AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เพจหมอเด็กเตือน! ใช้ยาม่วงกับลูก..เสี่ยงเป็นมะเร็ง*

เพจหมอเด็กเตือน! ใช้ยาม่วงกับลูก..เสี่ยงเป็นมะเร็ง*

เพจหมอเด็ก ออกมาโพสต์เตือน ยาม่วง ที่ใช้ป้ายปาก รักษาแผลในปาก อันตราย!!! เพราะมีงานค้นคว้าและวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่า การใช้ยาม่วงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้

เพจหมอเด็กเตือน! ใช้ ยาม่วง กับลูก…เสี่ยงเป็นมะเร็!!

ยาม่วง หรือ  เจนเชียนไวโอเลต (Gentian violet)  เป็นยาที่หลายคนคุ้นเคย และอาจเคยผ่านการใช้กันมาแทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็ก ซึ่งสรรพคุณของยาม่วง หรือ เจนเชียนไวโอเลต ถูกค้นพบในตอนแรกคือมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเช่น แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ ซึ่งต่อมาในปัจจุบันก็ได้พัฒนามาเป็นยาน้ำประเภทสารละลายสีม่วง ใช้ทารักษาการติดเชื้อทางผิวหนัง รักษาการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย เชื้อราในช่องปากและ ตามผิวหนังของร่างกาย

ยาม่วง เสี่ยงเป็นมะเร็ง จริงหรือ?

แต่ล่าสุดทางเฟซบุ๊กเพจ หมอเด็ก ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า มีงานค้นคว้าและวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่า การใช้ยาม่วงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ โดยใจความที่โพสต์ มีดังนี้…

ใครที่ชอบใช้ยาม่วงมาทาแผลในสมัยก่อน บอกเลยว่าตอนนี้ไม่ควรใช้ เพราะมันอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้
ยาม่วงที่ว่านี้คือ Gentian violet (เจนเชียนไวโอเลต) ที่พ่อๆแม่ๆหลายคนชอบเอามากวาดลิ้น กวาดช่องปากในเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อรานั่นแหละ จะบอกว่าตอนนี้งานค้นคว้าและวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่า การใช้ยาม่วงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ด้วย
ถามว่าแล้วในเมื่อมันอันตรายทำไมเพิ่งจะมาบอก คือในทางการแพทย์เนี่ยปกติแล้วมันไม่มีอะไร 100% หรอก ความรู้ต่างๆ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามแต่ข้อมูลใหม่ๆมาสนับสนุน ตัวยาก็เช่นกัน ถ้ามีการทดลองด้วยตัวแปรใหม่ๆตามยุคสมัย การใช้ยาก็อาจจะเจอผลลัพธ์ข้างเคียงที่เปลี่ยนไปจากอดีตก็ได้ ยิ่งระยะเวลาผ่านไปนาน ยาบางตัวเพิ่งส่งผลเคียงข้างหลังจากใช้ไปแล้วหลายสิบปีก็มี เหมือนกับข่าวการห้ามยาพาราเกินขนาดนั่นแหละ ที่แต่ก่อนเอะอะไรผู้ใหญ่ก็กิน 2 เม็ด แต่เดี๋ยวนี้ให้เปลี่ยนไปกินตามน้ำหนักตัวแทน
เจ้ายาม่วงนี่ก็เหมือนกัน แต่ก่อนมันอาจไม่เห็นผลข้างเคียง แต่ล่าสุดมีงานวิจัยในสัตว์พบว่า หลังจากใช้ยาม่วงไประยะนึงแล้ว ยานี้ส่งผลให้สัตว์เป็นมะเร็งได้ ฉะนั้นหลายๆ ประเทศเค้าเลยยกเลิกห้ามใช้เด็ดขาดถาวรแล้วนั่นเอง อย่างที่อเมริกา กับแคนาดา ก็เพิ่งถอนยานี้ออกจากตลาดไปในปีนี้หมาดๆเลย
แต่ทว่า ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่บ่งชี้ชัดว่ายานี้เป็นอันตรายกับมนุษย์ขนาดไหน แต่พี่เล่นเตือนว่าห้ามใช้กับแมวกับหมาเด็ดขาด ใครจะกล้าเอาไปใช้กับลูกได้อีกหล่ะถูกไหม

ทีนี้ถ้าห้ามใช้ยาม่วง แล้วควรใช้อะไรแทนดี ?

