มีหลายคนไม่เคยรู้ว่า… แท้จริงแล้ว กิ้งกือไม่กัด แต่ กิ้งกือมีพิษ !! เช่นเดียวกับคุณแม่ของเกน้อยวัย 7 เดือนที่บังเอิญโดนน้ำพิษของกิ้งกือเข้าที่ตา จนเกือบทำให้ตาบอด
กิ้งกือมีพิษ ปล่อยสารโดนเด็กวัย 7 เดือน เกือบตาบอด
ในช่วงหน้าฝน จะมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเจริญพันธุ์ เดินยั้วเยี้ยมากายเต็มไปหมด โดยเฉพาะเจ้า กิ้งกือร้อยขา ซึ่งในกระแสโลกออนไลน์ ก็ได้มีผู้มาโพสต์ภาพแผลถูกสัตว์กัด โดยระบุว่าเกิดจากกิ้งกือกัด จนทำให้มีข้อสงสัยและมีเรื่องราวที่ถกเถียงกันมากมายว่า กิ้งกือกัดได้จริงหรือไม่? และ กิ้งกือมีพิษ หรือเปล่า
อ่านต่อบทความ >> ระวังลูกน้อยให้ดี! แม่โพสต์เตือน กิ้งกือ กัด ไม่ได้ แต่มีพิษ โดนไปเป็นแผลพุพอง
ซึ่งสำหรับเรื่องที่สงสัยว่าเจ้ากิ้งกือร้อยขานั้นมีพิษหรือไม่ ล่าสุด ก็ได้มีคุณแม่ลูกอ่อนท่านหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เตือนภัย ว่าลูกชายโดนพิษกิ้งกือเข้าตา ใน facebook group herkid รวมพลคนเห่อลูก เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยคุณแม่เล่าว่า
ฝากไว้เตือนตัวเองและบ้านไหนที่ฝนยังตกอยู่นะค่ะ วันที่ 5 ที่ผ่านมาประมาณตีหลังจากเปลี่ยนแพมเพิสเสร็จยังแม่ยังไม่ทันหลับได้ยินเสียงดังปึ๊ดจากข้างตัว
ทีแรกคิดว่าลูกตดแต่ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที ลูกก็ร้องขึ้นมาเสียงดังมากรีบหันไปอุ้มแล้วเปิดไฟหันไปดูหน้าลูกมีน้ำสีเหลืองเต็มตาแล้วตาก็ลืมไม่ได้ลูกร้องเสียงดังมากทำอะไรไม่ถูก
ณ ตอนนั้นระหว่างรอรถไป รพ.แม่ก็ไปหาดูลูกโดนอะไร สิ่งที่เจอคือ #กิ้งกือตัวใหญ่อยู่ใต้หมอน แม่ช็อคเข้าไปอีกรีบพาไปถึงรพ.ลูกร้องไห้ตลอดทางถึงรพ. กว่าจะได้ทำแผลให้นั่งรอพยาบาลบอกรอทำประวัติ
แม่เลยถามเด็กเจ็บขนาดนี้ต้องรออีกหรอเลยได้ล้างตาให้ล้างตาเสร็จรอหมอๆมาถึงถามโดนอะไรมา แล้วพูดแค่ว่าให้ยาไปแล้วรอมาดูอีกทีอีกสองวันแล้วหมอก็จากไป จนพยาบาลบอกถ้าไม่อยากรอตอนกลางวันไปหาหมอในตัวจังหวัดที่นั้นมีหมอตาโดยเฉพาะ
อ่านต่อ >> คุณแม่เผยถึงอาการลูกชาย หลังพาไปหาจักษุแพทย์ (มีคลิป) คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แม่ตัดสินใจพาลูกไปๆ ถึงหมอส่องดูตาบอกตาดำไม่เป็นอะไรโดนแค่เปลือกนอกนัดดูอีกทีวันจันทร์ แม่โล่งใจขึ้นมา
หมอบอกด้วยว่ากิ้งกือมีพิษทุกชนิดแต่ตัวใหญ่พิษด้วยกว่าตัวแดงๆเล็กๆ เรื่องนี้จะเตือนใจแม่ไปตลอดก่อนเอาลูกนอนต้องดูให้ละเอียด ระวังตอนฝนตกอย่าเปิดประตูหน้าต่างไว้ ปล.แม่ก็โดนด้วยนิดนึงรู้สึกแสบๆเคืองๆแต่เด็กผิวยังบางเลยเป็นอย่างที่เห็น #ไม่ดราม่านะค่ะ ขอบคุณที่อ่านค่ะ
เตือนภัย…น้ำพิษกิ้งกือทำตาลูกน้อย ดวงตาหวิดบอด #สมาคมสื่อมวลชนแห่งจังหวัดพังงา ที่บ้านเลขที่ 26/6 ม.1 บ้านนาเตย ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นส.อัญชนา กายเพ็ชร อายุ 23 ปี อาชีพมัคคุเทศก์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองและลูกชายชื่อน้องมาตฤณ อายุ 7เดือนเข้านอนอยู่ในห้องนอน จนเวลาประมาณ 2นาฬิกาเศษ ตนเองได้ลุกขึ้นเพื่อให้ลูกชายดื่มนมและเปลี่ยนผ้าอ้อมผืนใหม่ จากนั้นก็นอนต่อ ขณะที่ตนเองกำลังจะหลับ ได้ยินเสียงเบาๆจากที่ลูกชายที่นอนอยู่ข้างคล้ายเสียงตด ตนเองก็คิดว่าลูกชายคงจะอุจจาระ และคิดว่าเดี๋ยวค่อยลุกเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ใหม่ จากนั้นลูกน้อยก็ได้ร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ทำให้ตกใจรีบลุกขึ้นเปิดไฟดู พบว่าลูกชายลืมตาไม่ขึ้น และพบกับหยดน้ำสีเหลืองริมขอบตา และลูกก็ร้องอย่างเจ็บปวด จึงรีบเช็ดน้ำสีเหลืองออกและอุ้มลูกขึ้นมาและพบว่าที่ใต้หมอนของลูกมีกิ้งกือสีดำตัวใหญ่ม้วนเป็นวงกลมอยู่ จากนั้นจึงรีบพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลท้ายเหมืองชัยพัฒน์ ซึ่งหมอได้หยอดยา และให้กลับบ้านรอดูอาการ ด้วยความเป็นห่วงลูก ในช่วงเช้าจึงรีบพาไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลพังงา ซึ่งทางแพทย์บอกว่านับเป็นความโชคดีที่น้ำพิษไม่โดนตาดำ เพราะไม่นั้นจะทำให้ตาบอดได้ และบอกว่ากิ้งกือทุกชนิดมีน้ำพิษที่มีไว้ป้องกันตัว ซึ่งจะมีฤทธิ์เป็นกรด ส่วนจะมีพิษมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ คาดว่าตอนที่ลูกน้อยหลับอาจจะกลิ้งตัวไปทับกิ้งกือ จนทำให้มันปล่อยพิษใส่ดังกล่าว นส.อัญชนา กายเพ็ชร กล่าวต่อว่า หลังจากได้พบกับจักษุแพทย์แล้ว ซึ่งได้ทั้งยากินและยาทามารักษา โดยตนเองสงสารลูกเป็นอย่างมากที่เกิดอาการอักเสบจะลืมตาด้านขวาไม่ได้เกือบ 1 อาทิตย์ จากนั้นก็กลายเป็นรอยไหม้ที่ริมขอบตา แต่อาการก็ทุเลาลงเรื่อยฯล่าสุดรอยแผลก็หายเป็นปกติแล้ว จึงอยากเตือนให้ทุกคนระวังภัยจากกิ้งกือโดยเฉพาะบนที่นอนให้ตรวจที่นอนก่อนนอนทุกครั้ง
โพสต์โดย Andaman focus อันดามัน โฟกัส บน 11 กรกฎาคม 2017
ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Andaman focus อันดามัน โฟกัส
โดยคุณแม่ กล่าวต่อว่า หลังจากได้พบกับจักษุแพทย์แล้ว ซึ่งได้ทั้งยากินและยาทามารักษา โดยตนเองสงสารลูกเป็นอย่างมากที่เกิดอาการอักเสบจะลืมตาด้านขวาไม่ได้เกือบ 1 อาทิตย์ จากนั้นก็กลายเป็นรอยไหม้ที่ริมขอบตา แต่อาการก็ทุเลาลงเรื่อยๆ ล่าสุดรอยแผลก็หายเป็นปกติแล้ว จึงอยากเตือนให้ทุกคนระวังภัยจากกิ้งกือโดยเฉพาะบนที่นอนให้ตรวจที่นอนก่อนนอนทุกครั้ง
จากความเชื่อและข้อสงสัยเหล่านี้ ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้ไปสอบถามความรู้จากกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ มาไขข้อสงสัยให้คุณแม่ค่ะ
ผศ.นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า
“กิ้งกือไม่กัดครับ และกิ้งกือส่วนมากไม่ทำให้เกิดปัญหาอะไร แต่จะมีกิ้งกือบางชนิดที่สามารถหลั่งสารพิษซึ่งอยู่บริเวณข้างลำตัว และทำให้เกิดการระคายและอักเสบของผิวหนังได้ จากรูปที่มีการโพสต์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กที่แสดงการอักเสบของผิวหนัง อาจเกิดจากการสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้ระคายผิวหนัง หรือสัมผัสกับกิ้งกือบางชนิดที่หลั่งสารพิษดังกล่าวก็ได้ครับ ซึ่งการรักษาหลังสัมผัสกิ้งกือ คือการล้างด้วยน้ำและสบู่ แต่หากเกิดการอักเสบของผิวหนังลุกลาม ควรให้การรักษาโดยการใช้ยาสเตียรอยด์ทาครับ”
ดังนั้น เมื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงและการรักษาการอักเสบของแผลจากคุณหมอกันแล้ว คุณแม่ก็หายห่วงได้เลยว่า “กิ้งกือไม่กัด” แต่จะมีสารพิษที่อาจส่งผลระคายเคืองต่อผิวหนังลูกน้อยได้ ดังนั้นขอให้ดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากบรรดาสัตว์ทั้งหลายที่ไม่น่าไว้ใจเอาไว้ให้มากที่สุดนะคะ
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!