AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สัญญาณเตือนโรค “มะเร็งรังไข่” ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้!

มะเร็งรังไข่

รู้ไหมว่า? ปัจจุบันโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในประเทศไทย ในสตรีนอกจากโรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งปากมดลูกแล้ว โรค มะเร็งรังไข่ สาวๆ ก็ควรพึงระวังด้วย

มะเร็งรังไข่ เป็น เซลล์เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นในรังไข่ของเพศหญิง เป็นมะเร็งที่พบได้มากของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทั้งนี้ยังพบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ เป็นหนึ่งในโรคที่คุกคามชีวิตและสุขภาพร่างกายของผู้หญิงอย่างร้ายแรง โดยโรคมะเร็งรังไข่จะพบมากเป็นอันดับ 6 ของโรคมะเร็งในสตรี และมีโอกาสเกิดโรคประมาณ 100,000 คนต่อปี โดยจะพบมากในช่วงอายุ 40-60 ปี แต่ในเด็กวัยก่อนหรือหลังวัย 10 ปีก็อาจจะพบได้เช่นกัน

มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องระวัง

รังไข่ คือ อวัยวะเพศอย่างหนึ่งของผู้หญิง มีลักษณะคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ มีขนาดทั่วไปประมาณ 2-3 เซนติเมตร จะอยู่ข้างปีกมดลูกทั้งสองข้าง หน้าที่หลัก ๆ คือ ผลิตไข่สำหรับผสมกับเชื้อของเพศชายจนกลายเป็นตัวอ่อนฝังอยู่ในโพรงมดลูก อีกหน้าที่สำคัญคือผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ทั้งนี้สามารถจำแนกชนิดของมะเร็งรังไข่ตามตำแหน่งเริ่มต้นของเซลล์มะเร็งได้ 3 กลุ่ม คือ

1. Epithelial Tumors : มะเร็งเยื่อบุผิวรังไข่ จุดเริ่มต้นที่เซลล์เยื่อบุผิวรังไข่และช่องท้อง เป็นกลุ่มที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณ 90% ของมะเร็งรังไข่

2. Germ Cell Tumors: มะเร็งฟองไข่ จุดเริ่มต้นของก้อนเนื้องอกที่เกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ต้นกำเนิด พบได้ร้อยละ 5-10 ของมะเร็งรังไข่ มักพบในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี

3. Sex Cord-Stromal Tumors: มะเร็งเนื้อรังไข่ จุดเริ่มต้นที่เนื้อเยื่อเกี่ยวกันของรังไข่ ซึ่งผลิตฮอร์โมนเพศหญิง โอกาสพบน้อยมาก

ทั้ง 3 กลุ่มข้างต้นยังสามารถแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของร่างกายที่เรียกว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะแพร่กระจายได้ด้วย

Must readพัฒนาการของทารกในครรภ์ ตั้งแต่ปฏิสนธิ จนกระทั่งเกิด (มีคลิป)

โรคมะเร็งรังไข่มี 4 ระยะเช่นเดียวกับโรคมะเร็งอื่นๆ และในแต่ละระยะยังแบ่งย่อยได้อีก เพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้เป็นข้อบ่งชี้ทางการรักษาและในการศึกษาวิจัย ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงแต่ 4 ระยะหลักได้แก่

อ่านต่อ >> “สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งรังไข่” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

♣ โรคมะเร็งรังไข่ มีสาเหตุจากอะไร ?

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ที่แน่ชัด แต่พบมีปัจจัยเสี่ยงคือ

◊ สาเหตุการเกิดโรค

ปัจจุบันข้อมูลทางการแพทย์ยังไม่มีการระบุที่แน่ชัด แต่สาเหตุเสริมที่มีผลทำให้เกิดโรคได้คือ

1.สภาพแวดล้อม เช่น สารเคมี อาหาร และพบว่าในประเทศอุตสาหกรรมมีผู้ป่วยมะเร็งรังไข่มากกว่าประเทศเกษตรกรรม
2.สตรีผู้ที่ไม่มีบุตร หรือมีบุตรน้อย
3.ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก และระบบทางเดินอาหาร จะมีโอกาสเป็นมากกว่าคนปกติ
4.พันธุกรรม โดยเฉพาะคนที่มีญาติสายตรงที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่ต้องระวัง

