ผู้หญิงทุกคนตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ หากจับเจอก้อนเนื้อแข็ง ๆ จับแล้วเจ็บหรือไม่เจ็บ ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะก้อนบริเวณเต้านมเป็น สัญญาณมะเร็งเต้านม หากพบว่ามีความเสี่ยง อย่ารอช้า!
ภัยร้าย “มะเร็งเต้านม” มะเร็งอันดับหนึ่ง สาเหตุการเสียชีวิตผู้หญิงทั่วโลก
มะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลก จากสถิติพบว่า เพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมอยู่ที่ประมาณ 41,760 รายต่อปี ทั้งยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประมาณ 100 เท่า ส่วนสถานการณ์มะเร็งเต้านมของคนไทย ในปี 2557 พบว่าผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 14,804 คน (ผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่อย่างน้อย 13,000 คนต่อปีหรือ 35 คนต่อวัน และเพิ่มมากขึ้นทุกปี) ผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 162 คน
ปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งเต้านม
- อายุและพฤติกรรมการใช้ชีวิตจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงการป่วยมะเร็งเต้านม เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว โดยญาติสายตรง พบมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย
- เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณหน้าอก
- ระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนสูงกว่าปกติ เริ่มมีประจำเดือนเมื่ออายุน้อยกว่า 12 ปี ประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี
- ผู้หญิงที่ไม่มีลูกหรือมีลูกคนแรกหลังอายุ 30 ปี
- กินยาฮอร์โมนทดแทนหลังวัยทองนานเกิน 5 ปี และการกินยาคุมกำเนิด
สำหรับผู้ชายหากมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงก็มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอาการคลายน์เฟลเทอร์ ซึ่งความผิดปกติจากดีเอ็นเอของเพศหญิงเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ
สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
- พบก้อนเนื้อที่เต้านม ใต้รักแร้ ก้อนที่เต้านม โดยก้อนที่เต้านมเป็นสัญญาณของโรค 3 กลุ่ม 1.ซีสต์เต้านม 2.เนื้องอกเต้านม (ไม่ร้าย) 3.มะเร็งเต้านม ซีสต์มักจะเจ็บ แต่มะเร็งมักจะไม่เจ็บ หากพบก้อนเนื้อจึงควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป
- เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนจากเดิม เป็นไปได้ว่ามีความผิดปกติบริเวณเต้านม
- กดที่หน้าอกแล้วบุ๋ม ผิวหนังที่เต้านมบุ๋มลง หรือบวมหนา ลักษณะพื้นผิวคล้ายเปลือกส้ม รวมถึงสีของผิวหนังที่ลานนม หากมีสีที่เปลี่ยน อาจเกิดจากเซลล์มะเร็งลุกลามถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
- ของเหลวไหลออกมาจากหัวนม อาจมีสีคล้ายเลือด หรือเป็นน้ำเหลือง
- เจ็บเต้านมทั้งที่ไม่เป็นประจำเดือน หรือมีอาการบวมแดงที่ผิวหนังรอบเต้านม
- เกิดผื่นคัน ทั้งที่เต้านมหรือหัวนม อาจเป็นผื่นแดงแสบ ๆ คัน ๆ รักษาไม่หาย หรือกลายเป็นแผลตกสะเก็ดแข็ง
- ผิวหนังที่เต้านมบวม แดง รู้สึกร้อน ๆ
- เกิดแผลบนเต้านมหรือหัวนม ไม่หายสักที
วิธีตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง
ผู้หญิงที่อายุเกิน 20 ปีขึ้นไปควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำ และควรเข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมโดยแพทย์ทุก ๆ 3 ปี เริ่มได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี สำหรับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ อย่างไรก็ตาม วิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเองก็สามารถคัดกรองมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นได้ดี ซึ่งควรตรวจหลังประจำเดือนมา 7 – 10 วัน โดยนับจากวันแรกของการมีประจำเดือน หากไม่มีประจำเดือนแล้ว ให้ตรวจวันเดียวกันทุก ๆ เดือน ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ทำได้ดังนี้
- ยืนหน้ากระจก ดูเต้านมทั้ง 2 ข้าง สังเกตขนาด รูปร่าง สีผิว ตำแหน่งเต้านม หัวนม แล้วเปรียบเทียบกันทุก ๆ เดือน
- ยกแขนขึ้นเหนือหัวพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ดูที่เต้านม ค่อย ๆ หมุนตัวช้า ๆ ดูบริเวณด้านข้างของเต้านม
