ไวรัส RSV เวลาที่เด็กๆ เจ็บป่วย ยิ่งโดยเฉพาะกับลูกวัยเล็กๆ นี่น่าสงสารมากค่ะ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะต้องสื่อสารบอกพ่อแม่ยังไงว่าเขาเจ็บ หรือปวดตรงไหน ที่ทำได้คือร้องไห้งอแงเพราะพิษไข้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะมาชวนพ่อแม่ให้ตระหนักถึงไวรัสร้ายที่พร้อมจะทำลายสุขภาพของลูกได้ทุกโอกาสหากร่างกายอ่อนแอ นั่นคือ RSV ไวรัส!!!
ไวรัส RSV วายร้ายสุขภาพที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม
สองสามวันก่อนผู้เขียนไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล และต้องผ่านแผนกเด็กด้วย ซึ่งก็เห็นว่ามีเด็กเล็กรุ่นราวคราวเดียวกับเด็กๆ ที่บ้าน ก็เลยสอบถามพยาบาลว่าทำไมเด็กๆ ป่วยกันมากจัง ก็ได้ความว่ามีเด็กๆ อยู่หลายคนที่ป่วยด้วยอาการหวัดแล้วมีอาการแทรกซ้อนลามเป็นRSV เราก็ตกใจ ว่าเอ๊ะ!! RSV ส่วนมากจะก่อโรคระบาดในช่วงหน้าฝนนี่นา จนสอบถามได้ความว่า เด็กๆ สามารถป่วยด้วย RSV ได้ถ้าร่างกายอ่อนแอ หรือมีอาการหวัด หายใจไม่สะดวกเป็นทุนเดิมอยู่ด้วย
Must Read >> อัพเดทอาการ น้องแมกซ์เวลล์ติดเชื้อ ไวรัส RSVลามลงปอด
แต่รู้ไหมคะว่าเจ้าไวรัส RSV นี่เรียกได้ว่าวายร้ายทำลายสุขภาพของเด็กๆ ได้อย่างร้ายกาจมากค่ะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่พ่อแม่ทุกคนจะมองข้ามกันได้เลยแม้แต่นิดเดียว เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับไวรัส RSV กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ เพื่อจะได้ป้องกันลูกหลานของเราทุกคนให้ปลอดภัยจากอาการเจ็บป่วยด้วยไวรัสร้าย RSV !!
อ่านต่อ >> “RSV มีอาการอย่างไร?” หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ไวรัส RSV คืออะไร มีอาการอย่างไร?
ครอบครัวไหนที่ลูกๆ ไม่เคยเจ็บป่วยด้วย RSV อาจไม่รู้ว่าไวรัสชนิดนี้คืออะไร สำหรับ RSV มาจาก Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ยิ่งหากเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก เชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้
สำหรับอาการของโรคติดเชื้อไวรัส RSV บางอาการจะคล้ายๆ กับอาการไข้หวัดธรรมดา นั่นคือ มีไข้แต่ไข้ไม่สูงมาก ไอ จาม ทั้งอาการที่เพิ่มเข้ามาและอาจเป็นไปได้ว่าเด็กๆ อาจได้รับเชื้อไวรัส RSV มีอาการดังนี้
- หอบเหนื่อย
- หายใจเร็ว หายใจแรง
- หายใจครืดคราด
- ตัวเขียว
- มีเสียงหวีดในปอด (เพราะเยื่อบุทางเดินหายใจบวมอักเสบ และหลอดลมหดตัว)
- มีเสมหะมาก
- ไอโขลกๆ(1)
และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวียังไม่มียารักษาเฉพาะโรค ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะให้การรักษาไปตามอาการที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม ยาลดไข้ หรือการพ่นยาให้กับเด็กที่ป่วย
อ่านต่อ >> “การป้องกันลูกป่วยจากไวรัส RSV” หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อาร์เอสวี (RSV) มีการติดต่อของโรคได้อย่างไร?
