แพทย์เตือน ไม่กินข้าวเช้า ระวังเสี่ยง 6 โรคร้าย

ไม่กินข้าวเช้า  อดอาหารเช้า เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ใช่ไหมคะ ขอเตือนคุณพ่อคุณแม่เลยว่า ไม่ควรอดอาหารเช้านะคะ เพราะอาจเสี่ยงเป็น 6 โรคร้าย ทำลายร่างกายและสมองได้

 

ไม่กินข้าวเช้า ระวังเสี่ยง 6 โรคร้าย

เรามักจะได้ยินกันมาตลอดว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญนะ ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงโรคต่างๆถามหาได้ แต่ด้วยการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เร่งรีบ หรือคุณแม่บางคนที่ต้องทำงานบ้าน เลี้ยงลูกจนอาจจะลืมใส่ใจเรื่องอาหารการกิน แต่ขอเตือนเลยค่ะ ถ้ารู้ว่า ไม่กินข้าวเช้า แล้วเสี่ยงหลายโรคขนาดนี้ต้องคิดใหม่เลยค่ะ

การกินข้าวเช้า สิ่งที่สำคัญคือ เวลาในการรับประอาหาร ถ้าอยากให้มื้อเช้าสมบูรณ์แบบ คุณพ่อคุณแม่ควรรับประทานให้เสร็จก่อนเวลา 7.00 น. เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานไปใช้สำหรับในการทำงาน สำหรับกฎง่ายๆของการ กินข้าวเช้า คือ

ข้อแรก อาหารเช้า พยายามรับประทานอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาลให้น้อยที่สุด เพราะแป้งและน้ำตาลดูดซึมได้เร็ว เมื่อดูดซึมเร็ว อินซูลินจะมาควบคุมไม่ให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูง เมื่ออินซูลินมากดนานเข้าก็จะทำให้น้ำตาลเราต่ำ เมื่อน้ำตาลต่ำ เราก็จะหิวเร็ว เพราะฉะนั้นอาหารเช้าไม่ควรเป็นอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมากเกินไป

ข้อสอง อาหารเช้า ไม่ควรจะมีรสจัดเกินไป เพราะในตอนเช้ายังไม่มีน้ำย่อยมาก และกระเพาะอาหารยังไม่ขยับเต็มที่ หากรับประทานอาหารที่มีรสจัด และมีความมันหรือเผ็ดเกินไป จะทำให้เกิดผลเสียต่อกระเพาะอาหาร รับประทานเมนูเบาๆ รสอ่อนๆจะดีกว่า

ไม่กินข้าวเช้า แล้วจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

 

 

 

หมอเตือน! ไม่กินข้าวเช้า ทำร้ายสมอง พร้อมเสี่ยง 6 โรคร้าย

ด้าน อาจารย์ สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. ได้เคยอธิบายเรื่องการอดอาหารไว้ว่า “เนื่องจากร่างกาย อดอาหารมาตลอดทั้งคืน อาหารเช้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานจากอาหารมื้อเย็น ไปเลี้ยงหัวใจให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย  พอตื่นเช้ามา หลังจาก 9-10 โมง เราจะเริ่มหิว ดังนั้น จึงต้องกินอาหารเช้าเข้าไปทดแทนพลังงานที่เสียไป อีกทั้งอาหารเช้ายังช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกายและสมอง ทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน การกินอาหารเช้ายังช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันโรคอ้วนได้อีกด้วย”

คุณหมอ ออกมาเตือนขนาดนี้ คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ยัง ไม่กินข้าวเช้า เปลี่ยนใจยังทันนะคะ แต่บอกเลยว่า นอกจากโรคที่คุณหมอบอกมา เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะการไม่กินข้าวเช้าเป็นเวลานาน สามารถทำร้ายสมอง และยังเสี่ยงกับโรคต่างๆ ถึง 6 โรค ดังนี้

1. โรคอ้วน เนื่องจากการไม่กินข้าวเช้า จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำค่ะ และอาจจะส่งผลให้มื้ออาหารต่อๆ ไปกินหนักขึ้น เช่น กินของหวานมากในมื้อถัดไป ทำให้อัตราการเผาผลาญยังน้อยลง แบบนี้ก็อ้วนสิคะ
2. โรคเบาหวาน ไม่กินข้าวเช้าทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ค่ะ ซึ่งถ้าหากกินอาหารเช้าเป็นประจำ จะช่วยลดภาวะผิดปกตินี้ลงได้ ซึ่งบอกเลยว่า การไม่กินข้าวเช้าเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้ถึงร้อยละ 35-50 เลยทีเดียว
3. โรคอัลไซเมอร์ ไม่กินข้าวเช้าหรืออดอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า หลงลืม ความจำไม่ดี ไม่มีสมาธิ หากทำเป็นประจำต่อเนื่องนานๆ อาจนำมาซึ่งโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นต้องกินข้าวเช้าค่ะ เพราะการกินข้าวเช้าจะช่วยกระตุ้นพลังให้กับสมอง และทำให้มีความจำที่ดีขึ้นด้วย
4. โรคเส้นเลือดในสมอง และโรคหัวใจ เนื่องจากในช่วงเช้าหลังจากที่ตื่นนอนนั้น เลือดจะมีความเข้มข้นค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ ซึ่งเคยมีงานวิจัยจาก สมาคมแพทย์โรคหัวใจในอเมริกาเมื่อปี 2003 วิจัยออกมาแล้วพบว่า การกินข้าวเช้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้ค่ะ
5. โรคกรดไหลย้อน ปัจจุบันหลายคนเป็นโรคนี้เยอะมาก นั่นเป็นเพราะสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม เช่น การกินข้าวไม่เป็นเวลาก็เป็นส่วนหนึ่ง รวมถึงการไม่กินข้าวเช้า แต่หันมาดื่มเครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีนแทน เช่น ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแน่ๆค่ะ
6. โรคนิ่ว ที่หนักสุดคือ ไม่กินข้าวเช้า และอดอาหารนานกว่า 14 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุจะทำให้คอเลสตอรอลในถุงน้ำดีจับตัวกัน และถ้าหากยิ่งปล่อยไว้นานๆ จะกลายเป็นก้อนนิ่วได้ เพราะฉะนั้น ควรกินข้าวเช้า เพราะอาหารเช้าจะช่วยให้ตับปล่อยน้ำดีออกมาเพื่อละลายคอเลสเตอรอลที่จับตัวกันอยู่ได้ ป้องกันการเกิดโรคนิ่วนั่นเองค่ะ