- มือเท้าเอวแล้วโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง
- ใช้นิ้วมือบีบที่หัวนมเบา ๆ ดูว่ามีเลือด หนอง หรือน้ำไหลออกมาหรือไม่
- คลำเต้านม ตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าลงมา ใช้มือซ้ายคลำเต้านมข้างขวา ให้ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางทั้ง 3 นิ้ว ค่อย ๆ กดลงบนผิวหนังเบา ๆ และกดแรงขึ้น จนกระทั่งสัมผัสกระดูกซี่โครง คลำเต้านมให้ทั่ว ไปจนถึงบริเวณรักแร้ อาจคลำจากหัวนมไปตามแนวก้นหอยจนถึงฐานเต้านม หรือคลำใต้เต้านมถึงกระดูกไหปราร้า
- จากนั้นคลำในท่านอนต่อไป ใช้หมอนหนุนไหล่ข้างที่จะทำ แล้วคลำซ้ำ
มะเร็งเต้านมตรวจเจอเร็ว รักษาหายได้ง่าย สิ่งสำคัญคือจิตใจต้องพร้อมต่อสู้ เพื่อเอาชนะมะเร็งร้ายให้ได้ เช่นเดียวกับดารา นักแสดง เหล่านี้ ที่ชีวิตเคยผ่านมรสุมอย่างหนักจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม แต่สุดท้ายก็ฝ่าฟันจนปัจจุบันร่างกายแข็งแรงดีขึ้น
เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์
เครดิตภาพ : IG เอ๊ะ-ศศิกานต์
อดีตนางเอกคนสวย เอ๊ะ-ศศิกานต์ คุณแม่คนสวยของน้องโรนิน ที่ทิ้งวงการบันเทิงไปตั้งรกราก ณ สหรัฐอเมริกา เธอเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับมะเร็งเต้านม แต่ปัจจุบันเธอก็ชนะโรคนี้แล้ว ด้วยครอบครัวของเธอมีประวัติเป็นมะเร็ง คุณพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ ส่วนคุณแม่เป็นมะเร็งเต้านมเช่นเดียวกับเธอ ทำให้เธอมีภูมิคุ้มกันด้านจิตใจที่เข้มแข็ง และสามารถดูแลรักษาอาการมะเร็งเต้านมได้อย่างทันท่วงที
แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ
เครดิตภาพ : IG แหวนแหวน-ปวริศา
เป็นทั้งนักแสดงและพิธีกรชื่อดัง แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ เธอทั้งสวย สดใส ทำงานได้อย่างมืออาชีพ แต่ใครจะรู้ว่า ช่วงหนึ่งแหวนแหวนก็เคยเจอกับปัญหาสุขภาพอย่างโรคมะเร็งเต้านม และได้ผ่าตัดเนื้อร้ายไปตอนอายุ 23 ปี ปัจจุบันหายดีกว่า 99% เพียงแต่ต้องดูแลสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น
นุ่น (รุ้งทอง) ดารัณ
เครดิตภาพ : IG นุ่น-ดารัณ
นักแสดงสาวมากความสามารถ นุ่น-ดารัณ ฐิตะกวิน หรือชื่อเดิม รุ้งทอง ร่วมทอง ก็เป็นคุณแม่หัวใจแกร่ง ที่ต้องผ่าตัดเต้านมออกไป 1 ข้าง เพราะเจ้ามะเร็งเต้านมตัวร้าย แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ด้วยกำลังใจจากลูก ๆ เธอเล่าด้วยว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ มองโลกในแง่ดี เพราะโรคมะเร็งทำให้เครียด แต่ถ้ายอมแพ้คนรอบข้างก็จะแย่ไปด้วย หลังจากการผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี เธอก็ต้องเฝ้าดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน
แจง-วราพรรณ หงุ่ยตระกูล
เครดิตภาพ : IG แจง-วราพรรณ
อีกหนึ่งนักแสดงหัวใจแกร่ง แจง-วราพรรณ หงุ่ยตระกูล ที่ต่อสู้กับมะเร็งร้าย ด้วยการตัดเต้านมข้างซ้ายไปทั้งเต้า คุณแจงยังต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองออกไปด้วย ทั้งยังต้องรับคีโมอีก แต่เธอก็ฝ่าฟันไปได้ด้วยกำลังใจจากเพื่อน ๆ รวมถึงสามีที่คอยดูแลเอาใจใส่ทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้เธอมีแรงที่จะต่อสู้กับโรคร้าย
อาย-กมลเนตร เรืองศรี
เครดิตภาพ : IG อาย-กมลเนตร
ถึงแม้จะไม่ใช่มะเร็งเต้านม แต่นางเอกหน้าหวาน อาย-กมลเนตร ก็ตัดสินใจผ่าตัดหลังจากพบก้อนเนื้อที่หน้าอก เนื่องจากก้อนเนื้อโตขึ้นและมีเส้นเลือดมาเลี้ยง จนอดลุ้นไม่ได้ว่านี่เป็นสัญญาณมะเร็งเต้านมหรือไม่ แต่สุดท้ายก็มีข่าวดีว่า ก้อนเนื้อที่พบไม่ใช่เนื้อร้าย แต่การผ่านพ้นวันเหล่านั้นไปได้ ทำให้เธอเข้าใจว่า ชีวิตคนเรามันแสนสั้น พร้อมกับพบความโชคดีอันเรียบง่าย…โชคดีมากที่วันนี้มีชีวิต
ถึงแม้ว่ามะเร็งเต้านมจะเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงทั่วโลก แต่ถ้าตรวจเป็นประจำ พบได้เร็วก็จะรักษาได้ทัน หากมีกำลังใจที่แข็งแรง โรคร้ายก็ชนะได้ไม่ยาก
อ้างอิงข้อมูล : goodlifeupdate, samitivejhospitals, bangkokpattayahospitalและ phyathai
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
เลือดออกทางช่องคลอด ไม่ใช่เลือดประจำเดือน สัญญาณอันตรายที่ต้องไปหาหมอ!
วิธีสังเกตอาการ ซีสต์ในรังไข่ รู้ไว้..รักษาได้ทัน ไม่อันตราย!