AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ประสบการณ์จริงจากแม่ : คลอดก่อนกำหนด เพราะลูกเหนื่อย จนเกือบเสียชีวิตในท้อง

คลอดก่อนกำหนด เชื่อว่าคุณแม่ท้องทุกคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะถ้าเลือกได้คงอยากจะคลอดให้ตรงตามกำหนด ทีมงาน Amarin Baby & Kids ได้รับอนุญาตจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่เธออยากจะแชร์ประสบการณ์เหตุที่ต้องคลอดก่อนกำหนด โดยที่ยังเหลืออีกหลายสัปดาห์กว่าจะถึงกำหนดคลอด ซึ่งสาเหตุการคลอดครั้งนี้เกือบทำให้เธอต้องสูญเสียลูกไปตลอดกาล

 

คลอดก่อนกำหนด เพราะลูกหายใจเหนื่อย จนเกือบเสียชีวิต!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงจากคุณแม่แฟนเพจท่านหนึ่ง ที่เธอเพิ่งคลอดลูกไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเรื่องราวที่คุณแม่อยากจะแชร์ถึงสาเหตุที่ต้องคลอดก่อนกำหนด ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้คุณแม่ท้องทุกคนได้ตระหนักถึงการดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ ทางผู้เขียนขอสงวนชื่อ นามสกุล ตามความต้องการของคุณแม่ต้นเรื่องท่านนี้ และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของคุณแม่ค่ะ

 

“มีเรื่องราวดีๆ มาเตือนแม่ๆ ที่กำลังทำงานหนักเพื่อคุณลูกอยู่นะคะ คือแม่บ้านนี้ท้องน้องตอนอายุยังน้อยเลยพยายามตั้งใจเก็บเงินตั้งแต่รู้ว่าท้องโดยทำงานกลางคืน(เสิร์ฟ) คือ 4โมงเช้าถึงเที่ยงคืน จนถึง 5 เดือนท้องเริ่มโตขึ้นลูกค้าเริ่มสังเกตเห็น เถ่าแก่เห็นใจเลยเปลี่ยนให้มานั่งเคาน์เตอร์แทน แต่ก็ยังเข้างานในเวลาเท่าเดิม ทุกๆ วันที่ทำงานเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งห่างจากที่พัก 7-8 กิโล เพื่อนๆ ญาติๆ ก็บอกให้พักบ้าง ในใจเหนื่อยมากๆ เลยค่ะ แต่ต้องอดทนเพราะไม่อยากใช้เงินคนอื่นในการเลี้ยงลูก น้ำหนักก่อนท้อง 40 โล ขึ้นมาเป็น 60โล ก็ดีใจนะคิดว่าลูกต้องแข็งแรงแน่ๆ เลยขนาดทำงานหนัก

#พอถึงวันที่หมอนัดตรวจท้องตามปกติ เราก็ไปโดยไม่ได้คิดอะไร หวังว่าตรวจท้องเสร็จก็จะกลับไปทำงานเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา พอหมอเริ่มตรวจท้องก็เริ่มสังเกตเห็นสีหน้าพยาบาลไม่ดี เปลี่ยนกันตรวจหลายๆ คนจนต้องไปเรียกคุณหมอมาดู สุดท้ายคือคุณหมอให้แอดมิดรอคลอดทั้งที่ยังไม่ถึงกำหนด (แต่ก็ใกล้คลอดแล้วค่ะ) ที่สงสัยคือเพราะเหลืออีกตั้งประมาณ 3-4 สัปดาห์ถึงจะครบกำหนดคลอด เราก็เริ่มถามหมอว่าเพราะอะไรทำไมต้องคลอดตอนนี้

เรา : ทำไมให้คลอดเร็วจังคะ ยังไม่ใกล้ถึงกำหนดเลย

หมอ : คือเด็กในท้องเริ่มหายใจรวยรินแล้ว บางครั้งก็หยุดหายใจ หมอจำเป็นต้องเร่งคลอดให้เร็วที่สุดเพื่อรักษาชีวิตเด็กไว้

เรา : (เท่านั้นแหละน้ำตาไหลเลย) แล้วมันเกิดจากอะไรคะ ทำไมเป็นแบบนี้ ⁉

หมอ : เกิดจากภาวะที่คุณแม่พักผ่อนไม่เพียงพอ กินอาหารไม่ตรงเวลา ทำงานหนักจนเกินไป จึงทำให้เด็กเหนื่อย

