อาการผิดปกติของทารก ที่ต้องพบแพทย์

ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ และหากขอพรได้ข้อหนึ่ง เชื่อว่าพ่อแม่ในทุกครอบครัวต่างก็ปราถนาที่จะให้ลูกๆ ของตัวเอง มีความพร้อมสมบูรณ์แข็งแรงกันตั้งแต่แรกคลอดใช่ไหมคะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี อาการผิดปกติของทารก ที่พ่อแม่ควรต้องพาลูกไปพบแพทย์ในทันที มาให้ได้ทราบกันค่ะ

 

อาการผิดปกติของทารก

มีแม่ๆ หลายคนเขียนอีเมลเข้ามาเล่าให้ทีมงานฟังว่า ในช่วงระหว่างที่ลูกอยู่ในวัยทารก  มีปัญหาของสุขภาพแทรกซ้อนขึ้นมาหลายอย่างจนเกือบจะต้องเสียลูกไป แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยกำลังใจ ความเข้มแข็งที่จะเอาชนะอุปสรรคที่มีเข้ามา และการเชื่อฟังอยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถผ่านช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นมาได้ แต่ถึงจะปลอดภัยก็ต้องมารอลุ้นในช่วงวันคลอดลูกกันอีกครั้งว่าจะมีปัญหาแทรกซ้อนอะไรเกิดขึ้นกับลูกอีกหรือไม่

และเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่กังวลกันมากคือ ในวันที่ลูกคลอดมาแล้ว หรือหลังจากที่พาลูกแรกคลอดกลับมาบ้าน จะมีอาการอะไรบ้างที่ควรต้องเป็นกังวลหากเกิดขึ้นกับลูก เอาเป็นว่าก่อนไปดูกันสักนิดว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกคลอดออกมา เสียงร้องของลูกสามารถบอกสุขภาพอะไรให้พ่อแม่ได้รู้กันบ้าง

1. หากลูกแรกคลอดร้องเสียงร้องแหบห้าวหรือแหลมสูง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจแต่กำเนิด
2. หากลูกแรกคลอดร้องเสียงร้องฮืดๆ อาจเกิดจากความผิดปกติของหน้าและลำคอ หรือการอุดตันของทางเดินหายใจส่วนบน
3. หากลูกแรกคลอดร้องเสียงแหบห้าว เสียงร้องเบา หรือไม่ร้อง อาจเป็นผลจากมีพยาธิสภาพในระบบประสาทส่วนกลาง ร้องเบาหรือไม่ร้องอาจเป็นเพราะเด็กไม่หายใจ^[1]

สำหรับอาการผิดปกติจากเสียงร้อง เมื่อแพทย์และพยาบาลเช็กดูแล้วตั้งแต่ตอนที่อยู่ในห้องคลอด หากพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นกับทารก ก็จะได้รับการดูแลรักษาทันทีอย่างใกล้ชิดค่ะ

อ่านต่อ >> อาการผิดปกติของลูกวัยทารก ควรไปพบหมอ หน้า 2 

 

อาการผิดปกติของทารกแรกเกิด ที่ต้องพบแพทย์

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้กับลูกวัยทารก เป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นได้ในบางปัญหาแทรกซ้อน แต่พ่อแม่สามารถเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังให้กับลูกได้ และเมื่อพบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสุขภาพลูก จะได้รีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาในทันที ­­

ภาวะตัวเหลือง   

ในเด็กแรกคลอดสามารถพบว่ามีภาวะตัวเหลืองเกิดขึ้นได้ทั้งกับเด็กที่ครบกำหนด หรือกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ที่พบได้ประมาณ 25-50% ซึ่งเป็นภาวะตัวเหลืองที่เกิดตามปกติ

ช่วงหนึ่งสัปดาห์แรกหลังคลอดในเด็กส่วนใหญ่มักจะมีภาวะตัวเหลือง หากอาการตัวเหลืองไม่มากและไม่ได้เกิดจากความ ผิดปกติที่รุนแรง โดยมากแล้วไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาในตู้อบ แต่แพทย์พยาบาลจะแนะนำให้เด็กกินนมแม่เพื่อขับสารสีเหลืองออกมา และเมื่อผ่านหนึ่งสัปดาห์ไปแล้ว อาการตัวเหลืองของลูกจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไป แต่หากคุณพ่อคุณแม่ สังเกตเห็นว่าอาการตัวเหลืองของลูกกลับเป็นมากขึ้นหลังจากผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ สีผิวเหลืองเหมือนสีขมิ้น แนะนำว่า ให้รับพาลูกไปพบคุณหมอเด็กในทันที

 

Must Read >> ลูกตัวเหลือง อันตรายใกล้ตัว!! ที่คุณแม่อาจไม่รู้

 

สะดือมีกลิ่นเหม็นและมีเลือดออก มีหนอง

แม่จ๋ารู้ไหมว่าสะดือของลูกนั้นสำคัญกับสุขภาพมากนะคะ เพราะถ้าตัดสายสะดือให้ลูกหลังคลอด ซึ่งปกติแล้วสายสะดือจะแห้งและหลุดไปภายใน 10-15 วัน การทำความสะอาดสะดือ คือหลังจากอาบน้ำให้ลูกเสร็จแล้วนั้นให้เช็ดเบาๆ ให้แห้ง ไม่ให้ทาแป้ง หรือโลชั่นเด็กใดๆ ลงไปที่สะดือของลูก ผ้าอ้อมที่สวมใส่ให้ลูกไม่ควรปิดกดทับลงไปที่สะดือลูก

