AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

คนไทยกินผักผลไม้น้อย เสี่ยงโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น

ถึงแม้กระแสการรับประทานผักผลไม้ กินคลีน จะมีให้เห็นกันอยู่ตามสื่อออนไลน์ แต่ก็มีข้อมูลที่น่าตกใจว่ากว่า 75% ของ คนไทยกินผักผลไม้น้อย ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด คืออย่างน้อยวันละ 400 กรัม ทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเรื้อรัง

รองศาสตราจารย์ ดร.วิสิฐ จะวะสิต ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ผู้ชายรับประทานผักผลไม้ประมาณ 268 กรัมต่อวัน ผู้หญิงรับประทานผักผลไม้วันละประมาณ 283 กรัมต่อวัน และมีการรับประทานผักผลไม้น้อยลง โดยเฉพาะ 80 ปีขึ้นไป เพียง 200 กรัมต่อวัน

ซึ่งต่ำกว่าที่ทาง องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ว่าควรไม่น้อยกว่าวันละ 400 กรัม เพราะลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ถึง 50% โรคหัวใจ 30% โรคหลอดเลือดสมอง 6% และโรคมะเร็งทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร 1-6% นอกจากนี้ยังช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง เพราะผักมีพลังงานต่ำ ถ้ารับประทานในปริมาณที่กำหนด จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน และความดัน

ในประเทศไทยมีผักที่บริโภคได้ถึง 330 ชนิด แต่คนไทยรับประทานเพียง 70-80% ของผักทั้งหมด และมีผักหลายชนิดที่ไม่ได้รับประทาน อาจจะเป็นเพราะวิถีชีวิตที่เร่งรีบของคนในปัจจุบัน ทำให้วัฒนธรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป หันมารับประทานอาหารจานด่วน ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง เป็นต้น

นางสุจิตต์ สาลีพันธ์ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า ให้แบ่งอาหารเป็น 5 ส่วน ผัก 3 ส่วน ผลไม้ 2 ส่วน โดยรับประทานไม่ต่ำกว่า 5 ทัพพี

ผศ.ทัศนีย์ โรจนไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล เสริมว่า กำมือของตัวเองเป็นตัวกำหนด เช่น ในกลุ่มเด็กมีขนาดมือเล็ก ปริมาณผักผลไม้ก็ต้องลดสัดส่วนลงไปด้วยนั่นเอง

อ่านต่อ “ผักผลไม้ 5 สีที่พ่อแม่ลูกควรรับประทาน” คลิกหน้า 2

ผักผลไม้ 5 สีที่พ่อแม่ลูกควรรับประทาน

ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย แนะนำว่า ใน 1 วันควรรับประทานผักให้ได้อย่างน้อย 2 ทัพพี ควบคุมกับผลไม้ทุกมื้อเป็นประจำ และผักควรรับประทานให้ครบ 5 สี ดังนี้

1.สีเขียว ให้สารคลอโรฟีลล์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ขจัดฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของมะเร็งบางชนิด เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้งผักกาดหอม ผักคะน้า แตงกวา

2.สีเหลือง ให้สารเบต้าแคโรทีน และฟลาโวนอยส์ ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงสายตา เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ

3.สีม่วง ให้สารแอนโทไซยานิน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมองยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหาร ซึ่งทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง ดอกอัญชัน

4.สีขาว ให้สารอะไลซิน สร้างเซลล์ให้แข็งแรง ยับยั้งการเกิดเนื้องอกช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมากต้านการอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดปริมาณไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตป้องกันเส้นเลือดอุดตัน รักษาระบบภูมิคุ้มกัน เช่น กระเทียม หัวไชเท้า ถั่วเหลือง

5.สีแดง มีสาร ไลโคพีน อยู่ในปริมาณสูง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอี 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่าสารไลโคพีนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งปอด และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุมดลูก เช่น มะเขือเทศ หอมแดง พริกหวาน เป็นต้น

เคล็ดลับ

ก่อนรับประทานผักผลไม้ทุกครั้ง ควรล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง เพื่อลดสารพิษและยาฆ่าแมลงที่ตกค้าง แล้วแช่ผักผลไม้ในน้ำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15-30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว ถ้ามีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปล้างน้ำหลายๆ ครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านผักสดอย่างน้อย 2 นาที

อ่านต่อ “การทดลองอาหารในจานมีผักมากแค่ไหน?” คลิกหน้า 3

การทดลองอาหารในจานมีผักมากแค่ไหน?

ต่อไปนี้คือภาพการทดลองว่าอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีผักมากน้อยแค่ไหน ไปชมภาพกันค่ะ

1.จากการทดลองได้นำอาหารตัวอย่างทั้งหมด 6 อย่างมาตรวจสอบสารอาหารที่ได้จากผักว่ามีมากน้อยแค่ไหน

2.โดยใช้ขั้นตอนการสกัดสารอาหารจากผัก ด้วยเครื่อง Soxhlet

อ่านต่อ “การทดลองอาหารในจานมีผักมากแค่ไหน?” คลิกหน้า 4

3.เพื่อตรวจสอบว่าในอาหารแต่ละจานมีสารอาหารจากผักประมาณเท่าไร

4.ซึ่งปริมาณสารอาหารที่ได้จากผักที่ควรได้รับต่อวันอย่างน้อย 400 กรัม เมื่อเทียบกับสลัดผัก 1 ชามมีน้อยนิด

5.จากผลการทอลองพบว่า อาหารที่เรารับประทานกันในแต่ละวันมีสารอาหารจากผักไม่เพียงพอ จำเป็นต้องรับประทานผักอย่างน้อย 2 ทัพพีในทุกมื้ออาหาร

คุณพ่อ คุณแม่ควรฝึกตัวเอง และลูกน้อย ให้รับประทานผักให้ได้ โดยเฉพาะผักผลไม้สดๆ ที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าผักที่ผ่านการปรุง หรือน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และห่างไกลโรคภัย

เครดิต: health.kapook.com, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, www.youtube.com/watch?v=S34EFhWzoXY