# เท่านั้นแหละเราเดินออกจากห้องตรวจร้องไห้ฟูมฟายไม่อายใครเลยค่ะ แฟนเห็นก็ตกใจ เลยเล่าให้ฟัง จากนั้นก็เริ่มโทรบอกญาติว่าจะคลอดแล้ว หมอให้คลอดโดยการผ่า เพราะฉีดย่าเร่งคลอดแล้วไม่ตอบสนอง จนสุดท้ายรักษาน้องไว้ได้สำเร็จ น้องเป็นผู้ชาย น้ำหนักแรกคลอด 3,240  เราดีใจมากเลยน้ำหนักน้องถึงเกณฑ์ เราอยู่ โรงพยาบาล 4 วัน พอวันที่ 5 กำลังจะกลับบ้านแต่หมอบอกว่า ลูกเรายังไม่ได้กลับบ้านด้วย เพราะน้องยังไม่แข็งแรงพอ หมอก็เอาน้องไปอยู่ในการดูแลของเขา ส่วนเราก็อยู่โรงพยาบาลรอ ตลอดเวลาเฝ้าคิดถึงลูกมากทั้งห่วงทั้งกังวล ร้องไห้ทุกครั้งที่น้ำนมไหล จนจะเข้าวันที่ 7 ของการอยู่ โรงพยาบาลหมอเอาน้องมาคืน แล้วให้กลับบ้านได้ เราดีใจมากที่สุด แต่คุณหมอก็บอกว่าน้องอาจจะไม่แข็งแรงเท่าเด็กคืนอื่น  แต่ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

#เราโชคดีมากที่ไปหาหมอวันนี้พอดี

#เราอยากเตือนแม่ๆ ที่ทำงานหนักนะคะ อาจจะไม่โชคดีเหมือนเราก็ได้ อย่าเสี่ยงกับชีวิตลูก เพราะเมื่อไม่มีเขาเราจะเสียใจที่สุด

ตอนนี้น้องได้ 2 เดือนแล้ว กินเก่งมากเลย นมแม่ก็ไม่พอเลยต้องเสริมด้วยนมผง

# แม่พึ่งว่างเลยมารายงานตัวช้าหน่อยครับ

ผมเกิดวันที่ 21/12/59 เวลา 17:34 น. แม่ผ่าคลอดครับ”

 

ผู้เขียนในฐานะที่เคยผ่านการอุ้มท้องมาแล้ว พอได้อ่านเรื่องของคุณแม่ท่านนี้จบ ต้องขอบคุณในความโชคดีของคุณแม่ ที่ไม่ต้องสูญเสียลูกไป ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้ไปตรวจครรภ์ตามที่คุณหมอนัด ก็อาจทำให้ต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเป็นแน่  และอย่างที่คุณแม่ต้นเรื่องให้ทิ้งท้ายไว้ว่า คนท้องควรดูแลตัวเองให้มากตอนท้อง เพราะการพักผ่อนน้อย การทำงานหนัก การที่ทานอาหารไม่ตรงเวลา ปัจจัยเหตุเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อลูกในท้องอย่าง 100% จริงๆ ค่ะ

 

อ่านต่อ >> “ความสำคัญของการดูแลสุขภาพร่างกายตอนท้อง” หน้า 2

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

คลอดก่อนกำหนด – ทำไมการดูแลสุขภาพร่างกายขณะตั้งครรภ์ จึงจำเป็น และสำคัญกับคนท้อง?

คนท้องไม่ใช่คนป่วย ตรงนี้เห็นด้วยค่ะ เพราะคุณหมอเคยบอกกับผู้เขียนตอนท้องว่า สามารถทำอะไรได้ตามปกติ แต่ขอให้งดเว้นกิจกรรม การทำงาน การเดินทาง ฯลฯ ในชีวิตประจำวันที่สาหัสหนักหนา ทุลักทุเลลงให้หมด เพราะทุกอย่างที่แม่ทำจะส่งผลกระทบต่อลูกในท้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณหมอแนะนำให้นอนช่วงกลางคืนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ส่วนระหว่างวันหากงีบหลับได้ก็ให้หลับ สำหรับอาหารการกินนั้นก็ขอให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และข้าวต้องทานให้ตรงเวลา คือจะแบ่งมื้อย่อยกี่มื้อต่อวันก็แล้วแต่เรา แต่มื้อหลัก 3 มื้อต้องกินให้ครบ รวมทั้งยาบำรุงที่หมอให้มาก็ต้องทานให้ครบตามที่คุณหมอระบุไว้ อันนี้ห้ามลืมเด็ดขาดสำหรับคนท้อง

และหากถามว่าการดูแลสุขภาพร่างกายช่วงตั้งครรภ์จำเป็นมากไหม? ขอตอบเลยว่าจำเป็นมาก เพราะการดูแลร่างกายดีของแม่ท้อง เท่ากับเป็นการส่งต่อสุขภาพ และพัฒนาการการเจริญเติบโตที่ดีให้กับลูกในท้องด้วยเช่นกัน ไปดูกันค่ะว่ามีเรื่องอะไรสำคัญที่คนท้องต้องดูแลกันบ้าง

1. การนอนของคนท้อง

คนท้องจำเป็นต้องนอนให้เพียงพอ  เพราะทุกครั้งที่แม่นอนหลับไม่ว่าจะเป็นช่วงนอนตอนกลางคืน หรืองีบหลับระหว่างวันสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย ทั้งนี้การนอนไม่ใช่เป็นการนอนของแม่ฝ่ายเดียว เพราะทารกน้อยในท้องก็ได้นอนหลับพักผ่อนไปพร้อมกับแม่ด้วย ฉะนั้นใครที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ แนะนำว่าไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไป ในช่วงกลางคืนแม่ท้องควรนอนหลับประมาณ 8 ชั่วโมง การนอนน้อยเกินไปจากนี้ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ อาจเสี่ยงต่อสุขภาพของทารกเมื่อคลอดออกมาแล้ว

