เตือนคุณแม่ ๆ ที่กำลังมองหาซื้อ เสื่อรองคลาน ให้ลูกน้อย …หากได้เสื่อที่ไม่ดี หรือมีราคาถูกเกินไป อาจเสี่ยงได้เสื่อรองคลานที่ไม่ได้มาตรฐาน จนเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้!
เสื่อรองคลาน เหมาะสำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด แต่จะสำคัญมากเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยคลาน ซึ่งถือเป็นพัฒนาการขั้นแรก ๆ ของช่วงชีวิตลูกที่พ่อแม่รอคอย ทั้งนี้เด็กหลายคนอาจมีช่วงการคลานที่ต่างกันไป แต่โดยทั่วไปมักเริ่มในช่วง 7-8 เดือนเป็นต้นไป จะเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปบ้าง
⇒ Must read : พัฒนาการทารก แรกเกิด - 1 ขวบ พร้อมเทคนิคส่งเสริมพัฒนาการ
⇒ Must read : รู้ทันพัฒนาการเสี่ยงภัยลูกน้อยแรกเกิด-12เดือน
วิธีเลือกซื้อ เสื่อรองคลาน ให้ลูกน้อย ที่ดีมีมาตรฐาน
แต่เมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยคลาน นอกจากความตื่นเต้นดีใจแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณแม่ๆ ต้องเตรียมการรับมือให้พร้อม >> มาดูกันเลยค่ะว่า คุณแม่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อลูกวัยคลานอย่างไรบ้าง…
1. กระตุ้นให้ลูกคลาน หากลูกถึงวัยแล้วแต่ยังไม่ยอมคลาน พ่อแม่อาจจะค่อยๆ ช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยหัดคืบคลาน โดยการลองทำท่าคลานกับลูก หรือใช้ของเล่นหลอกล่อให้ลูกคลานมาหา ซึ่งไม่ควรบังคับ แต่ควรทำให้เป็นเรื่องสนุกและไม่ควรเร่งรัดจนเกินไป
2. เตรียมอาหารเสริมพลังงาน หลังจากใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนอน หรือไม่ค่อยได้คืบคลานไปไกลมากนัก เมื่อลูกถึงวัยที่จะเคลื่อนไหวมากขึ้น โภชนาการอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ ช่วงนี้คุณแม่อาจจะทำอาหารที่ให้พลังงานกับลูกมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับการใช้งานของลูก
3. ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย พอเริ่มคลานได้ คราวนี้แหละแม่จะตามจับกันจนเหนื่อย ดังนั้นของใช้ เฟอร์นิเจอร์ ปลั๊กไฟ หรือจุดต่างๆ ในบ้านที่อาจจะเป็นอันตรายกับลูกต้องดูแลและเก็บให้เรียบร้อย ของชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ตามพื้น ตามผนังลูกอาจจะหยิบเข้าปากได้
4. เตรียมพื้นที่ให้ลูกคลาน สิ่งสำคัญคือ เมื่อลูกเข้าสู่วัยคลาน แม่ๆ ควรเตรียมพื้นที่ให้ลูกสามารถฝึกคลานได้ดีขึ้น เช่น อาจจะมีแผ่น หรือเสื่อรองคลาน หรือพื้นที่ที่ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป เพื่อส่งเสริมให้ลูกคลานได้ดีขึ้น หากเป็นพรมอาจจะต้องระวังเรื่องฝุ่นที่อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ หรือเบาะที่นอนก็ต้องไม่นุ่มเกินไปจนลูกคลานไม่ถนัด
5. หมั่นดูแลความสะอาดมากขึ้น เวลาลูกคลานไปตามพื้น หรือเสื่อรองคลาน สิ่งสำคัญคือความสะอาด ช่วงนี้คุณแม่ๆ ควรทำความสะอาดพื้นที่ที่ลูกต้องสัมผัสเป็นประจำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกับเด็ก เช็ดทำความสะอาดพื้น และของเล่นต่างๆ ที่ลูกต้องสัมผัส 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
ทั้งนี้สำหรับ เสื่อรองคลาน หรือแผ่นรองคลาน นั้น ถือเป็นหนึ่งในของใช้ของลูกน้อยที่คุณแม่ต้องมีติดบ้านไว้ เพื่อรับมือกับลูกวัยคลาน ทั้งนี้การใช้เสื่อรองคลาน หรือแผ่นรองคลานก็เพื่อช่วยรองรับการกระแทกของลูกน้อยจากพื้นบ้านที่มีลักษณะแข็งโดยตรง
และเพราะลูกวัยคลานอาจต้องใช้ชีวิตหัดคืบคลาน รวมไปถึงนั่งเล่นนอนเล่นอยู่บนเสื่อรองคลาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ต้องเลือกซื้อเสื่อรองคลานที่ดี มีมาตรฐาน เพื่อให้ลูกน้อยใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นเดียวกับคุณแม่ท่านนี้!!!
อ่านต่อ >> “อุทาหรณ์เตือนแม่! ซื้อเสื่อรองคลานให้ลูก ไม่ได้มาตรฐาน อาจเจอแบบนี้!?” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อุทาหรณ์เตือนแม่! ซื้อ เสื่อรองคลาน ให้ลูก
ไม่ได้มาตรฐาน อาจเจอแบบนี้!?
สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหา เสื่อรองคลาน ให้ลูกน้อย หากไม่มีข้อมูลในการเลือกซื้อเสื่อที่ดี อาจเสี่ยงได้เสื่อรองคลานที่ไม่ได้มาตรฐาน จนเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ เช่นเดียวกับเรื่องของคุณแม่ท่านนี้! …ซึ่งได้เล่าวินาทีที่ลูกน้อยเผลอนำเศษพลาสติกที่หลุดลอกออกมาจากเสื่อรองคลาน เข้าปากจนทำให้ติดคอสำลัก โดยคุณแม่ได้โพสต์เตือนผ่านเฟซบุ๊ก Miu Paijittra ว่า…
#อุทาหรณ์ไว้เตือนใจ คุณแม่คุณพ่อหรือคนเลี้ยงเด็กน้อยบ้านที่มีเด็กเล็ก
วันนี้เราอยู่กับลูก 2 คน ลูกได้ 8 เดือนกว่าแล้ว เราไปอาบน้ำปล่อยลูกเล่นคนเดียวตามลำพัง ซึ่งเราให้ลูกเล่นบนพื้นที่เป็นแผ่นรองคลาน
เรากลับเข้าห้องมาก็แต่งตัวไปมองลูกไป แต่คงไปเสี่ยววินาทีที่เราใส่เสื้อผ้า หันมาอีกที น้องของขวัญมีอาการไอเหมือนจะอ้วก
เราเห็นใกล้ๆ มีกระดาษทิชชู เราเลยคิดว่ากินกระดาษเข้าไปหรือเปล่า รีบไปอุ้มแล้วตบหลังเบาๆ น้องก็เริ่มไม่ไหวตาค้างน้ำตาไหลจะอ้วกแต่ไม่ออก เราก็เริ่มทุบแรงขึ้นๆ จนน้องจะค้างไปแล้ว ตัดสินใจทุบหลังอย่างแรง
สรุปน้องอ้วกออกมา แล้วนั่งจ้องกองอ้วกตัวเอง สิ่งที่เราเห็น เอ๊ะ อะไรสีๆ ฟักทองก็ไม่ใช่ น้องไม่ได้กินอะไรนอกจากนม และข้าวกับฟักทองบด เราดูลูกอาการปลอดภัยแล้ว
เราเลยมาจับคลี่ออกดู รู้ไหมค่ะคืออะไร มันคือพลาสติกที่หุ้มเคลือบแผ่นรองคลานค่ะ ซึ่งเราเห็นแล้วว่าลูกดึงจนขาดเล่น แต่เราพลาดเองที่ไว้ใจให้เขาดึงเล่นจนขาดเป็นชิ้น แต่ทุกครั้งเราจะเก็บจากมือน้องทิ้งทันทีที่ขาดและเป็นชิ้นใหญ่
วันนี้ไม่ทันเห็นจริงๆว่าน้องดึงเป็นชิ้นเล็กแล้วเอาใส่ปาก…เราใจหายมาก รู้สึกผิดมาก ต่อไปเราคงจะต้องระวังให้มากกว่านี้ ขอโทษจริงๆเลยลูกรัก….แม่จะเปลี่ยนมาใช้แผ่นยางให้นะคะ
#ภาพข้างล่างคือชิ้นส่วนที่น้องได้กินเข้าไปค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวและภาพจาก คุณแม่ Miu Paijittra
อย่างไรก็ดี แผ่นหรือเสื่อรองคลาน เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อย ในช่วงวัยกำลังหัดคลาน มีส่วนช่วยปกป้องการเสียดสีของผิวหนังเด็กกับพื้นผิวที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ ช่วยให้เด็กๆ คลานได้อย่างอิสระไร้ข้อจำกัดใดๆ ทำให้พัฒนาการของลูกในเรื่องของการเคลื่อนไหวร่างกายนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่สงสัยว่า เสื่อรองคลาน จำเป็นมากหรือน้อยเพียงใด วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้แล้วพร้อมกับวิธีการสังเกต แผ่นรองคลาน หรือเสื่อรองคลาน ที่คุณภาพดี เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นช่วยในการเลือกซื้อ มีอะไรบ้างนั้น ไปศึกษาพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
อ่านต่อ >> “เสื่อรองคลานแบบไหนที่คุณแม่ควรเลือกซื้อให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ประโยชน์ของ เสื่อรองคลาน
มีคุณแม่หลายท่านสงสัยว่า แผ่นหรือเสื่อรองคลาน จำเป็นกับลูกน้อยหรือไม่ หรือมีประโยชน์อย่างไร เพราะบางบ้านที่มีเด็กอ่อนก็มีแผ่นรองคลานเอาไว้ติดบ้าน แต่บางบ้านก็ไม่ได้มีไว้ ซึ่งประโยชน์ของเสื่อรองคลาน ก็คือ
- เสื่อรองคลาน ป้องกันการกระแทก และเสียดสี ผิวหนังของลูกอาจจะเสียดสีกับพื้นผิวต่างๆ และถ้าหากพื้นผิวนั้นมีความแข็ง ผิวหนังของเด็กอาจจะเกิดการถลอกได้ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเจ็บ ดังนั้นเสื่อรองคลานที่ถูกทำออกมาให้มีลักษณะนิ่ม จะช่วยลดปัญหาในส่วนนี้ ช่วยปกป้องผิวหนังของเด็กๆ ได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ลูกน้อยก็อาจจะมีล้มลุกคลุกคลานหรือเสียหลักอยู่บ่อยครั้ง หากเสียหลักในท่าทางที่อันตราย ศีรษะอาจกระแทกพื้นได้ ซึ่งหากมีแผ่นรองคลานก็อาจช่วยป้องกันการกระแทกได้ อันตรายที่เกิดกับลูกน้อยก็จะลดลงตามไปด้วย
- เสื่อรองคลาน ลดข้อจำกัดในการหัดคลาน การฝึกหัดที่ทำให้ลูกได้รับความบาดเจ็บ หรือรู้สึกไม่สบายระหว่างกิจกรรม เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง เมื่อลูกรู้สึกเจ็บจากการเสียดสีหรือการกระแทก อาจทำให้เด็กไม่อยากคลานต่อ ไม่อยากฝึกฝนหรือเกิดอาการงอแง พัฒนาการของเด็กเองจะถูกจำกัดลงไปด้วย
อีกทั้งเสื่อรองคลานยังช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกเพลิดเพลินไปด้วย ซึ่งถ้าได้คลานบนพื้นผิวที่มีความนิ่มไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เด็กๆ จะอารมณ์ดีและรู้สึกเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมนั้น ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แผ่นหรือเสื่อรองคลาน คุณภาพดี สังเกตจากอะไรบ้าง?
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่คิดจะซื้อแผ่นรองคลาน หรือเสื่อรองคลานให้ลูกน้อย แต่พอลองหาดูก็เจอแผ่นรองคลานมากมายหลายชนิดเต็มไปหมด “แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนดีล่ะ” วันนี้เรามีข้อดีและข้อเสียของแผ่นรองคลาน แต่ละชนิด พร้อมทั้งการเลือกซื้อเสื่อรองคลาน ที่ดีมีคุณภาพ มาฝากกันค่ะ
แผ่น หรือเสื่อรองคลาน ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ แผ่นรองคลานแบบจิ๊กซอว์ เสื่อรองคลานแบบผืนใหญ่ และแผ่นรองคลานจากผ้า ซึ่งแต่ละแบบมีลักษณะ และข้อดี – ข้อด้อย ดังนี้ค่ะ
1. แผ่นรองคลานแบบจิ๊กซอว์
ข้อดี
- ราคาถูก
- น้ำหนักเบาขนย้ายได้ง่าย
- สามารถแบ่งออกเป็นชิ้นๆ เพื่อปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ในบ้าน
- บางชนิดสามารถนำมาต่อกันเหมือนเล่นต่อบล็อกก็ได้ เสริมพัฒนาการไปในตัว
- มีความหนาและยืดหยุ่น ช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดี
ข้อด้อย
- ยากในการเก็บและทำความสะอาด
- อาจมีฝุ่นหรือเชื้อโรคสะสมตามร่องของแผ่นรองคลานได้
หลักในการเลือกซื้อ แผ่นรองคลานแบบจิ๊กซอว์
ต้องสังเกตดูเนื้อของโฟมว่าต้องมีเนื้อแน่นเต็มแผ่น ไม่มีกลิ่น มีพิมพ์ลายกันลื่นล้ม เมื่อบิดแล้วสามารถคืนรูปได้ ไม่ยุบเป็นรอยหรือโก่งงอ ไม่มีสาร Formamide ตกค้าง ใช้สีปลอดสารพิษ (Non-Toxic) หรือสีไม่ตกติดมือ และมีความหนามากกว่า 10 มม. ขึ้นไป ที่สำคัญคือต้องได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต
อย่างไรก็ตาม หากซื้อแบบที่ไม่ได้คุณภาพ อาจมีปัญหาขอบของแผ่นมักจะหลุดลอกได้ง่าย รอยต่อไม่เรียบสนิท อาจทำให้มีฝุ่นและเชื้อโรคสะสมอยู่ตามร่องของแผ่นรองคลานได้ค่ะ
อ่านต่อ >> “ลักษณะ/ข้อดีและข้อเสียของเสื่อรองคลาน แต่ละชนิด” คลิกหน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
2. เสื่อรองคลานแบบผืนใหญ่
แผ่นหรือเสื่อรองคลานแบบผืนใหญ่ หรือแบบม้วน หรือบางคนเรียกว่าแผ่นรองคลานเกาหลี เนื่องจากมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลากหลายยี่ห้อ มีทั้งสินค้าเลียนแบบที่มาจากประเทศจีน และสินค้าของแท้จากประเทศเกาหลี มีหลายขนาดให้เลือก แล้วแต่ขนาดพื้นที่ที่ต้องการ โดยสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้
- วัสดุ PE (Polyethylene) มีลักษณะคล้ายโฟมหรือฟองน้ำ มีรูพรุน น้ำหนักเบา ราคาถูก มีทั้งแบบมีลายด้านเดียว หรือ 2 ด้าน ส่วนขอบของแผ่น มีทั้งใช้การรีดขอบ เย็บหุ้มขอบ หรือไม่เย็บขอบ แนะนำให้เลือกซื้อแบบที่ใช้การรีดขอบแทนการเย็บหุ้มขอบนะคะ เพราะหากใช้วิธีเย็บหุ้มขอบ อาจมีการสะสมของเชื้อโรคได้ และทำความสะอาดยากด้วยค่ะ
ข้อดี : น้ำหนักเบา ราคาถูก ม้วนเก็บได้
ข้อด้อย : อายุการใช้งานสั้น เวลาลูกคลานหรือเดินจะมีเสียง และหากถูกของมีคมอาจจะขาดได้ง่าย ทั้งนี้การที่มีน้ำหนักเบา อาจทำให้เลื่อนไปมาเวลาวางบนพื้นได้ค่ะ
หลักในการเลือกซื้อเสื่อรองคลานแบบผืนใหญ่ ที่ทำจาก วัสดุ PE
ควรเลือกที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยว่าปลอดจากสารพิษที่เป็นอันตราย ควรมีความหนามากกว่า 10 มม. ขึ้นไป เพราะถ้าบางเกินไป อาจไม่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ค่ะ และควรมีคุณสมบัติในการกันน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
อย่างไรก็ตาม อย่าเลือกซื้อที่ราคาถูกเกินไป เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากจีน ที่อาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากจะไม่ช่วยป้องกันอันตรายให้ลูกน้อยแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายกับน้องได้ค่ะแผ่นรองคลานที่ทำจากผ้าฝ้าย
- วัสดุ PVC (Polyvinyl Chloride) มีลักษณะคล้ายยาง จึงมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง เนื้อแน่น เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น จึงทนทานไม่ขาดลอกง่าย มักใช้การรีดขอบ มีคุณสมบัติในการกันน้ำ ทำความสะอาดง่าย ซึ่งเสื่อรองคลานชนิด PVC จะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่จะหนักประมาณ 4-10 กิโลกรัม แล้วแต่ขนาดและความหนา ส่วนใหญ่จะมีความหนาตั้งแต่ 0.5-1.6 ซม.
ข้อดี
- นุ่มและทนทานกว่าแผ่นรองคลานชนิดอื่น
- วางแล้วไม่เลื่อนไปมา
- กันน้ำ และทำความสะอาดง่าย
- ม้วนเก็บได้สะดวกเมื่อไม่ใช้งาน
ข้อด้อย
- ราคาแพง
- มีน้ำหนักค่อนข้างมาก
หลักในการเลือกซื้อเสื่อรองคลานแบบผืนใหญ่ ที่ทำจาก วัสดุ PVC
ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่เชื่อถือได้ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย และเป็นสินค้าของแท้ ไม่ใช่ของลอกเลียนแบบ เพราะบางยี่ห้ออาจใช้สีที่ไม่ปลอดภัย และควรเลือกแบบที่มีลายทั้ง 2 ด้าน สามารถกลับด้านใช้ได้ จะคุ้มกว่า เพราะซื้อ 1 เหมือนได้ถึง 2 ค่ะ
3. เสื่อรองคลานแบบผ้า
เป็นแผ่นรองคลานที่ทำจากวัสดุผ้าฝ้าย
ข้อดี : อ่อนโยนต่อผิว ระบายอากาศได้ดี ซักด้วยมือและซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ใช้งานง่ายป้องกันไรฝุ่น มียางกันลื่นด้านล่าง ช่วยยึดเกาะพื้นไม่ลื่นล้มง่าย เย็บเก็บขอบเรียบร้อย ไม่มีความแหลมคม เคลื่อนย้ายและพับเก็บได้สะดวก
ข้อด้อย : ราคาสูง
สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการเลือกซื้อเสื่อรองคลาน
สรุปวิธีการสังเกตคุณภาพของแผ่นรองคลาน หรือเสื่อรองคลาน สำหรับลูกน้อย เพื่อรองรับการใช้งานที่ลงตัว และเสริมสร้างพัฒนาการของลูกให้มีประสิทธิภาพนั้น ได้แก่
1. ความแข็งแรง ทนทาน หากเป็นแบบยางควรเหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย
2. ความหนาของเสื่อหรือเบาะ
3. ใช้สีNon Toxic ปลอดสารพิษ ไม่มีสารตกค้างจึงปลอดภัยสำหรับเด็ก
4. ได้รับ มอก. ไหม / กันน้ำได้หรือเปล่า
5. ทำความสะอาดอย่างไร เช่น เช็ดหรือซัก
6. ไม่ควรมีกลิ่นฉุน เพื่อไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
7. หากเป็นแบบจิ๊กซอว์ ควรเลือกแบบที่รอยต่อประกอบกันสนิท
8. หากเป็นแบบเสื่อ ควรพิจารณาเรื่องการเย็บขอบให้เรียบร้อย
9. บางยี่ห้อจะมีการรับประกันสินค้าให้ด้วย เป็นอีกข้อที่น่าสนใจ
10. ไม่ควรซื้อแบบที่ราคาถูกมากเกินไป เพราะอาจไม่รองรับการกระแทกเพียงพอ
จากข้อมูลที่แนะนำมาข้างต้น ก็เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเลือกซื้อเสื่อรองคลาน ให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานได้แล้วนะคะ แต่อย่าลืมหลักในการเลือกซื้อที่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเป็นสำคัญ
และเมื่อเลือกซื้อเสื่อรองคลานกันมาแล้ว ก็ควรใส่ใจในการเก็บกวาดสิ่งของที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับลูกได้ โดยเฉพาะของชิ้นเล็กๆ เช่น กระดุม ลูกปัด เหรียญ ตัวต่อ ชิ้นส่วนของเล่น เมล็ดผลไม้ ลูกอม เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหยิบสิ่งของเข้าคอ เพราะการเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญ แต่อันตรายก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันนะคะ ใส่ใจเพิ่มขึ้นอีกสักนิด เพื่อให้ลูกเรามีความสุข และปลอดภัยขึ้นได้อีกเยอะเลย
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ของเล่น เสี่ยงอันตราย 9 ประเภท ที่ไม่เหมาะให้ลูกเล่น
- เผย! ของใช้ใกล้ตัว 15 ชนิด มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด
- ของใช้เด็กหมดอายุ เมื่อไหร่ จะรู้ได้อย่างไร?
- ของใช้เด็ก (ผลิตภัณฑ์สุขภาพ) ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะกับอายุลูก
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sunearthshop.com , kjtoys.co.th