เวลาแม่ๆ สงสัยว่าคราบขาวๆ ในปากน้อง เกิดจากน้ำนมหรือติดเชื้อราเนี่ย ต้องดูให้ดีเพราะถ้าเราเช็ดคราบน้ำนมที่ลิ้นแล้ว ลิ้นแเดง แสดงว่าอักเสบ เป็นเชื้อรา ก็ต้องพาน้องมาให้คุณหมอดูอีกที เพราะบางครั้งน้องอาจไม่มีอาการอะไรให้เห็น หรือถ้ามีก็อาจแค่ไม่ค่อยดูดนมเพราะมีเจ็บจากอาการอักเสบของเยื่อบุในช่องปาก ซึ่งถ้าคุณหมอดูแล้วเห็นว่าเป็นเชื้อรา สมัยนี้ก็จะให้ยา Nystatin oral suspension มาแทน โดยหยอดกระพุ้งแก้มวันละ 4 ครั้ง 5-10 วัน ก็โอเคแล้วล่ะ

เพื่อนใคร หรือบ้านไหนที่ยังใช้ยาม่วงกันอยู่ ก็ฝากเตือนฝากบอกพวกเค้ากันด้วยนะ อันนี้ซีเรียสเลย

Ref อ้างอิงผลวิจัยจาก: oehha.ca.gov และขอขอบคุณอาจารย์หมอแผนกเด็กประจำ โรงพยาบาลรามคำแหง Ramkhamhaeng Hospital

อ่านต่อหน้า 2 >> ไขข้อสงสัย..!
แท้จริงในไทย ยาม่วงยังปลอดภัยใช้ได้จริงหรือ?

อ่านต่อบาความอื่นน่าสนใจ คลิก:

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

ภาพโพสต์เตือนจาก เพจหมอเด็ก

ยาม่วง อันตรายไหม ในไทยยังใช้ได้จริงหรือ?

โดยจากโพสต์ดังกล่าวที่มีความไม่ชัดเจนหรือไม่มีข้อบ่งชี้ว่า ยาม่วง มีอันตรายต่อมนุษย์โดยตรง ก็ได้มีชาวเน็ตหลายๆ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันอย่างมากมาย ซึ่งก็มีคุณหมอจากเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ เข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติมอีกด้วยว่า

ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนกับการใช้ยาม่วง ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงได้สอบถามความคิดเห็นของ ภญ. ดวงแก้ว อังกูรสิทธิ์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง  Drug Guru ฉลาดรู้เรื่องยา ว่า ยาม่วง อันตรายไหม จึงได้คำตอบว่า …

จากการสืบค้นข้อมูล “ยาม่วง หรือ Gentian violet” ในปัจจุบันมีสถานะเป็นยาสามัญประจำบ้าน  ซึ่งก็แสดงว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง และจากงานวิจัยต่างประเทศที่แสดงข้อมูลว่า ยาม่วงเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ได้ เพราะมีการให้เป็นยาหรืออาหาร และใช้เป็นเวลานานหลายเดือนนั่นเอง ในขณะที่วิธีการใช้ยาม่วงในประเทศไทย ใช้เป็นยาใช้ภายนอก ห้ามรับประทาน โดยมีวิธีใช้ป้ายเฉพาะบริเวณที่เป็น ไม่ใช้ในปริมาณมากเพราะ อาจกลืนลงคอได้ และใช้ไม่เกิน 3 วัน ทั้งนี้หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ หรือสรุปคือยาม่วงยังเป็นยาที่ปลอดภัยถ้าใช้ยาอย่างถูกวิธี

นอกจากนี้ การใช้ยาม่วง เจนเชียนไวโอเลตในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่กำลังให้นมลูก ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ด้วยจะดีที่สุด

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาม่วง* อ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.pobpad.com

อย่างไรก็ดี ผลจากการใช้ยาม่วงอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ในบริเวณที่ทายา ผู้ใช้ควรหยุดยาและรีบไปหาหมอโดยด่วน หากพบอาการระคายเคือง บวม แดง หรืออาการของการติดเชื้อ เช่น รู้สึกร้อน กดแล้วเจ็บ มีหนอง เป็นต้น รวมถึงอาจพบอาการข้างเคียงอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

อ่านต่อบาความอื่นน่าสนใจ คลิก:


ขอบคุณที่มาจาก : หมอเด็ก และข้อมูลอ้างอิงจาก ภญ. ดวงแก้ว อังกูรสิทธิ์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง  Drug Guru ฉลาดรู้เรื่องยา

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids