แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด ที่ทำเอาลูกเกือบไม่รอดปลอดภัย เป็นเรื่องจริงของคุณแม่คนเก่งท่านหนึ่ง ที่ได้อนุญาตให้ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่ลูกอ่อนคนอื่นๆ ที่กำลังเจอกับปัญหาเรื่องเครียดๆ ในการเลี้ยงลูก จะได้มีแรงพลังสู้ต่อไปได้ เหมือนกับคุณแม่ท่านนี้ค่ะ
แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ได้นมแม่จึงรอดปลอดภัย
เชื่อว่าเรื่องจริงจากการ แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด ของคุณแม่น้องใบหม่อนจะทำให้หลายๆ ครอบครัวได้มีกำลังใจในการมีชีวิตที่สู้ต่อไป ไม่ว่าทุกวันจะต้องเจอกับปัญหามากมายแค่ไหนก็ตามค่ะ เอาเป็นว่าเราไปอ่านเรื่องราวต้องสู้ของน้องใบหม่อนกับคุณแม่คนเก่งท่านนี้ด้วยกันเลยค่ะ…
ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อน ว่า เราเคยมาเล่าเรื่องราวของน้องรอบนึงแล้ว แต่เราจะขอกลับมาให้กำลังใจแม่ๆ อีกสักครั้งค่ะ อยากมาแชร์ ประสบการณ์ น้องใบหม่อน ตลอดเวลา 20 วัน ที่โรงพยาบาล
บทความแนะนำ ลูกน้อยคลอดก่อนกำหนด เพราะมีน้ำคร่ำมากไป
วันอังคาร ที่ 19 กรกฎาคม 2559 เราไปเที่ยวบ้านยาย ไปเที่ยวเข้าพรรษา ทำบุญ ไม่ได้ตั้งใจจะไปออกลูก แต่พอเราเข้าห้องน้ำ ก็มีน้ำคร่ำอะไรไหลออกมา แต่ไม่ทันปวดนะ แม่เลยพาไปหาหมอคลินิก หมอตรวจดู ปากมดลูก เปิดได้ 3 เซ็น แล้ว ทั้งๆ ที่ กำหนดคลอด วันที่ 10 สิงหาคม 59 เราคลอดตอน 37 w หมอบอกว่าน่าจะคลอดวันนี้บ่ายๆ หมอเลยให้เรามานอน รพ. แต่เราก็ไม่ปวด นอนประมาน 4-5 ชั่วโมง ตั้ง 10:00 น. จน เลือดออก น้ำคร่ำก็ไหลตลอด แต่ไม่ปวด หมอไม่มีการฉีดยาเร่งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเราฝากพิเศษคลินิก จน 16:00 น. เราปวดจะคลอด ปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ 2-3 นาที แม่เข้าไปให้กำลังใจตลอด เราจับมือแม่ จน 16:45 น. เราทนไม่ไหว เลยเบ่ง ลูกคลอดออกมา ทั้งๆ ที่ไม่มีการทำคลอดใดๆ เลย เพราะไม่ทัน หมอมาทันแค่ตอนเย็บแผล เพราะฉีกนิดหน่อย เราได้ยินว่า คลอดแล้วเวลา 16:45 น. หนัก 2650 กรัม พยาบาลอุ้มลูกมาให้เราดูเพศ ให้ลูกนมเรา ย้ำตาที่ออกมา มันไม่ได้เพราะเจ็บปวดอะไรเลย แต่เพราะเราดีใจที่ได้เห็นหน้าเขา วินาทีนั้น ความเจ็บปวด ไม่ได้อยู่ในสมองเราเลย พยาบาล พาลูกเราไป เราได้ยินเขาพูดว่า เด็กมีการตัวเขียว ปลีกจมูกบาน หายใจไว ต้องส่งตัวไป เนอสเซอรี่ด่วน วินาที นั้น เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเอาลูกเราไปทำไม เขาเลยส่งตัวเราไป ห้องพิเศษ บอกจะเอาลูกไปคืน เรา ปืน แม่ นอนรอ แล้วรอเล่า จนพยาบาล โทรมาบอกว่า ตอนนี้ลูกแย่ ให้แม่และพ่อมาดูลูกด้วย หัวอกความเป็นแม่ ทั้งๆ ที่เจ็บแผล ปวดมดลูก อยู่ แต่ก็กระเสือกกระสน ไปหาลูก เราเห็นสายระโยงระเยงอยู่ที่ตัวลูก เป็น สิบ ยี่สิบสาย ลูกใส่ทิ้ว ช่วยหายใจ ในใจคิดว่า แม่ไปทำกรรมอะไรมา
อ่านต่อ >> แม่คลอดลูกสำลักน้ำคร่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือดเกือบไม่รอด หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด
หมอบอกว่า รู้ใช่มั้ย ว่า ลูกมีอาการตัวเขียว เพราะสำลักน้ำคร่ำ “ค่ะรู้” แล้วเมื่อคืน ลูกมีอาการชักเกร็ง หมอได้ใส่เครื่องช่วยหายใจแบบสั่น เพื่อช่วยให้น้องได้รู้สึกตัวตลอด ได้ให้ยาระงับไว้ และน้อง มีอาการ ติดเชื้อในกระแสเลือด (น้องติดเชื้อดื้อยา) วินาทีนั้น เราล้มทั้งยืน ถามหมอว่า แล้วลูกหนูจะหายมั้ยคะ หมอตอบว่า คนที่เขาหายก็มี คนที่ไม่หายก็มี แต่หมอจะช่วยจนสุดความสามารถ หมอให้เราเซ็นต์ เพื่อยินยอมการรักษา แต่ตัวยาที่รักษาลูก ต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่น แต่โชคดี ที่ลูกสามารถ ใช้สิทธิ์เราได้ แม่พาเรากลับห้อง ทุกคนให้กำลังใจเรา แม่ ปืน พ่อ อยู่ข้างๆ เราเสมอ สิ่งศักสิทธิ์เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งทางใจเราได้ เราเชื่อว่า ถ้าเขาจะเกิดมาเป็นลูกเราจริงๆ เขาต้องสู้ เราไม่เคยทำบาป กับใคร บุญที่เราทำต้อง ช่วยให้ลูกเราหาย เรานอน รพ. 2 คืน หมอบอก ให้เปิดโทรศัพท์ ถ้าลูกมาอาการแย่ ลง จะโทรไป แม่เราไม่ยอม นอนใกล้โทรศัพท์เลย แต่ลูกไม่แย่ลง เรารับรู้ได้แต่ว่าลูกอาการทรงตัว แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว แค่รู้ว่าลูกไม่แย่ลง เราก็ดีใจ แม่บอกว่า หมอเขาเก่งลูกต้องหาย ทุกคนให้กำลังใจ แต่มันไม่ได้ทำให้จิตใจเราดีขึ้นเลย เราไปพักฟื้น ที่บ้านยาย เพราะมันไกลกับ รพ. แม่กับพ่อบอกว่า ยังไงเราต้องไปดูลูกทุกวัน อย่างน้อย เขาจะได้รู้ว่า แม่ กับ พ่อ ไม่ทิ้งเขา เขาจะได้สู้ ตลอดระยะเวลานั้น เราไปดูลูกไม่ได้จริงๆ แต่เรามีปืน ที่คอยอยู่ข้างๆ แล้ว คอย ขับรถ ไปดูลูกทุกวันๆ แล้วบอกอาการเราตลอดว่าลูกเป็นไงบ้าง ผ่านไป 10 กว่าวัน ลูกก็ดีขึ้นบ้าง แย่ลงบ้าง ทรงตัวบ้าง เราได้แต่ร้องไห้
บทความแนะนำ คลอดก่อนกำหนด อันตราย กว่าที่คิด!!!
จนวันที่ 14 หมอบอกว่า ต้องขอเจาะไขสันหลังลูก เพื่อดูเชื้อว่ากระจายไปที่ไหนบ้าง และปืนไม่กล้าบอกเรา ว่า เชื้อได้ลามไปที่สมองของลูก จนวันนั้น เราไปหาลูก หมอบอกเราถึงรู้ แต่หมอบอกว่า หมอให้ให้ยาฆ่าเชื้อ และอาการโดยรวมลูกดีขึ้น ให้เรากลับไปปั๊มนมมาให้ลูก นมเราไม่มีให้ลูกกินเลย เราได้ไปที่คลินิกนมแม่ เราหมั่นกินแต่ของมีประโยชน์ เพื่อเราจะได้มีนมให้ลูก จนป้าหมอที่ ป้าเรารู้จัก เขาคอยเทียวดูใบหม่อนให้เพราะเขาเป็นคนใน สามารถเขาออกได้ตลอด ได้มาบอกเราว่า รู้มั้ยว่าลูกเก่งขึ้นเยอะเลยน้า เขาจะถอดทิ้วออกให้แล้ว ตั้งแต่เราปั้มนมไปให้ลูก ถึงจะไม่มาก เราก็รับรู้เสมอว่าลูกมีการตอบสนองยา และอาการดีขึ้น เรื่อยๆ จนวันที่ 16 เราไปเยี่ยมลูก หมอได้ย้ายลูกเราไปนอนคนเดียวในห้องแยกโรค ตั้งแต่ตอนที่เชื้อขึ้นสมอง แต่พอเราไปถึง เราตกใจ ทำไมในห้องนั้นไม่ใช่ลูกเรานะ เราเลยมาถามพยาบาลว่า อริสรา อยู่ไหนคะพี่ เขาชี้ไป อยู่นี่ค่ะ เราน้ำตาไหล ที่เห็นลูกลืมตามองเรา เวลานั้น เราพูดไม่ออก หมอบอกว่าเดี๋ยวจะใส่เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยหายใจ เพราะอาจจะยังหายใจเองไม่ค่อยได้ลูกเราได้ย้ายห้องไปอีกห้องนึง หมอบอกว่า แม่พร้อมที่จะมานอนดูลูกรึยังคะเรารีบกลับไปเตรียมของ เพื่อที่จะมานอนกับลูก เราดีใจ ทุกคนดีใจมาก แม่บอกว่า ต่อไปนี้ต้องสู้ เพราะขนาดลูกยังสู้เลย ในใจเราคิดแค่ว่า เด็กตัวเล็กๆ คนนี้ ใส่เครื่องช่วยหายใจตั้งแต่แรกเกิดเลยหรอ เขาทรมานตั้งแต่แรกเกิดเลยหรอ เขาทำไมเก่งจังนะ ที่เขาสู้ จนเขาได้ ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ได้ ทั้งๆ ที่ เขามีโอกาสรอด ได้แค่ 10% เท่านั้น เรานอนกับลูกที่ รพ. 2 คืน แล้วเราได้กลับบ้านแล้ว
ตอนนี้ ใบหม่อน ไม่เคยป่วยเลยตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงตอนนี้ มากสุด แค่ ไอ มีน้ำมูก แต่ไม่มีไข้ นมแม่สำคัญนะคะ แล้วใบหม่อน เป็นเด็กที่น่ารัก อารมณ์ดี เป็นที่รักของใครหลายๆ คน #เราอยากขอให้แม่ทุกคนที่หัวอกเดียวกับเรา อยากให้แม่สู้ เพราะขนาด เด็กตัวน้อยๆ เขายังสู้เพื่อเรา เพราะฉนั้น เราต้องสู้เพื่อเขานะคะ 💜 💛 💚 เราเชื่อค่ะว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพราะมันได้เกิดขึ้นกับเราและลูกแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
อ่านต่อ ประโยชน์ของนมแม่ที่ดีต่อลูกคลอดก่อนกำหนด คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ประโยชน์ของ “นมแม่” ที่ให้มากกว่า…
คุณแม่รู้ไหมว่า…วัคซีนแรกของลูกไม่ใช่วัคซีนจากไหน แต่เป็นน้ำนมเหลืองที่ผลิตออกมาในช่วง 1-2 วันแรกหลังคลอด ที่จะมีลักษณะสีเหลืองข้น ซึ่งเด็กทารกแรกคลอดทุกคนควรจะได้รับน้ำนมเหลืองนี้ เพราะเป็นน้ำนมที่มีภูมิต้านทานสูงมาก ที่มีงานวิจัยพบว่า น้ำนมเหลืองช่วยให้เด็กคลอดก่อนกำหนดหายป่วยเร็วขึ้น แข็งแรงเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดลำไส้เน่าในเด็กได้ดีอีกด้วย น้ำนมแม่มีสารอาหารมากถึง 200 กว่าชนิด และนี่เป็นแค่บางส่วนของสารอาหารในน้ำนมแม่ค่ะ ไปดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