ไวรัสอาร์เอสวีสามารถแพร่กระจายผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจเช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เป็นต้น และไวรัสชนิดนี้สามารถทนอยู่นอกร่างกายได้หลายชั่วโมง ดังนั้นนอกจากการได้รับเชื้อผ่านการไอจามใส่กันแล้ว ยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสแล้วนำเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปากและเยื่อบุดวงตาได้ ภายหลังการได้รับเชื้อผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ตั้งแต่หลังติดเชื้อ 2–3 วันไปจนถึง 2–3 สัปดาห์ ดังนั้นในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการแสดงควรลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นโดยการใส่ผ้าปิดปาก(3)
ไม่อยากให้ลูกป่วยด้วยไวรัสอาร์เอสวีควรป้องกันอย่างไร?
นพ.ประสงค์ พฤกษานานนท์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์(2) ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ ในการดูแลป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากไวรัส RSV ดังนี้
- หมั่นให้เด็กๆ ล้างมือบ่อยๆ ไม่ว่าจะหลังการเข้าห้องน้ำเสร็จ หรือก่อนจะทานข้าว หรือหยิบจับขนม อาหาร น้ำดื่มเข้าปาก ต้องแน่ใจว่ามือที่จะสัมผัสกับอาหารก่อนเข้าปากนั้นสะอาดดีแล้ว
- หากลูกป่วยควรแยกออกจากเด็กปกติ เพื่อป้องกันการไอจามแพร่เชื้อให้กับผู้คนที่อยู่รอบข้าง ถ้าลูกเริ่มเข้าเนิร์สเซอรีหรือโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกหยุดเรียนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติ(2)
อ่านต่อ >> “7 ขั้นตอนล้างมือ ลดลูกป่วย RSV” หน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
7 ขั้นตอนล้างมือให้สะอาด สามารถลดป่วยจากไวรัสอาร์เอสวี ได้นะ!!
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ทุกครอบครัวรักษาความสะอาดได้ง่ายๆ จากการล้างมือให้สะอาด ยิ่งกับเด็กๆ ที่ร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันโรคไม่มาก พ่อแม่ควรสอนให้ลูกติดเป็นนิสัยด้วยการล้างมือ ห่างไกลโรค
- เริ่มล้างด้วยน้ำและสบู่ โดยใช้ฝ่ามือถูกัน
- ใช้ฝ่ามือถูหลังมือ และนิ้วถูกซอกนิ้ว
- ใช้ฝ่ามือถูฝ่ามือ และนิ้วถูซอกนิ้ว
- ใช้หลังมือถูฝ่ามือ
- ใช้ฝ่ามือถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบ
- ใช้ปลายนิ้วมือ ถูขวางฝ่ามือ
- ใช้ฝ่ามือถูกรอบข้อมือ
การลดอัตราการเจ็บป่วยให้กับเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยได้ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดไม่ว่าจะเป็นร่างกาย อาหาร น้ำดื่ม เสื้อผ้า อุปกรณ์ของใช้ หรือของเล่น ฯลฯ เพราะเชื้อโรค แบคทีเรียสามารถก่อตัวขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และไม่เลือกฤดูกาล ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการดูแลสุขภาพให้ลูกแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายอ่อนแอ ก็สามารถเจ็บป่วยขึ้นมาได้ และหนักสุดคือการถูกแทรกซ้อนด้วยไวรัสร้ายต่างๆ ที่บางโรคไม่มียารักษา และเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่พ่อแม่ คุณครู หรือผู้ดูแลเด็ก ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
โรคไข้เลือดออก วิธีสังเกตอาการและวิธีป้องกัน!
โรคลมแดด วายร้ายหน้าร้อนของเด็กเล็ก
การติดเชื้อ เอนเทอโรไวรัส 71 โรคระบาดสายพันธุ์รุนแรง
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง
1,2นพ.ประสงค์ พฤกษานานนท์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. ไวรัส RSV ไวรัสร้ายที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก. www.bumrungrad.com
3อาจารย์ ดร.ภญ. ปิยทิพย์ ขันตยาภรณ์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. ไวรัสร้ายของลูกน้อย โรคอาร์เอสวี (RSV). www.pharmacy.mahidol.ac.th