 

เห็นหรือยังคะว่าการ ไม่กินข้าวเช้านั้น ส่งผลเสียต่อสมอง และเสี่ยงโรคต่างๆมากมาย เพราะฉะนั้นสละเวลานิดหน่อยเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ เพื่อเป็นการให้คุณพ่อคุณแม่ มีกำลังใจอยากจะหันมากินข้าวเช้ากันมากขึ้น มาดูกันว่า ข้อดีของการกินข้าวเช้านั้น มีอะไรกันบ้างค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaihealth.or.th

 

 

 

ข้อดีของการกินข้าวเช้า

1. ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

หลายคนโดยเฉพาะสาวๆที่อยากลดน้ำหนัก มีความเข้าใจผิดมากๆว่า การไม่กินข้าวเช้า ส่วนหนึ่งจะช่วยในการลดน้ำหนัก หรือไขมันส่วนเกินได้ แต่บอกเลยว่าไม่จริงอย่างมากเลยค่ะ เพราะการไม่กินข้าวเช้ายิ่งทำให้อัตราการเผาผลาญช้าลงไปอีก  และยังทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อด้วย ถึงแม้ว่าอาจจะผอมลงจากการอดอาหารเช้า ก็มีแนวโน้มที่จะผอมแต่ลงพุง เพราะฉะนั้น ควรกินข้าวเช้าทุกวันเพื่อให้สุขภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ

2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

ถ้าอาหารเช้าที่รับประทาน มีส่วนผสมของผักและผลไม้ จะเป็นการกระตุ้นและช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำอันตรายแก่ร่างกายได้ เนื่องจากผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพดีตามไปด้วย

3. ช่วยในการลดน้ำหนัก

ใครว่าอยากผอมต้องอด มีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า อาหารเช้ามีผลต่อการรักษาสมดุลของน้ำหนัก ซึ่งหากงดมื้อเช้าในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก กลับกลายเป็นว่ามีแนวโน้มที่น้ำหนักจะลดน้อยกว่า คนที่กินข้าวเช้าเป็นประจำ อีกทั้งการกินข้าวเช้า จะช่วยป้องกันไม่ให้รับประทานมากในช่วงระหว่างวัน รวมถึงยังช่วยให้ฮอร์โมนมีความสมดุล ส่งผลให้การควบคุมน้ำหนักดำเนินไปได้ด้วยดีค่ะ

4. ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น

ถ้าไม่กินข้าวเช้าจะทำให้ร่างกายจจำเป็นต้องดึงพลังงานที่เก็บสะสมไว้มาใช้ โดยที่ไกลโคเจน ซึ่งเป็นอาหารสะสมประเภทคาร์โบไฮเดรต ที่ถูกเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อ จะโดนดึงออกมาใช้จนหมดสิ้น ส่งผลให้ร่างกายต้องย่อยโปรตีนจากกล้ามเนื้อ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไว้ จนในที่สุดกล้ามเนื้อก็จะลดลง เพราะฉะนั้น หาอาหารเช้าที่ใฟ้พลังงานสูงมารับบประทาน อาจจะเป็นขนมปังโฮลวีท ไข่ กรีกโยเกิร์ต อะโวคาโด หรืออื่นๆตามความเหมาะสมก็ได้ค่ะ

6. ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น

ระดับของน้ำตาลในเลือด มักจะลดลงในขณะที่นอนหลับในช่วงกลางคืน และจะได้รับการทดแทนเมื่อกินข้าวเช้า ซึ่งระดับของกลูโคสในเลือดจะช่วยให้สมองสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีสมาธิในการทำงาน หรือทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น

7. ช่วยให้ร่างกายกระฉับกระเฉง

การทานอาหารเช้าเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานพร้อมสำหรับการทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะทำให้มีแรงในการออกกำลังได้มากขึ้น หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้อาศัยพลังงานอย่างมาก ใช้ความกระฉับกระเฉง การกินข้าวเช้าก็จะช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ อีกทั้งยังมีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า การกินข้าวเช้าจะเป็นการส่งสัญญาณไปยังกระแสเลือดว่าร่างกายยังคงมีพลังงานอีกด้วย

 

ทราบทั้งข้อดีและข้อเสียแบบนี้แล้ว ก็อยากจะให้คุณพ่อที่อาจจะทำงานยุ่ง หรือคุณแม่ที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเลี้ยงลูก จนอาจจะไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่กินข้าวเช้ากัน ก็อย่าลืมหันมาดูแลตัวเอง รับประทานอาหารเช้ากันให้มากขึ้นด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.honestdocs.co

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

อาหารเสริมลูกน้อย เริ่มเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม?

เผยสูตรเด็ด ซุปน้ำนมข้าวโพด อาหารบำรุงสมองและสายตา (มีคลิป)

เตือนภัย! ยาชุดแก้ปวดเมื่อย ไม่ช่วยให้หายแถมเสี่ยงตายไม่รู้ตัว