2. อาหารของคนท้อง

ในช่วงไตรมาสแรกแม่ท้องอาจจะทานอาหารได้ไม่มาก หรือทานไม่ได้เลย เพราะมีอาการแพ้ท้องอยู่ ทำให้คนท้องไม่รู้สึกยากหรือรู้สึกสนุกกับรสชาติอาหารที่กินเข้าไป แต่พอหลัง 3 เดือนแรกไปแล้ว แม่ท้องจะเริ่มหายจากการแพ้ท้อง ที่นี้ก็จะทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นกว่าปกติ แนะนำว่าให้แม่ท้องทานอาหารให้ครบมื้อ และควรทานให้ตรงเวลาโดยเฉพาะในมื้อหลัก 3 มื้อ

การทานอาหารที่ไม่ครบมื้อ และไม่ตรงเวลา บวกกับอาหารที่ทานนั้นไม่มีคุณภาพและไม่มีประโยชน์ สามารถทำให้คุณแม่เกิดภาวะเจ็บป่วยขึ้นมาระหว่างตั้งครรภ์ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง อาการท้องผูก และกรดไหลย้อน ฯลฯ นอกจากสุขภาพของแม่แล้ว ลูกในท้องก็ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการทานอาหารที่ได้รับจากแม่ด้วยเช่นกัน

 

อาหารที่ไม่แนะนำให้แม่ท้องกินขณะตั้งครรภ์ ได้แก่

อ่านต่อ >> “คนท้องทำงานนอกบ้านต้องระวังอะไร?” หน้า 3

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

แม่ท้องที่ยังต้องทำงานนอกบ้าน มีข้อควรระวังในเรื่องใดบ้าง?

โดยปกติแล้วหากแม่ท้องต้องทำงานนอกด้วยระหว่างตั้งครรภ์ ชั่วโมงการทำงานไม่ควรเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และในระหว่างวันทำงานจำเป็นอย่างมากที่คนท้องควรได้พัก เช่น การงีบหลับ การงีบหลับไปกับโต๊ะทำงาน 15-20 นาทีจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น และเพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวระหว่างทำงาน สามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้

1. การยืน

คนท้องไม่ควรยืนจนหลังแอ่น  แต่ควรยืนให้ตรง ยกไหล่เล็กน้อย การยืนแบบนี้เป็นการยืนที่เหมาะสมกับสรีระคนท้อง ช่วยให้ขา และหลังไม่ต้องรองรับน้ำหนักครรภ์ที่มากเกินไป

2. การก้มหยิบของ

คนท้องไม่ควรก้มลงไปหยิบของที่ตกหล่น หรือก้มลงทันทีเพื่อยกของหนักๆ การก้มหยิบของที่เหมาะสมกับสรีระคนท้อง คือให้นั่งยองๆ ช้าๆ แล้วค่อยหยิบของ ไม่แนะนำให้แม่ท้องเอี้ยวตัวเวลาเก็บของ ส่วนของหนักๆ ไม่แนะนำให้ก้มลงไปหยิบ ควรขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างจะปลอดภัยต่อตัวแม่ท้องและทารกในครรภ์

3. การนั่ง

การนั่งที่เหมาะสมกับสรีระของคนท้อง คือการนั่งให้ก้นชิดกับพนักพิงเก้าอี้ การนั่งที่ถูกต้องจะช่วยลดการเกิดอาการปวดหลังได้ค่ะ

 

การที่จะให้ลูกคลอดออกมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีพัฒนาการร่างกายสมบูรณ์ครบ 32 ปัจจัยสำคัญคือ แม่ต้องดูแลตัวเองตอนท้องให้ดี ที่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์และต้องทานให้ตรงเวลา การหลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงต่างๆ ในชีวิตประจำวันของแม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อทารก ฯลฯ ซึ่งเหตุปัจจัยต่างๆ นี้ หากแม่ท้องปฏิบัติตามได้ ก็จะช่วยให้ทารกน้อยในครรภ์เกิดมาด้วยความสมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

7 สาเหตุ สำคัญ ของการแท้ง และวิธีป้องกัน
เลือดออกขณะตั้งครรภ์ สัญญาณอันตราย บอกอะไร ?
เซ็กส์ตอนท้อง ช่วงไหนปลอดภัย

 

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คุณแม่ต้นเรื่อง “คลอดก่อนกำหนด ลูกเกือบเสียชีวิตในท้อง เพราะเหนื่อย”
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วิทยา ถิฐาพันธ์. อาหารการกินขณะตั้งครรภ์ หน้า 124. การทำงานขณะตั้งครรภ์ หน้า 135. หนังสือคู่มือตั้งครรภ์และเตรียมคลอด