อาการ เป็นหวัดเจ็บคอ สามารถพบได้บ่อยในเด็ก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งหากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ลูกจะสามารถหายได้เองใน 3-7 วัน ดูวิธีการส่องดูคอลูกว่าลูกติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ได้ที่นี่
วิธีส่องดูคอลูก เมื่อ “เป็นหวัดเจ็บคอ”
คออักเสบ เป็นหวัดเจ็บคอ คืออะไร?
คออักเสบ หรือ คอหอยอักเสบ (Pharyngitis) เป็นภาวะการอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไปมีการอักเสบ บวม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอเป็นสำคัญ และเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งกลุ่มโรคติดเชื้อและกลุ่มโรคไม่ติดเชื้อ แต่สาเหตุที่พบบ่อย ๆ จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่
คออักเสบเป็นภาวะติดเชื้อที่พบได้บ่อยมาก สามารถพบเกิดได้ในทุกช่วงอายุ แต่ในเด็กจะพบได้บ่อยกว่าในผู้ใหญ่ ความรุนแรงของโรคมักมีไม่มาก และสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วันถ้าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แต่ถ้าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอาจทำให้มีอาการนานกว่า และควรพบแพทย์เพื่อรักษาอาการคออักเสบจากเชื้อแบคทีเรียต่อไป
สาเหตุของการ เป็นหวัดเจ็บคอ
- 70-80% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
- 15-20% เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- และอีกประมาณ 5% เกิดจากการติดเชื้อราซึ่งมักพบในคนที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยเอดส์ เป็นต้น
วิธีการรักษาอาการ เป็นหวัดเจ็บคอ จากเชื้อไวรัส
แนะนำให้การรักษาประคับประคองตามอาการเท่านั้น เช่น ให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารอ่อน ๆ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ สามารถรับประทานยาแก้ปวดลดไข้พาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาแก้หวัด ได้ตามอาการ สำหรับเด็กเล็กควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์จ่ายยาและคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมต่อน้ำหนักตัวลูกก่อน ถึงจะป้อนยาเหล่านี้ได้ และสำหรับเด็กบางราย แพทย์อาจพิจารณาให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำ หากลูกรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้น้อยโดยทั่วไปอาการ เป็นหวัดเจ็บคอ จากไวรัสจะหายเองภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนยาปฏิชีวนะไม่จำเป็นต้องใช้ (เพราะยาปฏิชีวนะมีไว้ใช้สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ และสามารถก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาหากทานพร่ำเพรื่อได้) (อ่านต่อ 9 พฤติกรรมการกินยาผิด ๆ ที่ทำให้เสี่ยงตายจาก “เชื้อดื้อยา”)
วิธีการรักษาอาการเป็นหวัดเจ็บคอจากเชื้อแบคทีเรีย
แพทย์จะให้การรักษาประคับประคองตามอาการดังกล่าวร่วมไปกับการให้รับประทานยาปฏิชีวนะ และผู้ป่วยต้องรับประทานยาปฏิชีวนะให้ครบตามที่แพทย์สั่ง แม้ว่าหลังจากรับประทานยาปฏิชีวนะไป 2-3 วันแล้วอาการจะดีขึ้นก็ตาม เพราะหากไม่รับประทานยาให้ครบ นอกจากจะทำให้โรคกำเริบได้บ่อยแล้วยังอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนและเกิดเชื้อดื้อยาตามมาได้ด้วย
จะเห็นได้ว่าวิธีการรักษาการเป็นหวัดเจ็บคอที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียนั้นแตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรให้ลูกกินยาปฏิชีวนะทันทีที่ลูกเป็นหวัดเจ็บคอ เพราะหากเป็นเพราะเชื้อไวรัส ก็จะเป็นการให้ลูกทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจนำไปสู่อาการดื้อยาในอนาคตได้ แต่!! เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเป็นหวัดเจ็บคอจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย? เรามีวิธีการส่องดูคอลูกว่าลูกเจ็บคอเพราะเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย มาฝากกันค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ วิธีส่องดูคอลูกว่าเจ็บคอจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย?
วิธีส่องดูคอลูกว่าเจ็บคอจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย?
ก่อนเริ่มส่องดูคอลูก คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการอื่น ๆ ประกอบก่อนว่ามีอาการเข้าข่ายที่จะเป็นเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย โดยอาการเจ็บคอจากเชื้อไวรัสมีดังนี้
อาการเจ็บคอจากเชื้อไวรัส
- มีอาการเจ็บคอเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่จะไม่เจ็บตอนกลืน
- มีอาการหวัด น้ำมูกใสไหล
- ไอ เสียงแหบ
- มีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย
- ตาแดง
- บางรายอาจมีอาการท้องเดินหรือถ่ายเหลวร่วมด้วย
อาการเจ็บคอจากเชื้อแบคทีเรีย
- ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารลำบาก
- มักจะไม่มีอาการน้ำมูกไหล ไอ หรือตาแดงแบบการอักเสบจากไวรัส
- มีไข้สูง
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- อาจพบต่อมน้ำเหลืองโต
- บางรายอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนร่วมด้วย
วิธีการแยกอาการของโรคโดยการส่องดูคอ (คลิป)
หากเป็นหวัดเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส จะมีอาการคอแดง ทอนซิลบวมแดง ผนังคอหอยอาจมีลักษณะแดงเพียงเล็กน้อยหรือไม่ชัดเจน แต่หากเป็นหวัดเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากอาการเจ็บคอมากแล้ว เมื่อส่องดูในลำคอ จะพบว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้
- ลิ้นไก่บวมแดง
- ทอนซิลบวมแดง
- มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล
- คอแดง
- มีฝ้าสีเทาที่ลิ้น
การส่องดูคอลูกนั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ทราบได้ว่าลูกมีอาการหนักหรือเบาแค่ไหน และเกิดจากการติดเชื้ออะไร และจะได้รู้ถึงแนวทางในการรักษาที่ถูกต้อง และแม้ว่าลูกจะมีอาการเจ็บคอจากเชื้อไวรัส แต่หากลูกรู้สึกเจ็บคอจนรับประทานอาหารหรือน้ำไม่ได้ ก็ไม่ควรปล่อยให้หายเองนะคะ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์สั่งยาเพื่อบรรเทาอาการ และหากลูกมีอาการเจ็บคอนานเกินกว่า 7 วัน หรืออาการไม่ดีขึ้น ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เช่นกัน เพราะเชื้อไวรัสอาจกลายเป็นเชื้อแบคทีเรียได้
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ยาอมแก้เจ็บคอ และบรรเทาอาการไอที่ถูกจัดให้เป็นยาอันตราย
5 เคล็ดลับแก้ อาการไอ ละลายเสมหะ เมื่อลูกเป็นหวัด
7 โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม ที่ต้องระวัง
เด็กป่วย ต้องป่วยแค่ไหน? ถึงหยุดเรียน
ขอบคุณข้อมูลจาก : Social Marketing Thaihealth by สสส., medthai.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่