วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนที่สามารถฉีดได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก 6 เดือนขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมลูก โดยไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน และสามารถฉีดได้ทุกปี แม่แต่คนที่มีปัญหาสุขภาพ ก็ควรจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำ
เหตุผลที่ควรต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่เสมอ ทำให้เกิดเชื้อใหม่ในสัตว์และในคนอยู่เป็นระยะ เป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันโรคในสัตว์และในคนที่มีอยู่เดิมอาจไม่สามารถป้องกันโรคได้ นอกจากนี้ภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่นั้นคงอยู่ไม่นานและมักจะลดต่ำลงได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือนหรือปี ดังนั้นการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีจึงเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันให้เหมาะสมกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่มาใหม่แต่ละปี และมีระดับที่สูงอยู่ตลอดเวลาสำหรับรับมือกับเชื้อที่จะเข้ามาสู่ร่างกายของเรา
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ป้องกันเชื้อไวรัส
เมื่อลูกน้อยมีไข้ หนาวสั่น ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล บางครั้งอาจอาเจียน และท้องเสีย ให้คิดว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ถ้ามีไข้สูงกว่าไข้หวัดธรรมดา ปวดศีรษะมาก ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่นี้มักเป็นกันในช่วงหน้าฝน
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Influenza ซึ่งจะมีอยู่ 3 ชนิด คือ A B C ชนิด A เกิดขึ้นในคนและสัตว์ B C เกิดขึ้นในคน ในประเทศไทยพบชนิด B น้อยกว่า A ซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่สร้างปัญหาไปทั่วโลก ทำให้ต้องเปลี่ยนวัคซีนในแต่ละปี ที่รู้จักกันดีคือ H1N1 และ H3N2
อ่านต่อ “ไข้หวัดใหญ่ ใครคือกลุ่มเสี่ยง?” คลิกหน้า 2
2. ไข้หวัดใหญ่ ใครคือกลุ่มเสี่ยง?
- กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการที่จะเกิดอาการแทรกซ้อน หลังจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
- บุคคลที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- บุคคลที่เข้ารับการบำบัดอยู่ใน nursing home และสถานที่รับดูแลโรคเรื้อรัง
- ผู้ใหญ่และเด็กที่มีโรคปอดเรื้อรัง โรคระบบหัวใจไหลเวียน รวมทั้งเด็กที่เป็นโรคหอบหืดด้วย
- ผู้ใหญ่หรือเด็กที่ต้องเข้ารับการรักษา เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำด้วยโรคเรื้อรัง คือ โรคเบาหวาน โรคไต โรคเลือด หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ที่ได้รับยากดระบบภูมิคุ้มกัน
- เด็กหรือวัยรุ่น(6 เดือน-18 ปี) ที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาด้วยแอสไพรินเป็นประจำจะมีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยเป็น Reye’s Syndrome หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
- แพทย์-พยาบาล บุคลากรอื่นๆ ในโรงพยาบาล
- เจ้าหน้าที่ใน nursing home และสถานที่บำบัดผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
- บุคคลที่เข้าพักอยู่ในบ้านเดียวกันกับคนที่มีความเสี่ยงสูง
3. กลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประชาชนทั่วไปที่ต้องการฉีดเพื่อป้องกันการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ โดยคนที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว หรือปวดบวมบริเวณที่มีการฉีดวัคซีน แต่อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและสามารถหายเป็นปรกติได้ภายใน 1-2 วัน สำหรับบุคคลที่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ไก่แบบรุนแรง เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ผลิตจากไข่ไก่ฟัก และผู้ที่มีไข้สูง หรือมีอาการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลันควรรอให้อาการไข้ลดลงก่อนแล้วจึงไปเข้ารับการฉีดวัคซีน
อ่านต่อ “ไข้หวัดใหญ่ป้องกันยังไงดี?” คลิกหน้า 3
3. ไข้หวัดใหญ่ป้องกันยังไงดี?
4. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีกี่ชนิด?
ปัจจุบันมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ คือ ไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ B 1 สายพันธุ์ เป็นวัคซีนมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ป้องกัน เพราะคุ้มค่า และเหมาะสมกับประเทศไทย ส่วนวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ A 2 สายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดน้อยมาใส่เพิ่ม แต่ราคาก็จะสูงขึ้นด้วย โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีด้วยกัน 2 ชนิดคือ
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อเป็น ผลิตโดยนำเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มาทำให้ฤทธิ์อ่อนลง แล้วฉีดเข้าสู่ร่างกายใช้วิธีพ่นทางจมูก เพื่อสร้างภูมิต้านทานเฉพาะในเยื่อบุทางเดินหายใจ ซึ่งมีใช้ในบางประเทศ ในประเทศไทยยังไม่มีใช้ มีข้อระวังในการใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิต้านทาน หรือภูมิคุ้มกันผิดปกติ และไม่ใช้ในเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ
2. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อตาย เป็นวัคซีนสกัดชิ้นส่วนของไวรัส แล้วนำมาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เพื่อสร้างภูมิต้านทานเฉพาะในเลือด สามารถฉีดได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้น ซึ่งมีใช้กันในประเทศไทย
อ่านต่อ “วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีสายพันธุ์อะไรบ้าง?” คลิกหน้า 4
5. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีสายพันธุ์อะไรบ้าง?
- Influenza A/California/7/2009 (H1N1)pdm09-like virus;
- Influenza A/Switzerland/9715293/2013 (H3N2)-like virus;
- Influenza B/Phuket/3073/2013-like virus.
6. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับผลข้างเคียง
การฉีดวัคซีนอาจมีผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย เช่น มีอาการบวม แดง คันบริเวณที่ฉีด มีไข้ ปวดเมื่อย ซึ่งจะหายไปเองใน 2-3 วัน สำหรับอาการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน เช่น เป็นลมพิษ ปากบวม หรือเป็นหอบหืด ซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก ถ้าเกิดขึ้นแล้วให้ดูแลด้วยการประคบน้ำเย็นบริเวณที่ปวด บวม หรือรับประทานยาแก้ไข้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกัน และก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าชนิดอื่น แต่เนื่องจากวัคซีนใหญ่หวัดใหญ่ ผลิตจากไข่ไก่ฟัก สำหรับผู้ที่แพ้ไข่ไก่แบบรุนแรง ไม่ควรฉีดวัคซีนนี้ และผู้ที่มีไข้สูงเฉียบพลัน ควรรอให้ไข้ลดลงก่อน จึงจะฉีดวัคซีน
เครดิต: อาจารย์ จันทนา ห่วงสายทอง ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ หัวหน้าหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อ่านเพิ่มเติม คลิก!