคับประคองตามอาการจนกว่าจะหายดี ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารและน้ำดื่มที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันโรค

ไวรัสลงกระเพาะ

เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคหวัดลงกระเพาะ มีหลายชนิดด้วยกัน แต่ที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ได้แก่

  1. โรต้าไวรัส หรือ Rotavirus มักจะพบได้บ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะทารกที่มีอายุ 3-15 เดือน เนื่องจากเด็กในวัยนี้จะชอบเอามือเข้าปาก หรือหยิบสิ่งของเข้าปาก ผู้ป่วยมักมีอาการปรากฏหลังได้รับเชื้อแล้ว 1-3 วัน และอาจป่วยนาน 3-7 วัน แม้ผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่อาจเป็นพาหะแพร่เชื้อสู่เด็กเล็กได้เช่นกัน เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อโรต้าไวรัสแล้ว จะทำให้มีส่งไข้ อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง และในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มไม่มากพอ อาจมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง หรือมีสัญญาณของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ลำตัวเย็น ปัสสาวะลดลง ตาโหล ได้ (อ่านต่อ รู้จัก ไวรัสโรต้า ต้นเหตุลูกน้อยท้องร่วง พร้อมราคาวัคซีน)
  2. โนโรไวรัส หรือ Norovirus เป็นไวรัสในกลุ่มที่ก่อ “โรคหวัดลงกระเพาะหรือ สต็อมมัค ฟลู (stomach flu)” โรคนี้จะปรากฏอาการของโรคหลังได้รับเชื้อเข้าไปเพียง 24-48 ชั่วโมง หรือเกิดอาการได้เร็วกว่านั้น หากเริ่มมีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเนื้อปวดตัว อาเจียน ปวดท้องมาก ท้องเสีย อ่อนเพลีย อาการของโรคจะเป็นอยู่ไม่นานเพียงวันสองวัน และอาการมักไม่หนัก แต่ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกว่าไม่สบายเอามาก ๆ ทีเดียว สำหรับเด็ก ผู้สูงวัย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมักมีอาการหนักกว่าหนุ่มสาว (อ่านต่อ แม่แชร์! ลูกอึเป็นเมือกจาก ไวรัส โนโร หากเป็นหนัก อาจตายได้)
  3. อะดีโนไวรัส หรือ Adenovirus เชื้อไวรัสอะดีโน ทําให้เกิดอาการ ผิดปกติได้หลายแบบ ทั้งในระบบทางเดินหายใจ ระบบ ทางเดินอาหาร และตา การติดเชื้อไวรัสอะดีโนทําให้เกิดอาการได้หลายแบบ เช่น คออักเสบ ตาแดง ปอดอักเสบ และอุจจาระร่วง นอกจากนั้น ยังอาจทําให้เกิดอาการรุนแรงโดยเฉพาะเกิดปอดอักเสบ ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และในเด็กเล็ก

จะเห็นได้ว่าไวรัสแต่ละชนิด ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดอาการร้ายแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะภาวะขาดน้ำ ดังเช่นข่าวที่พบกันได้บ่อย ๆ ว่ามีผู้ป่วยท้องเสียจนเสียชีวิต ดังนั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด อาการ และการป้องกัน หวัดลงกระเพาะ มาฝากค่ะ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ หวัดลงกระเพาะ ติดต่อกันได้อย่างไร? มีอาการอย่างไร? และวิธีการป้องกัน

หวัดลงกระเพาะ ติดต่อกันได้อย่างไร?

ไวรัสทั้ง 3 ชนิดที่ได้กล่าวไปนั้น มักจะมากับเชื้อโรคและอากาศ คือ เมื่อมีอาการ ไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ เชื้อไวรัสดังกล่าวจะออกมาด้วย จากนั้นเชื้อไวรัสจะเกาะอยู่บริเวณต่าง ๆ ตามสภาพสิ่งแวดล้อม เช่น อาหาร ลูกบิดประตู ของเล่นเด็ก ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กที่อยู่ในวัยที่ชอบเอามือเข้าปาก หรือเอาของเล่นเข้าปาก จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย

การรับประทานอาหารหรือการดื่มน้ำซึ่งปนเปื้อนเชื้อไวรัสเหล่านี้ หรือการกลืนเชื้อไวรัสจากเครื่องใช้ที่เปื้อนอุจจาระ อาเจียน หรือน้ำลายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ รวมทั้งการรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อนโดยไม่ผ่านการปรุงสุก เช่น หอยนางรมดิบ ก็ทำให้ติดโรคในระบบทางเดินอาหารเหล่านี้ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ การคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคนี้โดยตรง ก็ทำให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เช่น การใช้แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน หรือส้อมร่วมกับผู้ป่วย และการสัมผัสมือ เสื้อผ้า หรือผ้าอ้อมที่มีเชื้อไวรัสติดอยู่

วิธีสังเกตอาการว่าลูกเป็น หวัดลงกระเพาะ หรือไม่?

ไวรัสลงกระเพาะอาจมีอาการคล้ายคลึงกับโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารจากแบคทีเรีย โดยมีอาการเบื้องต้น ดังนี้

อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อ 12-48 ชั่วโมง และอาจมีอาการรุนแรงแตกต่างกันตามเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรค ซึ่งอาการป่วยมักหายได้เองภายใน 1-3 วัน แต่อาจป่วยยาวนานได้ถึง 10 วัน อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการ และไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการรุนแรง ดังต่อไปนี้

ไวรัสโรต้า

การรักษาและการป้องกัน หวัดลงกระเพาะ

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ จะรักษาตามอาการ เมื่อพบว่าลูกมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสดังกล่าว หากเกิดอาการคลื่นไส้รุนแรงให้กินเกลือแร่ทดแทนการขาดน้ำในร่างกายทันที หากมีอาการอาเจียน ให้คุณพ่อคุณแม่พยายามป้อนอาหารอ่อน น้ำสะอาด นมหรือน้ำหวาน ผ่านการใช้ช้อนชา ไม่ควรสัมผัสกับมือโดยตรง พยายามป้อนอาหารทีละนิด รอดูอาการภายใน 30 นาที แล้วค่อยป้อนใหม่ หากมีอาการอาเจียนน้อยลง พยายามป้อนอาหารให้มากขึ้น เพราะอาหารจะทำให้ร่างกายมีพลังงาน สร้างภูมิต้านทานและลดเชื้อโรคลงได้ในที่สุด สังเกตว่าเด็กมีอาการดีขึ้นได้จากอาการหิว ถ้าอาการแย่ลง กินอาหารไม่ได้และอาเจียนรุนแรงขึ้น ต้องส่งพบแพทย์เพื่อให้น้ำเกลือทันที

ปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้า โดยการพาลูกไปหยอดวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า และแม้ว่าเชื้อไวรัสอะดีโน และเชื้อไวรัสโนโร จะยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันไม่ให้ลูกติดเชื้อได้ดังนี้

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นทำความสะอาดของเล่น ของใช้ ต่าง ๆ ที่ลูกอาจจะหยิบจับเอาเข้าปากได้ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจเข้าสู่ร่างกายของลูกได้

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจคลิก

ตารางวัคซีน 2564 ปีนี้มีปรับรายละเอียด? ลูกต้องฉีดอะไร ตอนไหนบ้าง เช็กเลย!

ลูกชอบอมมือ-เอามือเข้าปาก พรากชีวิตลูกได้จากโรคท้องเสียในเด็ก

RSV คือ อะไร? เตรียมรับมือกับไวรัสอันตรายในหน้าฝน

อนุมัติแล้ว! เด็กไทยฉีด “วัคซีน HIB” ฟรี!! ป้องกันได้ 5 โรค

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : พบแพทย์, สสส., www.hfocus.org, pidst.or.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids