ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ดี ถึงจะป้องกันมะเร็งผิวหนัง? บ้านเราเป็นเมืองร้อนค่ะ มีแดดเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งแสงแดดนี่แหละตัวร้ายทำลายผิว ทั้งทำให้เกิด ฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ และที่ร้ายคือ “มะเร็งผิวหนัง” (Skin Cancer) ใครที่ออกแดดแล้วไม่ชอบทาครีมกันแดด อันตรายมากค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบว่า ครีมกันแดดค่า SPF เท่าไหร่ที่ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง มาฝากกันค่ะ
ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ดี
เชื่อว่าทุกคนต้องมีคำถามนี้อยู่ในใจว่า ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ดี ที่ควรเลือกซื้อมาใช้กัน เพราะที่มีอยู่ตอนนี้ทั้ง SPF15, SPF30, SPF50 ฯลฯ ก็เลือกกันไม่ถูกว่าค่ากันแดดแบบไหนที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีมากกว่ากัน ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเกี่ยวกับครีมกันแดดให้มากขึ้น ผู้เขียนมีข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ มาบอกกันค่ะ
สำหรับค่า SPF ที่ได้ยินกันบ่อยๆ เขามีชื่อเรียกแบบเต็มๆ ว่า Sun Protection Factor ค่ะ ซึ่งเป็นค่าการป้องกันรังสี UVB จากแสงแดด ที่เมื่อทาครีมกันแดดลงบนผิวหน้า ผิวกายแล้วทุกคนไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่จะสามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า หรือแสงแดดอ่อนๆ ได้นานกี่นาที กี่ชั่วโมง นั่นเองค่ะ
ซึ่งหลักการคำนวณง่ายๆ คือ ถ้าคุณแม่ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 (10X15 = 150 นาที) ก็จะประมาณ 2.30 ชั่วโมง (*โดย ปกติผิวจะทนแดดอยู่ได้ประมาณ 10 นาที ซึ่งหากตากแดดนานกว่านี้โดยที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด จะสังเกตเห็นว่าผิวเริ่ม แดงๆ และไหม้ได้)
บทความแนะนำ คลิก>> รีวิวครีมกันแดด สำหรับเด็ก ตัวไหนเหมาะกับลูกที่สุด!
การใช้ครีมกันแดด ไม่ว่าจะค่า SPF มากหรือน้อย ให้ดูที่ลักษณะกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันค่ะ ถ้าต้องออกข้างนอกนานๆ หลายชั่วโมงแล้ววันนั้นแดดแรงมาก อาจเลือกใช้ที่มีค่า SPF สูงหน่อย ที่สำคัญควรทาก่อนออกแดด และระหว่างที่ทำ กิจกรรมกลางแจ้งควรทาครีมกันแดดซ้ำลงไปด้วย ซึ่งส่วนมากฉลากข้างบรรจุภัณฑ์จะมีแจ้งไว้ค่ะ ส่วนใครที่ทำงานนั่งอยู่ ออฟฟิศถึงจะมีแอร์เย็นฉ่ำ แต่รังสียูวีก็มาได้กับแสงไฟนีออนนะคะ ฉะนั้นทาครีมกันแดดด้วยนะ อาจเลือกเป็นค่า SPF15 ก็ พอค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีจากแสงแดด หรือหลอดไฟ ก็เสี่ยงมะเร็งผิวหนังได้เหมือนกันค่ะ
อ่านต่อ วิธีสังเกตมะเร็งผิวหนัง หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น โรคมะเร็งผิวหนัง!?
เด็กๆ และผู้ใหญ่ ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอยู่ท่ามกลางกลางแสงแดดเป็นเวลานานๆ เมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเดือน หรือเป็นปี รู้ไหมว่าผลกระทบต่อสุขภาพที่จะตามมาก็คือ การเกิดมะเร็งขึ้นที่ผิวหนัง โดยที่บริเวณศีรษะ และใบหน้า ซึ่งอาการเริ่มเบื้องต้นที่บอกได้ว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง คือ…
- ผื่นหรือก้อนที่เป็นอยู่เดิมมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป
- มีผื่นหรือก้อนที่เกิดขึ้นใหม่และไม่หายใน 4-6 สัปดาห์
- ไฝ ปานที่โตเร็ว มีสีและรูปร่างเปลี่ยนไปจากเดิม มีอาการคันแตกเป็นแผล และมีเลือดออก
- แผลเรื้อรังไม่หายภายใน 4 สัปดาห์
บทความแนะนำ คลิก>> วิธีสังเกตลักษณะต้องสงสัย “มะเร็งไฝ”
ดังนั้นขอแนะนำว่าไม่ควรเล่น หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมเป็นประจำทุกวันก่อนออกแดด ผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดเลย มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับปริมาณรังสียูวีเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าสะสมมากๆ โอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังสูงค่ะ
อ่านต่อ ค่า SPF ในครีมกันแดด ที่ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ดี ป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ ?
ถามว่าในวันที่ไม่มีแดดควรทาครีมกันแดดไหม ควรทาค่ะ เพราะอย่าลืมว่าถึงออกนอกบ้านไม่เจอแสงแดด แต่พอเข้าในร่ม ก็เจอจากแสงไฟนีออนได้นะ จึงนำแนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดให้ติดเป็นนิสัยเลยค่ะ ส่วนเด็กๆ คุณแม่ควรเลือกเป็นครีมกันแดดสำหรับเด็ก เดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกซื้อกันหลากหลายยี่ห้อแล้วค่ะ
มาค่ะ มาว่าเรื่องของเรากันต่อที่ว่า ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ดี จึงจะป้องกันมะเร็งผิวหนังได้!!! แค่พูดมะเร็งไม่ว่าจะมะเร็งชนิดไหนก็น่ากลัวหมดค่ะ ฉะนั้นการป้องกันก่อนเป็นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดนะคะ
อ.พญ.ธัญญา เตชะพิเชฐวนิช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายถึงการใช้ครีมกันแดด เพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนัง ว่าค่า SPF แค่ไหนถึงจะป้องกันมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณหมอได้อธิบายดังนี้…
ความยาวคลื่นหลักที่ทำให้เซลล์ของเราเปลี่ยนกลายไปเป็นเซลล์ไม่ดีได้ ก็คือเป็น UVB ซึ่งทุกคนสามารถทราบค่ากันแดดเท่าไหร่ถึงจะป้องกัน UVB ได้ ให้ดูตรงบริเวณหลอดบรรจุภัณฑ์กันแดด จะระบุค่า SPF ทางการแพทย์ได้ทำการทดสอบมาแล้วว่า
SPF15 ป้องกันค่าแสงแดดได้ 93%
SPF30 ป้องกันค่าแสงแดดได้ 97%
SPF50 ป้องกันค่าแสงแดดได้ 98%
SPF++ ไม่ได้เพิ่มค่าการป้องกันค่าแสงแดดมากไปกว่า 98% เพราะฉะนั้นแนะนำว่าค่า SPF ที่ป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ ควรจะอยู่ที่ค่าประมาณ SPF 30-50 จะดีที่สุด
UVA ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ตัวหลักในการเกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ก็มีการวิจัยแล้วว่า UVA จะเป็นตัวเสริมที่อาจมีผลต่อมะเร็งได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือ UVA เป็นตัวทำให้เกิดการแก่ชรา ค่ากันแดดของ UVA ก็คือค่า PA สำหรับค่า PA ที่ควรเลือกใช้ ควรเป็น PA+++ ขึ้นไป
โดยสรุปก็คือควรใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVB และ UVA คือสามารถป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ และก็ป้องกันการแก่ก่อนวัย
Good to know ครีมกันแดดเพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนัง
- ควรป้องกันได้ทั้งรังสี UVA UVB
- มีค่า SPF ระหว่าง 30-50 เพื่อป้องกันรังสี UVB
- มีค่า PA+++ หรือ PA++++ เพื่อป้องกันรังสี UVA
พอจะได้คำตอบกันแล้วนะคะว่า ควรเลือกใช้ครีมกันแดด SPF เท่าไหร่ ถึงจะสามารถช่วยป้องกันแสงแดดให้ห่างไกลจากการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ถึงแม้จะทาครีมกันแดดมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่แนะนำให้ตากแดด หรืออยู่กลางแจ้งท่ามกลางแสงแดดจัดเป็นเวลานานหลายชั่วโมงกันนะคะ ยิ่งถ้าพาเด็กๆ ไปเที่ยวทะเลตากแดดนานจะป่วยเป็นลมแดด และโรคหวัดแดดได้อีกด้วยค่ะ …ด้วยความห่วงใยและใส่ใจ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
เมื่อลูกเป็นผื่นแพ้ผิวหนัง เพราะเครื่องซักผ้า
วิธีสังเกตลักษณะต้องสงสัย “มะเร็งไฝ”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
อพวช
ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ขอขอบคุณคลิปจาก
Mahidol Channel มหิดล แชนแนล