เมื่อลูกเจ็บคอและพบว่าเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก ควรให้ลูกกินไอติมเยอะ ๆ เพราะจะช่วยลดอาการอักเสบและทำให้ลูกเจริญอาหารขึ้น จริงหรือ?
ให้ลูกกินไอติม! ลดการอักเสบ “ทอนซิลอักเสบในเด็ก”
ทอนซิลอักเสบ คืออะไร?
ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เกิดจากการติดเชื้อบริเวณต่อมทอนซิลซึ่งเป็นต่อม 2 ต่อมที่อยู่บริเวณด้านหลังของลำคอ ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคที่ผ่านเข้าลำคอหรือทางการหายใจ แต่บางทีต่อมทอนซิลนี้ก็ติดเชื้อเสียเอง โดยอาจทำให้มีอาการหลักคือ ต่อมทอนซิลบวมแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีไข้ เสียงเปลี่ยน และมีกลิ่นปาก
สังเกตอย่างไรว่าลูกเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก?
เด็กเล็กที่มีอาการของทอนซิลอักเสบอาจไม่สามารถอธิบายได้ว่ามีอาการอย่างไร คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตจากสัญญาณบ่งบอกต่อไปนี้
- น้ำลายไหล มีสาเหตุจากการกลืนได้ลำบากหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บ
- ไม่ยอมรับประทานอาหาร
- งอแงผิดปกติ เนื่องจากเจ็บคอ และอาจ ปวดศีรษะ ปวดที่หู
- เมื่อส่องดูที่คอ จะพบว่าต่อมทอนซิลบวมและแดง มีชั้นบาง ๆ หรือจุดสีขาวหรือสีเหลืองปกคลุมบนต่อมทอนซิล (อ่านต่อ วิธีส่องดูคอลูก เมื่อ “เป็นหวัดเจ็บคอ”)
- เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยน
- มีกลิ่นปาก
- มีไข้
- ปวดท้อง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
ทอนซิลอักเสบในเด็ก มีสาเหตุมาจากอะไร?
ทั้งไวรัสและแบคทีเรีย สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมทอนซิลได้ โดยต่อมทอนซิลจะช่วยป้องกันการติดเชื้อด้วยการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับเชื้อโรค และเนื่องจากเป็นภูมิคุ้มกันด่านแรก ต่อมทอนซิลจึงเป็นอวัยวะที่เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้เช่นกัน
ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่ของทอนซิลอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสมากกว่าแบคทีเรีย โดยไวรัสทั้งหลายที่ก่อให้เกิดการอักเสบของต่อมทอนซิลยังอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอื่นด้วย เช่น ไรโนไวรัส ไวรัสอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่) ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (ทำให้เกิดโรคกล่องเสียงอักเสบและกลุ่มอาการครู้ป) ไวรัสเอนเทอร์โร (ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก) ไวรัสรูบิโอลา (ทำให้เกิดโรคหัด) ไวรัสอะดีโน (ไวรัสที่มักเป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย) ไวรัสเอ็บสไตน์บาร์ (ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโมโนนิวคลีโอซิส) เป็นต้น
โรคต่อมทอนซิลอักเสบพบได้บ่อยในช่วงเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลาง โดยทอนซิลอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรียพบได้บ่อยในช่วงอายุ 5-15 ปี ขณะที่ทอนซิลอักเสบที่เกิดจากไวรัสจะพบในเด็กเล็กมากกว่า ส่วนวัยผู้ใหญ่มีโอกาสเกิดได้น้อย ทั้งนี้เพราะเด็กวัยเรียนมักมีการสัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับเพื่อนและชอบเล่นสนุกสนาน จึงทำให้ต้องเผชิญกับเชื้อโรคมากมายและเสี่ยงต่อการติดเชื้อทอนซิลอักเสบมากกว่า
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ลูกเป็นทอนซิลอักเสบ ให้กินไอติมได้จริงหรือ?
ลูกเป็นทอนซิลอักเสบ ให้กินไอติมได้จริงหรือ?
คำตอบ : จริง โดยอาการอาการเจ็บคอจากทอนซิลอักเสบต้องได้รับยาปฏิชีวนะที่สั่งให้โดยแพทย์ และควรดื่มน้ำเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวม อักเสบของทอนซิล ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นหรือกินของร้อน เพราะจะทำให้อักเสบมากขึ้น และจะทำให้ยิ่งรู้สึกเจ็บคอมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำให้รับประทานไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมช็อกโกแลต เพราะช็อกโกแลตมีสาร ฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และยิ่งเป็นดาร์คช็อกโกแลตได้จะดีที่สุด เพราะดาร์คช็อกโกแลตจะมีสารฟลาโวนอยสูงกว่าช็อกโกแลตปกติ นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานช็อกโกแลตแท่ง โกโก้เย็น โกโก้ปั่นได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง สำหรับเด็กและเด็กเล็ก ยังไม่ควรทานดาร์คช็อกโกแลตและโกโก้ เนื่องจากในดาร์คช็อกโกแลตและโกโก้มีคาเฟอีนอยู่ในปริมาณค่อนข้างมาก จึงแนะนำให้ทานไอศกรีมช็อกโกแลต หรือไอศกรีมรสอื่น ๆ เพื่อให้ความเย็นบรรเทาอาการอักเสบแทน
ข้อดีอีก 1 อย่างของการทานไอศกรีมเมื่อเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก คือเมื่อเด็กเจ็บคอ มักจะไม่ยอมทานอาหารหรือทานอะไรเลย แม้แต่น้ำเปล่าเพราะเมื่อกลืนแล้วจะรู้สึกเจ็บ ดังนั้นการทานไอศกรีม ซึ่งเป็นขนมที่ลูกชอบทาน จะทำให้ลูกทานได้มากขึ้น และในไอศกรีมมีนมวัว ซึ่งทราบกันดีอยู๋แล้วว่าในนมวัวมีสารอาหารที่มีประโยชน์อยู่หลายชนิด ทำให้แม่ ๆ ยังพอจะคลายกังวลได้ว่าลูกพอจะทานอะไรได้บ้าง แทนที่จะไม่ทานอะไรเลย
การดูแลรักษาเมื่อเป็น ทอนซิลอักเสบในเด็ก
หากอาการทอนซิลอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะมาให้รับประทาน โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลและบรรเทาอาการเจ็บคอของลูกได้ ดังนี้
- หากลูกมีไข้ ควรให้ลูกทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้
- ให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ
- คอยจิบน้ำ หรือดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้คอชุ่มชื้น
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ และดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้สบายคอ เช่น น้ำเย็น หรือไอศกรีมแท่ง
- งดของมันของทอด เพราะอาหารมันอาหารทอดอาจทำให้อาการบวมอักเสบแย่ลง
- ทานยาตามที่หมอสั่งให้ครบ โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ (สำหรับคนที่เจ็บคอจากเชื้อแบคทีเรีย) ต้องรับประทานยาให้ตรงตามเวลา และรับประทานยาให้หมดแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้ว
- สำหรับเด็กที่โตแล้ว ให้กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ สามารถทำได้เองที่บ้าน ใช้เกลือ 1 ช้อนชาผสมน้ำเปล่าประมาณ 250 มิลลิลิตร กลั้วลำคอแล้วบ้วนทิ้ง จะช่วยให้บรรเทาอาการเจ็บคอลงได้
- รักษาความชื้นของบ้าน หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเนื่องจากจะส่งผลให้ระคายเคืองที่คอและเจ็บคอยิ่งขึ้น
- เด็กที่อายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไปอาจอมยาอมเพื่อบรรเทาอาการระคายคอ
- หลีกเลี่ยงสารที่ก่อความระคายเคืองที่คอ เช่น ควันบุหรี่ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย
ทั้งนี้ หากสังเกตเห็นว่าอาการเจ็บคอของลูกไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน กลืนอาหารลำบากหรือกลืนแล้วเจ็บ อ่อนเพลียอย่างมาก รับประทานอาหารได้น้อยมาก ควรพาไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์ และควรต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการรุนแรงอย่างหายใจลำบาก กลืนอาหารได้ยากมาก หรือน้ำลายไหล
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
9 พฤติกรรมการกินยาผิด ๆ ที่ทำให้เสี่ยงตายจาก “เชื้อดื้อยา”
ยาอมแก้เจ็บคอ และบรรเทาอาการไอที่ถูกจัดให้เป็นยาอันตราย
กินยาดักไข้ กันลูกเป็นหวัด เป็นไข้ ได้จริงหรือ?
ลูกเป็นหวัด มีน้ำมูก 5 วิธีรักษาแบบไม่ต้องพึ่งยา
ขอบคุณข้อมูลจาก : ข่าวโมโน 29, www.pobpad.com, สุขภาพนี้ ท่านได้แต่ใดมา, RAMA CHANNEL
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่