บทความแนะนำ สารพัน คำถามเกี่ยวกับ นมแม่ ที่แม่มือใหม่ต้องรู้
กลุ่มคาร์โบไฮเดรต ในนมแม่จะมีน้ำตาลแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ช่วยพัฒนาสมองของลูก แม้ว่าในน้ำนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดจะมีน้ำตาลชนิดนี้ด้วยก็ตาม แต่ในน้ำนมของมนุษย์มีสูงที่สุด
น้ำนมแม่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว มี ดีเอชเอและเอเอ ซึ่งก็คือ โอเมก้า 3 และ 6 เซลล์ประสาทของสมอง เป็นสารอาหารจากธรรมชาติที่มีในน้ำนมแม่ ไม่สามารถสกัดออกมาใส่เสริมในนมอื่นได้ นอกจากนี้ โปรตีนในนมแม่ยังมีส่วนประกอบของ เวย์ 80% และเคซีน 20% โดย เวย์ในนมแม่ยังเป็นแอลฟาแลคตัลบูมิน ช่วยลดภาวะเสี่ยงของการเป็นภูมิแพ้ต่างๆ
ในขณะที่นมอื่นนั้นเป็น เบต้าแลคตัลบูมิน ตัวเบต้านี้จะกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆ ส่วนเคซีนในนมแม่เป็นเบต้าเคซีน ซึ่งย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก สังกะสี และแคลเซียมได้ดี ทั้งสองตัวนี้ไม่สามารถเติมหรือผลิตได้จากโรงงาน นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ที่ในนมอื่นไม่มี จึงเรียกได้ว่า นมแม่มีสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ยังอุดมไปด้วย ภูมิคุ้มกันสำคัญที่ไม่สามารถหาได้จากนมอื่นๆ เช่น Secretary IgA (เป็นหน้าด่านช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ), เม็ดเลือดขาว,ไลโซไซม์ (เอนไซม์ที่ช่วยให้เชื้อแบคทีเรียตายได้), แล็กโตเฟอร์ริน (โปรตีนช่วยต่อต้านเชื้อโรค), Bifidus Growth Factor (สารที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของแล็กโตบาซิลลัส ช่วยให้แบคทีเรียไม่สามารถอาศัยอยู่ในลําไส้ได้) เป็นต้น เพราะนมแม่มีสารต่างๆ ซับซ้อนมากมายที่จะช่วยให้ลูกเรามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
หลังจากอ่านเรื่องราวประสบการณ์ของคุณแม่น้องใบหม่อนแล้ว ทีมงานทุกคนขอขอบคุณที่คุณแม่ได้มาแชร์ประสบการณ์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจให้คุณแม่ท่านอื่นๆ ด้วยนะคะ ท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้องใบหม่อนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นในทุกๆ วัน เป็นกำลังใจให้คุณแม่เช่นกันค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ปากมดลูกสั้น เสี่ยงแท้ง เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด?
แม่แชร์ประสบการณ์เตือน! ลูกท้องเสียถ่ายเหลว ไม่ใช่ยืดตัว แต่เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด
น้ำคร่ำน้อย อันตรายไหม
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก
คุณลูกปลา(แม่น้องใบหม่อน)