อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือพ่อแม่มักพาเด็กกลุ่มนี้ไปตัดแว่นที่ร้านแว่นต่างๆ เพราะเข้าใจว่าลูกสายตาสั้น แต่จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่ ซึ่งสายตาสั้นเทียมบางรายเกิดแค่ไม่กี่นาทีก็หาย บางคนเป็นวัน ทำให้เมื่อสวมใส่แว่นตาแล้วสุดท้ายมีอาการปวดสายตาและส่งผลเสียต่อตาในที่สุด
โดยการตรวจรักษาตาในเด็กของ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ซึ่งมีกว่า 500 คนต่อเดือน พบว่า…
อาการตาพร่ามัว ที่พ่อแม่เข้าใจว่าลูกสายตาสั้นจากการเล่นเกมนั้น ร้อยละ 50 เป็น “สายตาสั้นเทียม” โดยวิธีในการตรวจว่าเป็นสายตาสั้นเทียมหรือไม่ จะตรวจสายตาตามปกติก่อน ซึ่งมักจะได้ค่าสายตามากกว่าปกติ จากนั้นจะหยอดยาลดการเพ่ง เพื่อปรับสายตาให้คงที่ แล้วจึงวัดค่าสายตาว่าจริงๆ แล้วสายตาเด็กยังปกติอยู่หรือไม่ เป็นเพียงสายตาสั้นเทียม หรือว่าสายตาสั้นเท่าไร เป็นต้น
สายตาสั้นเทียม เสี่ยงตัดแว่นได้ไม่ตรงค่าสายตา
ทั้งนี้หากเป็นร้านแว่นจะตรวจละเอียดเช่นนี้ไม่ได้ว่า เป็นสายตาสั้นเทียมหรือไม่ …เพราะไม่สามารถหยอดยาดังกล่าวได้ เนื่องจากผิดกฎหมายการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สุดท้ายหากพ่อแม่พาไปตรวจที่ร้านแว่นลูกก็จะได้แว่นสายตาที่ไม่ตรงกับค่าสายตาจริงๆ ดังนั้น การตรวจจึงควรมาพบแพทย์มากกว่า
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในหลายประเทศ พบว่าในกลุ่มเด็กที่มีการใช้สายตาในระยะใกล้ หรือเล่นสมาร์ทโฟนก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะสายตาสั้นจริงสูงขึ้นกว่าสมัยก่อน เช่นเดียวกับในประเทศไทยเมื่อหลายสิบปีก่อนที่ได้สำรวจค่าสายตาของเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาพบเด็กสายตาผิดปกติประมาณร้อยละ 5-8 เท่านั้น
แต่จากการสำรวจล่าสุด ในกลุ่มเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาในจังหวัดปทุมธานี พบมีปัญหาสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10-15 เยอะขึ้นประมาณเท่าตัว ซึ่งสอดคล้องกับประเทศที่มีการใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย เช่น เกาหลี ไต้หวัน และฮ่องกง ที่มีเด็กสายตาผิดปกติกว่าร้อยละ 40-50
แต่หากสงสัยว่าเด็กจะมีปัญหาด้านสายตา เช่น มองกระดานไม่ชัด หรือมองทีวีใกล้ ๆ และเป็นในเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี ให้พาไปพบจักษุแพทย์ ไม่แนะนำให้ไปร้านแว่นเพราะเด็กอาจจะมีภาวะสายตาสั้นจริงปนอยู่กับสายตาสั้นเทียมก็ได้ หรืออาจจะเป็นสายตาสั้นเทียมล้วน ๆ เลยก็ได้ การพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดให้ค่าที่แม่นยำจะดีกว่า
ลักษณะของสายตาสั้นชั่วคราว
ด้าน นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า…
การเพ่งมองสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ต้องพิจารณาว่าใช้งานมากน้อยแค่ไหน อย่างการเพ่งมองสมาร์ทโฟน หรืออ่านหนังสือเตรียมสอบของนักเรียน ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบกับสายตา คือ สายตาสั้นชั่วคราว แต่เมื่อออกจากการใช้สายตาลักษณะดังกล่าวก็จะกลับมาเหมือนเดิม
แต่กรณีที่ใช้สายตาแบบนั้นนานๆ หลายชั่วโมงกินเวลาเป็นปีๆ ก็มีโอกาสสายตาสั้นถาวรได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อตาโดยปกติจะมีการปรับการมองเห็นใกล้และไกลอย่างอัตโนมัติ แต่หากมองอะไรเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้ระบบกล้ามเนื้อตาดังกล่าวไม่ทำงานอัตโนมัติอีก ซึ่งปกติระบบกล้ามเนื้อตาจะเสื่อมลงตามอายุ แต่หากใช้โทรศัพท์ หรือจ้องมองอะไร หรือใช้งานสายตามากๆเป็นเวลานานติดต่อกันย่อมทำให้เสื่อมเร็ว และมีโอกาสสายตาสั้นถาวร
อ่านต่อ >> “การแก้ปัญหาเมื่อลูกสายตาสั้นเทียม” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่