ลูกลมหายใจเหม็น อาจไม่ได้มาจากอาการป่วยหรืออาการอักเสบจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่อาจเป็นเพราะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันรูจมูกอยู่ก็เป็นได้
ลูกลมหายใจเหม็น นาน 2 สัปดาห์ พบกระดูกไก่ติดจมูก!!
ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอนำอุทาหรณ์จากคุณแม่ท่านหนึ่งที่ได้ฝากเตือนแม่ ๆ คนอื่น ๆ หลังพบว่า ลูกลมหายใจเหม็น นานถึง 2 สัปดาห์ จึงได้พาลูกไปพบหมอ และได้ยามาทาน แต่ผ่านไป 4 วัน กลับพบว่าลมหายใจลูกกลับมีกลิ่นเหม็นมากกว่าเดิม คุณแม่จึงนึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านข่าว เด็กที่มีหนังยางติดอยู่ที่รูจมูก จึงให้ลูกลองสั่งน้ำมูกแรง ๆ พบมีสิ่งแปลกปลอมก้อนเล็ก ๆ หลุดออกมา ซึ่งสิ่งแปลกปลอมนั้นคือกระดูกไก่นั่นเอง! อ่านรายละเอียดข่าวได้ที่นี่
“ปกติลูกสาว ไม่ไช่คนซน หรือชอบเล่นสิ่งของเล็กๆ เข้ารูจมูก” วลัยลักษณ์ แซ่จ๋าว อาศัยในประเทศมาเลเซีย ผู้เป็นแม่ พูดถึงอุปนิสัยของ “เจนนิเฟอร์” ลูกสาวลูกครึ่ง จีน-มาเลเซีย-ไทย วัย 2 ปี 11 เดือน และย้อนเล่าเหตุการณ์ ลูกสาวไม่เคยมีประวัติ “ลมหายใจเหม็น”
แต่ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 62 ในช่วง 1-3 วันแรก เวลาลูกหายใจจะมีกลิ่นเหม็นนิดๆ เมื่อใช้ไฟฉายส่องดูรูจมูกก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเเพราะลูกชอบแคะจมูกที่บางครั้งแคะจนเลือดออก แต่ด้วยความสงสัยจึงให้ผู้เป็นพ่อพาลูกไปโรงพยาบาลของรัฐฯ ใกล้บ้านเพื่อให้แพทย์ตรวจ หลังกลับจาก รพ. ผู้เป็นพ่อ เล่าให้ฟังว่า คนทำบัตรคิวไม่ยอมทำคิวให้ บอกว่าที่ลมหายใจเหม็น เป็นเรื่องปกติมาจากช่องปาก และแพทย์ส่องไฟฉายดูรูจมูก ก็ไม่พบความผิดปกติใด ๆ
แม้ได้รับคำตอบจากแพทย์แล้ว แต่เธอยังไม่วางใจนัก คอยสังเกตอาการของลูกทุกวัน วันละหลายๆ รอบ จากวันที่ 5 ,6,7,8 กลิ่นเหม็นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกทนไม่ไหว และคิดว่า “นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว” เพราะลูกชายอีก 2 คน ไม่มีลมหายใจเหม็น มีแต่ลูกสาวคนเดียวที่มีกลิ่นเหม็นจากรูจมูกขวา ผู้เป็นพ่อจึงพาไปพบแพทย์ที่ รพ. เดิม ได้รับการตรวจเบื้องต้นทั่วไป จากนั้นพบอาจารย์แพทย์ ๆ วินิจฉัยว่าลูกชอบแคะจมูกจนอักเสบ ให้ยามากินและหยอด พร้อมพูดให้กำลังใจเดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องเครียด ถ้าไม่หายเหม็น ให้กลับมาหา เมื่อกินยาที่ให้หมดแล้ว แล้วจะทำการส่องกล้องดูว่ามีอะไรผิดปกติ
