การรับประทานอาหารบางอย่างร่วมกับยาบางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายกับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ ได้ Dr. Aisling Hillick ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพออกมาเตือนถึง “Food and Medicine” อาหารและยา ที่ไม่ควรกินร่วมกัน 10 อย่าง ได้แก่ กล้วย มะนาว แอลกอฮอล์ กาแฟ ผักใบเขียว ชะเอมดำ นม ส้มโอ แซลมอน และช็อคโกแลต
1.กล้วย
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกล้วย – หากกำลังใช้ยาความดันโลหิตสูง
กล้วยมีโพแทสเซียมสูงซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับผู้ที่ใช้ยา เช่น Captopril, ACE inhibitors หรือ Angiotensin receptor blockers ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมในปริมาณมาก เช่น กล้วย ผักใบเขียว และส้มด้วย
“การรับประทานยาความดันโลหิตสูง พร้อมกับอาหารเหล่านี้จะทำให้มีระดับโพแทสเซียมสูงเกินไป เพราะจะทำให้หัวใจมีอาการเต้นผิดปกติ” Dr. Aisling Hillick กล่าว
2.มะนาว
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะนาว – หากกำลังใช้ยาแก้ไอ
หลีกเลี่ยงการรับประทานมะนาวกับยาที่มีส่วนผสมของ dextromethorphan
“อาการที่มีรสเปรี้ยวอาจไปยับยั้งการทำงานของยาที่ร่างกายควรจะได้รับในการรักษาอาการไอ และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอน และเกิดภาพหลอนได้” Dr. Aisling Hillick กล่าว
ผลข้างเคียงนี้จะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานมะนาวร่วมกับยาประมาณ 24 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น
3.แอลกอฮอล์
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแอลกอฮอล์ – หากกำลังใช้ยาแก้แพ้ ยาแก้โรคเบาหวาน หรือยาแก้ปวด
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงใช้กับยาเหล่านี้ ซึ่งมักจะมีคำเตือน เพราะจะทำให้ความดันในตับสูงขึ้น
“แอลกอฮอล์ ยาพาราเซตามอล และโคเดอีน จะถูกเผาผลาญโดยตับ ทำให้ตับทำงานหนัก เพราะต้องทำลายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาในเวลาเดียวกัน มีผลข้างเคียงทำให้ง่วงนอน และอาจทำลายตับได้” Dr. Aisling Hillick กล่าว
4.กาแฟ
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกาแฟ – หากกำลังใช้ยาขยายหลอดลมสำหรับโรคหอบหืด
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟพร้อมกับยาขยายหลอดลม เพราะยาขยายหลอดลมเป็นยาที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายใจง่ายขึ้น และผ่อนคลายกล้ามเนื้อในปอด และขยายทางเดินหายใจให้ขยายใหญ่ขึ้น
“ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ มีอารมณ์หงุดหงิด และทำให้ฉุนเฉียวง่าย นอกจากนี้ยังจำกัดประสิทธิภาพการทำงานของยาที่ใช้ด้วย” Dr. Aisling Hillick กล่าว
5.ผักใบเขียว
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักใบเขียว – หากกำลังใช้ยาเกี่ยวกับเลือด
ผักใบเขียวเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ควรหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานร่วมกับยา Anticoagulants เพราะเมื่อใช้ยาจะต่อต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Warfarin จะต้องระวังไม่ให้รับประทานยาผักใบเขียว
“ผักใบเขียวมีวิตามิน K สูง ช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อเลือดออก Warfarin ถูกสร้างมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผลิตของวิตามิน K ถ้ากินผักมากๆ จะทำให้ยาทำงานไม่มีประสิทธิภาพ” Dr. Aisling Hillick กล่าว
อ่านต่อ >> “อาหารและยาที่ไม่ควรกินร่วมกัน” คลิกหน้า 2
6.ชะเอมดำที่อยู่ในทอฟฟี่
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชะเอมดำหรือทอฟฟี่ – หากกำลังใช้ยาโรคหัวใจ
ชะเอมดำหรือทอฟฟี่ เป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับผู้ที่รับประทานยาโรคหัวใจ เพราะชะเอมดำลดโพแทสเซียมในร่างกาย อาจเป็นอันตรายกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ
“โพแทสเซียมจะทำให้เกิดผลข้างเคียงกับยา digoxin ที่ใช้ในการรักษาโรคหัวใจล้มเหลว และจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ยาที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง โรคต้อหินหัวใจล้มเหลว และรักษาการทำงานที่เกี่ยวกับตับ และไตที่มีโพแทสเซียมต่ำ เมื่อรับประทานชะเอมดำเข้าไปจะทำให้โพแทสเซียมลดลงมากยิ่งขึ้น จนเกิดหัวใจอ่อนแอ ปวดหัวใจ และจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ” Dr. Aisling Hillick กล่าว
7.นม
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานนม – หากกำลังใช้ยาปฏิชีวนะ
“Ciprofloxacin และ tetracycline ควรรับประทานกับน้ำ 1-2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหาร เพราะอาหารจะสร้างความยุ่งยากในการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ดังนั้นจึงใช้ยาปฏิชีวนะ พร้อมกับการดื่มนมไม่ได้” Dr. Aisling Hillick กล่าว
8.ส้มโอ
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานส้มโอ – หากกำลังใช้ยาลดความดันโลหิต
ส้มโอ ไม่ดีต่อยากลุ่ม statins ถ้าใช้ยากลุ่มนี้ในยาลดความดันโลหิตแล้วรับประทานส้มโอ หรือน้ำผลไม้ ส้มโอจะหยุดการทำงานของยา
“ผลข้างเคียงของคนที่รับประทานส้มโอ กับยานี้จะทำให้มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้” Dr. Aisling Hillick กล่าว
9.แซลมอน
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแซลมอน – หากกำลังใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า
แซลมอนเป็นสิ่งที่ไม่ควรรับประมาณเมื่อมีอาการซึมเศร้า เพราะมีสารไปยับยั้งเอนไซม์ที่จะทำให้ร่าเริง รวมถึงเนื้อสัตว์ที่รมควัน เช่น ไส้กรอกรมควัน ปลาแซลมอนรมควัน หรือตับไก่ย่าง
“ปัญหาก็คือว่าอาหารเหล่านี้อุดมไปด้วย tyramine สารประกอบที่เกิดจากการสลายของกรดอะมิโน เมื่อรับประทานพร้อมกับยาจะทำให้ระดับ tyramine ไปขัดขวางการทำงานของยาและทำให้ความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นอันตรายมาก อาหารอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงรวมถึงชีส เนื้อสัตว์รมควันทุกชนิด อาหารแปรรูป และปลาด้วย” Dr. Aisling Hillick กล่าว
10.ช็อคโกแลต
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานช็อคโกแลต – หากกำลังใช้ยา Ritalin
ถ้ากำลังใช้ยา Ritalin ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานช็อคโกแลต คาเฟอีนในช็อคโกแลตจะไปกระตุ้นยาที่ใช้ในการรักษาโรคของผู้ป่วยที่ควรใช้อย่างระมัดระวัง
“กาแฟและช็อคโกแลตจำทำปฏิกิริยากับยาทำให้ระดับคาเฟอีนสูงขึ้น จะทำให้รู้สึกทุกข์ทรมานจากความกระวนกระวาย นอนไม่หลับ และใจสั้น” Dr. Aisling Hillick กล่าว
เครดิต: mirror.co.uk
Save