สะดือของเด็กช่วงแรกคลอดก่อนจะแห้งและหลุดไป จะต้องไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่เป็นหนอง และต้องไม่มีเลือดซึมออกมา แต่หากคุณแม่พบว่าสะดือลูกมีอาการบวมแดง มีกลิ่นเหม็น แนะนำให้พาลูกไปพบคุณหมอเด็กทันที อย่าปล่อยอาการทิ้งไว้นะคะ ที่สำคัญไม่ควรไปแกะ หรือดึงสายสะดือ ควรปล่อยให้แห้งหลุดไปเองค่ะ

Good to know…การทำความสะอาดสะดือของทารกแรกเกิด หลังอาบน้ำให้ลูกแล้ว สามารถใช้คอตตอนบัดชุบแอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาดเบาๆ ได้ แต่ไม่ให้ล้วงลึกๆ ลงไปในสะดือเด็ดขาด ห้ามโรยแป้งบนสะดือ เพราะสามารถเกิดการอักเสบได้

อาการผิดปกติของลูกวัยทารก ควรไปพบหมอ หน้า 3

 

ลิ้นเป็นฝ้าขาว   

เด็กทารกที่กินนมแม่สามารถทำให้เกิดคราบนมขาวๆ ขึ้นที่บริเวณลิ้น และกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างได้ ซึ่งสามารถทำความ  สะอาดคราบนมให้ลูกได้ ด้วยการใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำต้มสุก ซึ่งโดยปกติคราบน้ำขาวๆ จะหลุดออก

แต่หากเช็ดแล้วคราบฝ้าขาวๆ ที่ลิ้นและกระพุ้งแก้มลูกไม่หลุดออกไป อาจเกิดการติดเชื้อราขึ้นมาได้ ให้คุณแม่สังเกตดูว่า  หากคราบฝ้าขาวๆ เกาะหนามากที่ลิ้นจากการที่เชื้อราจับตัวอยู่ในปาก มักจะทำให้ลูกเจ็บปาก กินนมได้น้อยลง ร้องงอแง  กระพุ้งแก้มลูก แล้วลูกกินน้ำได้น้อยลง ร้องงอแง แนะนำควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเด็กทันที และไม่ควรใช้ฉี่เช็ดลิ้นให้  ลูก รวมทั้งยาป้ายลิ้นต่างๆ ด้วย เพราะอาจจะยิ่งทำให้เกิดการติดเชื้อมากยิ่งขึ้น

วิธีป้องกันและดูแลลิ้นลูก ลดการเกิดฝ้าขาว

เช็ดทำความสะอาดช่องปากของลูกด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น

ทำความสะอาดหัวนมและเต้านม ทั้งก่อนและหลังให้นมลูก

หากลูกเริ่มเป็นฝ้าขาวที่ลิ้น ให้รีบทำความสะอาด อย่าปล่อยทิ้งไว้จนหนา

หลังจากทำความสะอาดแล้วฝ้าขาวยังไม่หายและหนาอยู่ ให้รีบไปพบแพทย์

 

Must Read >> ลูกลิ้นเป็นฝ้า รักษาด้วยผ้าอ้อมเปียกฉี่ ดีจริงหรือ?

 

ตาอักเสบ

ในช่วง 1-3 เดือนหลังคลอด คุณแม่อาจพบว่าลูกมีน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา ตาแฉะ และมีขี้ตา ซึ่งอาการเหล่านี้กำลังบอกว่าลูกกำลังเกิดอาการท่อน้ำตาอุดตัน แนะนำให้พาลูกไปหาคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการให้เรียบร้อยก่อน และส่วนมากคุณหมอจะให้คุณแม่นวดหัวตาเบาๆ ให้ลูก เพื่อลดอาการท่อน้ำตาอุดตัน

วิธีการนวดหัวตาให้ลูกเบื้องต้น ช่วยลดอาการท่อน้ำตาอุดตัน

1. ใช้นิ้วชี้กดที่หัวตาแนบเข้าไประหว่างหัวตากับสันจมูก
2. ให้วนนิ้วลงน้ำหนักเบาๆ เป็นวงกลมแล้วลากลงตามสันข้างจมูก
3. ให้นวดหัวตาลูกวันละหลาย ๆ รอบ หากท่อน้ำตาอุดตันเป็นไม่มาก การนวดหัวตาสามารถช่วยให้อาการท่อน้ำตาอุดตันค่อยๆ หายเป็นปกติ

 

เขียวขณะกินนม

ให้ลูกกินนม แต่สังเกตเห็นว่าลูกมีอาการเหนื่อยหอบ และรอบปากมีสีเขียวคล้ำ อาจเป็นไปได้ว่าหัวใจลูกอานกำลังมีปัญหา แนะนำว่าใหรีบพาลูกไปพบคุณหมอทันที

สุขภาพลูกเป็นเรื่องสำคัญหากพบว่าลูกแรกเกิดมีอาการผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้น พ่อแม่ไม่ควรปล่อยอาการทิ้งไว้เป็นอันขาด เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพของลูกได้ ดังนั้นแนะนำว่าให้พาลูกไปพบหมอเพื่อตรวจอาการ และรับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ลงได้ค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

ลูกแรกเกิดมีตาขาวสีเหลือง ใช่ตัวเหลืองหรือไม่?
กระหม่อมทารก ปิด-เปิด-โป่ง-ยุบ เรื่องสำคัญ แม่ต้องสังเกต
ร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา..อันตรายหรือไม่? ระวังก่อนติดเชื้อ หรือ เกิดภาวะขาดน้ำ

 

---

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
^[1]การตรวจร่างกายเด็กแรกเกิด. www.healthcarethai.com
www.clinicdek.com