ผ่านไป 4 วัน หลังใช้ยาตามแพทย์สั่ง “กลิ่นเหม็น”จากรูจมูกไม่หาย หนำซ้ำเหม็นเน่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เป็นแม่นึกขึ้นได้ เคยอ่านเจอข่าวดังเมื่อปี 57 เกี่ยวกับเด็ก 4 ขวบ ยัดหนังยางเข้าจมูก จึงเกิดสงสัยว่าลูกสาวคงเป็นอาการเดียวกัน จึงให้ลูกสั่งน้ำมูกแรง ๆ หลายครั้ง จนพบต้นตอทำให้ลมหายใจลูกเหม็นอยู่นานเกือบ 2 สัปดาห์ ที่แท้เป็นเพราะ “กระดูกไก่ 1 ข้อ” นั่นเอง สร้างความโล่งใจและสบายใจกับเธออย่างมาก
“ตอนแรกนึกว่าเป็นขี้มูกเฉยๆ พอรีบหันไปดู แม่เจ้า หัวใจจะวาย เพราะเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด กลิ่นมาจากกระดูกจริงๆ เพราะพอกระดูกหลุดออก กลิ่นก็หายเลย ต้องขอบคุณ คุณแม่ท่านนั้นมากที่มาแชร์ประสบการณ์ ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเองเลยจริงๆ แต่เกิดขึ้นแล้วเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เพื่อจะเป็นประโยชน์กับแม่ ๆ ทุกคน โดยเฉพาะคนมีลูกเล็กๆ
สำหรับสาเหตุ “กระดูกไก่เข้าไปในรูจมูกลูก” ได้อย่างไรนั้น ผู้เป็นแม่ ไขข้อสงสัยข้อซักถามนี้ว่า ตอนลูกชายอายุ 7 ขวบ กำลังกินข้าว ซึ่งวันนั้นเธอทำตุ๋นขาไก่เป็นกับข้าวให้ลูกๆ กิน ลูกชายกินขาไก่ก็วางกระดูกบนโต๊ะไว้ ลูกสาวก็มาเล่นกับลูกชายตามปกติ แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้จะหยิบกระดูกข้อไก่มาเล่น แล้วเผลอใส่เข้าในจมูก ตอนนั้นไม่มีใครรู้ระแคะระคายอะไร ลูกชายไม่ได้สังเกต เนื่องจากหิวมาก หลังเลิกเรียนมาถึงบ้านก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว ส่วนลูกสาวไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวถูกดุ หลังรู้ต้นตอที่แท้จริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เธอจึงสอนลูกสาว ห้ามนำสิ่งของใดๆ เข้าจมูก และฝากเตือนคุณแม่ๆ คนอื่นๆ อย่านิ่งนอนใจยามลูกมีอาการผิดปกติ
“ฝากถึงคุณแม่ทุกท่าน ให้คอยสังเกตเวลาลูกชอบแเคะจมูก ว่ามีกลิ่นเหม็นไหม มีอะไรผิดปกติกับจมูกลูกหรือเปล่า มีของแปลกปลอมเข้าไปไหม ถ้ารู้สึกว่ากลิ่นผิดปกติ หรือถ้ากลิ่นลมหายใจเหม็นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ให้พาไปพบหมอโดยเร็ว อย่าปล่อยไว้นาน บางทีสิ่งที่เรามองไม่เห็น ไช่ว่าจะไม่มีอะไรอยู่ข้างไน หากเข้าตื้น ๆ อาจพอเห็น แต่ถ้าลึก ๆ ไม่เห็นแน่ ๆ” ผู้เป็นแม่ฝากข้อคิดทิ้งท้าย
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก : https://www.thairath.co.th/content/1512451
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ทำอย่างไรเมื่อลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก สาเหตุ ลูกลมหายใจเหม็น
ทำอย่างไรเมื่อลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก สาเหตุ ลูกลมหายใจเหม็น
สิ่งแปลกปลอมติดจมูก มีอาการอย่างไร?
การมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูกนั้นพบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่เนื่องจากไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากนัก โดยส่วนมากผู้ปกครองมักจะรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในหลายวันถัดมาหรืออาจกินเวลาเป็นเดือน เนื่องจากสิ่งที่ติดอยู่นั้นอาจมีขนาดที่เล็กมาก ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกไปได้ วิธีสังเกตุว่าลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก ดูได้ดังนี้
- ถ้าสิ่งแปลกปลอมเป็นสิ่งมีชีวิต เช่น ปลิง ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บในจมูก หรือมีเลือดไหลอยู่เรื่อยๆออกจากจมูกข้างเดียว ข้างที่มีสิ่งแปลกปลอม
- ถ้าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ไม่มีชีวิต ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการหลัก ๆ 2 อย่าง คือ
- ไม่ค่อยทราบแต่แรกว่ามีสิ่งแปลกปลอม ยกเว้นว่าได้ประวัติว่า เด็กใส่สิ่งของเข้าจมูก และผู้ปกครองสังเกตเห็นว่า มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูก เช่น เม็ดพลาสติก หรือเศษโลหะ
- เด็กมีน้ำมูกข้างเดียว ลูกลมหายใจเหม็น เป็นหนองมีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดปน เกิดจากเมื่อสิ่งแปลกปลอมติดอยู่นานๆ จะเกิดการอักเสบติดเชื้อขึ้น ในระยะหลัง ๆ อาจเกิดไซนัสอักเสบตามมาได้ด้วย
- ถ้าเกิดจากก้อนเลือด ผู้ป่วยมักมีอาการแน่นจมูกตามหลังการมีเลือดออกจากจมูก หรือถ้าเกิดจากน้ำมูก ผู้ป่วยก็มักมีอาการมีน้ำมูกเรื้อรังนำมาก่อน
ข้อควรปฏิบัติเมื่อลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก
- เมื่อพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมในช่องจมูก ต้องรีบพาลูกมาพบแพทย์ อย่าตื่นตกใจจนเกินเหตุ และต้องคอยปลอบให้กำลังใจแก่เด็กด้วย
- ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ตื้น อาจจะลองขยับโยกปลายจมูกดู หรือให้ลูกสั่งน้ำมูกแรง ๆ ใช้มือปิดรูจมูกอีกข้าง และให้เด็กสั่งน้ำมูกแรง 2 – 3 ครั้ง อาจจะทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาได้เอง หากไม่ออก ควรพาไปพบแพทย์
- ในผู้ป่วยบางราย แพทย์อาจจะต้องเอาสิ่งแปลกปลอมออกภายใต้การดมยาสลบ ดังนั้นจึงแนะนำให้งดน้ำและอาหารก่อนมาพบแพทย์ เพื่อป้องกันการสำลักเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าปอดช่วงดมยาสลบ
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก ห้ามทำสิ่งนี้
- อย่าพยายามเอาคีมหรือเครื่องมือต่าง ๆ คีบเอาสิ่งแปลกปลอมออกเอง เพราะอาจจะดันเอาสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปในหลอดลมหรือปอดได้
- อย่าใช้เครื่องมือแข็ง ๆ เขี่ยสิ่งแปลกปลอม เพราะลูกอาจไม่ให้ความร่วมมือ และจะสะบัดศีรษะ จนเกิดการบาดเจ็บของจมูกได้
- ห้ามดันสิ่งแปลกปลอมให้ตกลงไปในคอ เพราะอาจสำลักเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอมลม ส่งผลให้เกิดทางเดินหายใจอุดตัน อาจถึงเสียชีวิตได้
เนื่องจากลูกยังเล็กอยู่ จึงไม่สามารถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองได้โดยละเอียด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ทราบว่ามมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูกลูก สิ่งที่สามารถบอกได้คือ ลูกลมหายใจเหม็น นั่นเอง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตลมหายใจของลูกด้วย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการมีสิ่งแปลกปลอมติดจมูก
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
อุทาหรณ์เตือนแม่! ลูกน้อยถูกน้ำร้อนลวก จากสายยางที่ตากอยู่กลางแดด
หมอเตือน! 3 ภัย 4 โรคในหน้าหนาว เด็กเล็กเสี่ยงเจ็บตายสูงขึ้น
โรคหัดระบาด!! ตายแล้ว 23 ราย รีบพาลูกฉีดวัคซีน
ขอบคุณข้อมูลจาก : haamor.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่