อ่านต่อ >> สัญญาณเตือนโรค “มะเร็งรังไข่” และวิธีการป้องกันรักษา” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

สัญญาณเตือนโรค “มะเร็งรังไข่”

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ จะมีอาการคล้ายคลึงกับอาการที่เกิดจากความผิดปกติในระบบอื่น ๆ โดยคุณผู้หญิงสามารถสำรวจอาการตัวเอง ได้จากสัญญาณเตือน ต่อไปนี้

1. มีอาการท้องอืดอยู่ตลอดเวลา

2. มีก้อนในช่องท้อง เชิงกราน จึงอาจทำให้เกิดอาการแน่นหรือปวดท้อง

3. ก้อนเนื้ออาจกดเบียดลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทำให้รู้สึกปวดถ่วงถ่ายอุจจาระไม่สะดวกหรือลำบาก

4. เมื่อก้อนมะเร็งโตขึ้น จะกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ถ่ายปัสสาวะบ่อยและขัด

5. เมื่อเซลล์มะเร็งมีการกระจายไปในช่องท้อง อาจทำให้เกิดน้ำในช่องท้องซึ่งจะทำให้ดูเหมือนอ้วนขึ้นได้ ท้องโตขึ้นกว่าเดิม

6. เบื่ออาหาร ผอมแห้ง น้ำหนักลด

7. อาจมีประจำเดือนผิดปกติ บางรายอาจพบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติไป

8. ในบางรายอาจไม่มีการแสดงอาการเลย

หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว คุณแม่ๆ รวมทั้งคุณผู้หญิงที่ยังไม่มีลูก ควรเช็คอย่างเร่งด่วนว่าร่างกายของคุณมีอาการคล้ายคลึงกับอาการเตือนตามด้านบนหรือไม่ ถ้ามีแล้วละก็แนะนำรีบไปพบแพทย์ด่วนเพื่อตรวจเช็คอาการ เพราะคุณอาจกำลังจะเป็นโรคมะเร็งรังไข่ได้

การวินิจฉัยและตรวจหาโรค 

1.การตรวจภายในอาจคลำพบก้อนในบริเวณท้องน้อย โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือนหากคลำพบก้อนรังไข่ให้สงสัยไว้ก่อน เพราะปกติวัยหมดประจำเดือนรังไข่จะฝ่อ
2.การทำแพพสเมียร์จากในช่องคลอด ส่วนบนทางด้านหลัง อาจพบเซลล์มะเร็งของรังไข่ได้
3.การตรวจด้วย เครื่องความถี่สูงอาจช่วยบอกได้ว่ามีก้อนในท้อง ในรายที่อ้วนหรือหน้าท้อง หนามาก คลำด้วยมือตามปกติตรวจไม่พบ
4.การผ่าตัดเปิดช่องท้อง วิธีนี้เป็นการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด สามารถตัดชิ้นเนื้อมาตรวจชนิดของมะเร็ง และทราบถึงระยะของโรคด้วย

√ การรักษา

โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการผ่าตัดเป็นวิธีแรกทำการรักษา แพทย์จะตัดออกให้ได้มากที่สุด ต่อมาจะรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด

♥ การป้องกัน

เนื่องจากว่าโรคนี้ไม่ค่อยแสดงอาการ ดังนั้นควรหมั่นสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอวิธีที่ดีที่สุดคือ รับการตรวจภายในหรือตรวจด้วยคลื่นความ ถี่สูง โดยแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

ฝากถึงผู้หญิงทุกคนว่าโรคมะเร็งหากตรวจพบไว สามารถรักษาให้หายขาดได้ และอย่าละเลยใส่ใจสุขภาพ ควรตรวจร่างกาย ตรวจภายในอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักนะคะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ  nci.go.th,โรงพยาบาลพญาไท phyathai.com , www.thaijobsgov.com , healthfood.muslimthaipost.com , haamor.com