AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

กระชับหน้าท้องหลังคลอดลูกให้แบนราบด้วยเทคนิคง่ายๆ

กระชับหน้าท้องหลังคลอดลูก ให้แบนราบด้วยเทคนิคง่ายๆ

ถ้าหากคุณแม่ท่านใดที่กำลังเป็นกังวลกลัวว่าเมื่อคลอดลูกแล้ว ส่วนเกินที่หน้าท้องจะไม่หายไปหลังคลอด ที่มักจะบ่นกับเพื่อนร่วมงานอยู่เป็นประจำว่า “คลอดลูกไปตั้งนานแล้ว หน้าท้องยังมีอยู่เลย” หรือบางท่านอาจจะบ่นทำนองปลงๆว่า “ก็อย่างนี้แหละคนเคยมีลูก เคยคลอดลูกจะให้มีหน้าท้องที่กลับไปแบนราบได้อย่างไร” . . . ถ้าอยากให้หน้าท้องแบนเรียบและน้ำหนักลดเร็วดังใจ เรามีเคล็ดลับ กระชับหน้าท้องหลังคลอด แบบง่ายๆรับรองได้ผล จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

1.ให้ลูกดูดนมจากเต้า

การที่ลูกดูดนมแม่ให้ประโยชน์ต่อคุณแม่มากมายเลยนะคะ เช่น มดลูกเข้าอู่เร็ว ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่อย่างเต็มที่ เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการหน้าท้องใหญ่หย่อนยานได้ดีอีกด้วย เมื่อคุณให้ลูกดูดนมแม่ ร่างกายของคุณจะเผาผลาญพลังงานไปด้วย และอาหารที่คุณทานเข้าไปส่วนมากเวลาให้นมลูกก็มักจะเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เพียงเท่านี้น้ำหนัก และไขมันส่วนเกินของคุณแม่ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วค่ะ

2.การใช้ผ้ารัดหน้าท้อง

การใช้ผ้ารัดหน้าท้องมีจุดประสงค์เพื่อลดอาการเจ็บปวด หลังการผ่าคลอด เพราะถ้าใช้ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลเนื่องจากการขยับหรือลุกนั่ง แต่ก็มีคุณแม่บางท่านยังคงที่จะใช้ต่อไปถึงแม้จะหายแล้วก็ตาม เพราะจะช่วยทำให้รู้สึกกระชับขึ้นและยังช่วยยับยั้งการกินได้

3.การแขม่วท้อง

การแขม่วท้องเป็นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนอีกวิธีหนึ่ง ถ้าหากบ่อยๆ ก็สามารถช่วยในการกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งหลายๆ คนบอกว่าได้ผลได้ผล แต่ชอบลืมทำทุกที ส่วนใหญ่มักจะแนะนำว่าให้แขม่วไว้แล้วนับ 1-7 แล้วค่อยหายใจออก ทำเท่าไหร่ก็ได้ นึกได้ตอนไหนก็ทำตอนนั้น

อ่านต่อ >> “เทคนิค กระชับหน้าท้องหลังคลอด ให้แบนราบ” ข้อ 4-8 คลิกหน้า 2

4.การออกกำลังกาย

เป็นวิธีที่ทำแล้วได้ผลยั่งยืนมากที่สุด แต่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะท้อถอย และยอมแพ้ไป ด้วยคำว่า “ไม่มีเวลา” ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วย ดังนั้น เราจึงได้หาท่าลดหน้าท้องที่สามารถใช้เวลาเพียงไม่นาน อาจจะใช้เวลาหลังจากการตื่นนอน ก่อนเข้านอน หรือในช่วงที่ลูกหลับมาบริหาร และเมื่อลูกๆได้โตขึ้นการจัดสรรเวลาต่างๆ จะเริ่มเข้าที่และลงตัวซึ่งคุณแม่ก็จะได้ใช้เวลาในการออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่

โดยการนอนหงาย ชันเข่า และแยกขาออกจากกันเล็กน้อย พร้อมทั้งประสานมือไว้ที่ท้ายทอย เกร็งหน้าท้องแล้วยกไหล่ให้ลอยขึ้นจากพื้น ค้างไว้แล้วนับ 1-10 หายใจออกยาวๆ แล้วค่อยๆนอนลงไป พร้อมกับหายใจเข้าลึก

ให้นอนหงาย กางแขนออกด้านข้างระดับเดียวกับหัวไหล่ คว่ำมือให้ฝ่ามือแนบไปกับพื้น ยกขาขึ้นงอเข่าเล็กน้อย แล้วไขว้ขากันในอากาศ พร้อมกับหายใจออก แล้วค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นจากพื้นเล็กน้อย

ในท่านี้ให้นอนเหมือนกับท่าที่ 1 กางแขนออกด้านข้างระดับหัวไหล่ เกร็งหน้าท้อง แล้วหายใจออก พร้อมยกขาขวาไปพาดขาซ้าย บิดตัวและหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามแต่พยายามให้ศีรษะและกระดูกสันหลังอยู่ในแนวเดียวกัน สะโพกไม่ต้องขยับหรือบิดตาม และให้ค้างไว้สักครู่ ยกแขนกลับช้าๆ หายใจเข้าแล้วทำสลับข้าง

ในท่านี้ให้คุกเข่าลงกับพื้น (เหมือนท่าคลานสี่ขา) วางแขนแนบกับพื้น (ตั้งแต่ข้อศอกถึงมือ) จากค่อยๆยกเข่าขึ้น และเหยียดขาตรงไปด้านหลัง จนสามารถทรงตัวอยู่ได้ด้วยแขนและปลายเท้า พร้อมเกร็งหน้าท้อง พยายามจัดร่างกายให้ศีรษะ คอ หลังอยู่ในแนวเดียวกัน และยืดหลังตรง ค้างไว้สักครู่หรือเท่าที่ทำได้ แล้วกลับไปพักที่ท่าเริ่มต้น

5.การทาครีมกระชับหน้าท้อง

ครีมที่มีสรรพคุณที่ช่วยในการกระชับหน้าท้องนั้นมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ทั้งตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ทั้งของพื้นบ้านที่ทำเอง หรือแม้แต่ของต่างประเทศที่มีการนำเข้ามาซึ่งในทางการแพทย์ก็ไม่ได้มีผลวิจัยอย่างเป็นทางการว่าจะช่วยได้จริง แต่ก็เป็นไปได้ในส่วนหนึ่งว่าการใช้ครีมนวดทุกๆวัน เปรียบเสมือนการออกกำลังให้กล้ามเนื้อในส่วนของหน้าท้อง จึงอาจจะส่งผลให้มีความกระชับมากขึ้น เพราะมีการไหลเวียนของโลหิตที่ดีประกอบกับในเนื้อครีมมีสารประกอบที่จะช่วยให้มีการบำรุงผิวพรรณให้สดใสแข็งแรง

อ่านต่อ >> “เทคนิค กระชับหน้าท้องหลังคลอด ให้แบนราบ” ข้อ 6-8 คลิกหน้า 3

6.ดื่มน้ำ ดื่มน้ำ และ ดื่มน้ำ

การดื่มน้ำจะทำให้ระบบขับถ่ายของคุณดีมากขึ้น คุณอาจจะต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่น้ำหนักของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย และการดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยในเรื่องการผลิตน้ำนมให้มีมากขึ้นอีกด้วย น้ำนมมาก ลูกกินมาก ระบบเผาผลาญในร่างกายก็ทำงานหนักมากขึ้น ผอมลงทันใจแน่นอนค่ะ

7.การรับประทานอาหาร

ถึงแม้คุณแม่จะใช้เทคนิคที่กล่าวมาแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือเรื่องของการรับประทานอาหาร การกินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป รับรองได้ว่าหน้าท้องของคุณแม่ทั้งหลายจะกลับมากระชับเหมือนเดิมแน่นอน

8.การอยู่ไฟหลังคลอด

แนะนำให้ทำหลังจากออกโรงพยาบาลหรือภายใน 3-7 วัน ระยะเวลาในการอยู่ไฟจะอยู่ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จะเหมาะสำหรับคุณแม่ที่คลอดเองแบบธรรมชาติ และคุณแม่ที่ผ่าคลอดควรให้แผลผ่าคลอดหายแห้งสนิทเสียก่อนถึงจะอยู่ไฟได้ หรือประมาณ 45 วันหลังผ่าคลอด ควรจะใช้วิธีการอยู่ไฟควบคู่การออกกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ เช่น การใช้ลูกประคบสมุนไพร , การอาบน้ำสมุนไพร , การนึ่งหม้อเกลือ , การคาดไฟชุดตำราหลวง , การประคบ – นั่งอิฐ , การอบตัวด้วยกระโจมสมุนไพร , นวดคลายเส้นกล้ามเนื้อตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกาย , การดื่มน้ำสมุนไพร , สครับขับบำรุงผิว , การดื่มน้ำสมุนไพรขิง

การอยู่ไฟจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพของคุณแม่ให้กลับมาเหมือนเดิม มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น กระดูกข้อต่อจะเคลื่อนขยาย การใช้ความร้อนในการอยู่ไฟจะช่วยให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และจะทำให้คุณแม่ลดอาการตัวบวมลงได้

จากวิธีลดหน้าท้องหลังคลอดที่เรานำมาฝากข้างต้นนี้ ให้คุณแม่ลองไปทำกันดูนะคะ เป็นวิธีง่ายๆ สำหรับคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกและไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกายแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถที่จะทำได้ในเวลาที่ว่างได้เลยค่ะ สู้เขานะคะ Amarin Baby & Kids เป็นกำลังใจให้ค่า ^_^


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.shape.in.th