ลูกคันก้น อาการที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่อาจนำมาซึ่งโรคบางชนิดได้!
หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ชอบมีอาการ “คันก้น” ละก็ … อย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณบอกจากลูกว่า อาจจะมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกก็เป็นได้
คันก้น หรือคันทวารหนัก คืออาการคันที่เกิดในบริเวณรอบ ๆ ปากทวารหนักซึ่งอาจเกิดจากอาการเฉียบพลัน หรือเป็นอาการเรื้อรังที่เป็นมานานแล้วก็ได้ ซึ่งสาเหตุจะเกิดจากอะไร แล้วสามารถนำไปสู่โรคอะไรได้บ้างนั้นวันนี้ทีมงาน Amarin Baby And Kids ได้เตรียมเนื้อหาข้อมูลไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านได้ทราบกันแล้วละค่ะ
อาการคันก้น มักเกิดหลังจากการเข้าห้องน้ำและก่อนนอน บางรายเป็นมากเมื่ออากาศร้อนชื้น หรือเครียด ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นสามารถพบได้บ่อยให้คนทุกเพศและทุกวัยค่ะ
สาเหตุเกิดจากอะไร?
เวลาที่ ลูกคันก้น นั้นทราบไหมคะว่า สาเหตุของการเกิดสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น
- บริเวณรอบทวารหนักมีการเปียกชื้น อับ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ลูกมีเหงื่อออกมากหรือหลังเข้าห้องน้ำแล้วไม่ยอมเช็ดไม่แห้ง
- มีโรคผิวหนัง เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ต่างๆ โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ
- การที่ลูกมีอุจจาระไหลซึมออกมารอบ ๆ ปากทวารหนัก ภาวะท้องผูกเรื้อรัง ภาวะกลั้นอุจจาระไม่อยู่
- มีการติดเชื้อในผิวหนังรอบปากทวารหนัก เช่น การติดเชื้อรา หิด เริม หูด รวมถึงพยาธิ
- ผิวหนังบริเวณรอบทวารหนักมีการสัมผัสสารหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- โรคหรือบางภาวะที่ทำให้เกิดอาการคัน เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคไต โรคตับ
- ยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอาการคัน เช่น ยาปฏิชีวนะทำให้เกิดท้องร่วงทำให้คันทวารหนัก
- อาหารบางประเภทจะทำให้เกิดอาการคันหลังจากถ่ายอุจาระ เช่น ผลไม้เปรี้ยว องุ่น อาหารรสจัด เป็นต้น
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องพาลูกไปพบแพทย์?
การที่ ลูกคันก้น มาก ๆ แล้วเกานั้น อาจทำให้เกิดเป็นแผลติดเชื้อหรือแผลเลือดออกได้เลยละค่ะ และยิ่งถ้าหากลูกมีอาการเหล่านี้พ่วงเข้ามาด้วยละก็ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รีบพาลูกไปพบแพทย์โดยทันที
- คันมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- มีแผลเรื้อรัง
- มีก้อนเนื้อ
- แผลติดเชื้อ (สังเกตได้จากแผลมีการบวม แดง มีน้ำเหลือง หนอง)
- มีอาการเจ็บมากที่ทวารหนัก
- มีเลือดออกในบริเวณที่คันต่อเนื่อง
- คลำได้ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบโต
- อาการคันเรื้อรังนานเป็นหลายสัปดาห์โดยไม่ดีขึ้น
ดูแลอย่างไรเมื่อ ลูกคันก้น
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการดังกล่าว แนะนำให้ดูแลลูกด้วยวิธีการดังนี้
- ตัดเล็บลูกให้สั้น เพื่อป้องกันแผลเกาติดเชื้อจากการเกา
- รักษาความสะอาดบริเวณทวารหนัก ด้วยการล้างล้างเปล่าและใช้น้ำในอุณหภูมิที่ ปกติในทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ และให้ทิชชูที่อ่อนนุ่มต่อผิดลูกเช็ดให้แห้ง
- รักษาบริเวณทวารหนักให้แห้งเสมอ
- ใส่ยาทาแก้คันได้ เช่น ยาคาลามายด์
- สวมใส่เสื้อผ้า ที่เบาสบายและมีการระบายอากาศได้ดี ยกตัวอย่างเช่น ผ้าฝ้าย
- สังเกตความสัมพันธ์ของอาการกับเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้อง แล้วปรับตัวตามนั้น เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น
- สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างอาการกับอาหารและเครื่องดื่ม แล้วปรับตัวตามนั้น เช่น กาแฟ อาหารเผ็ด เป็นต้น
- อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อลดการมีเหงื่อนั่นเอง
ขอบคุณที่มา: หาหมอ และ Home And Trend
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่