AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์ อีกหนึ่งโรคใกล้ตัวที่ผู้หญิงต้องระวัง!

เตือนผู้หญิงทุกคน! มีหน้าท้องยื่นออกมา เสี่ยงเป็น ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์

เตือนคุณแม่ๆ และคุณผู้หญิงทุกคน หากรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าท้องยื่นออกมา อย่าชะล่าใจคิดว่าตัวเองอ้วน หรือกำลังตั้งท้องเพราะแท้จริงคุณอาจกำลังป่วยเป็นโรค ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์ อีกหนึ่งโรคใกล้ตัวที่ผู้หญิงต้องระวัง

เตือนผู้หญิงทุกคน! มีหน้าท้องยื่นออกมา
เสี่ยงเป็น ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์

เชื่อว่า คุณผู้หญิงแทบทุกคน น่าจะเคยได้ยินชื่อโรคซีสต์ หรือ ถุงน้ำรังไข่ แต่หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับ โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst) ที่เกิดจากเซลล์ที่มีความสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ มาอยู่ที่บริเวณรังไข่ตั้งแต่แรกเกิด แล้วมีการพัฒนาหรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยบางอย่างให้เจริญไปเป็นเซลล์ไขมัน เส้นผม กระดูกอ่อน หรือฟัน จนเกิดเป็นถุงน้ำที่รังไข่เรียกว่า เดอร์มอยด์ซีสต์

ซึ่งลักษณะอาการที่ปรากฏมักทำให้คิดว่าโดนของหรือคุณไสยฯ ทั้งที่ความจริงคือ โรคถุงน้ำรังไข่ ที่พบได้บ่อย ๆ ในคุณผู้หญิง ที่น่าสนใจคือ มักจะไม่มีอาการใด ๆ เลย และพบได้แม้อายุยังน้อย ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์

ซึ่งสำหรับโรค ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้ถูกแชร์ต่อในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก หลังเพจเฟซบุ๊ก อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน หรือ พ.ต.ต.อรัณ ไตรตานนท์ นายแพทย์ สบ 2 กลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ได้ออกมาโพสต์เตือน เนื่องจากมีคนไข้รายหนึ่งเป็นเนื้องอกบริเวณหน้าท้อง โดยระบุว่า…

วันนี้มีเรื่องราวของ ถุงน้ำรังไข่ ชนิดที่เรียกว่า Dermoid cyst มาเล่าให้ฟังครับ , ผู้ป่วยรายนี้เป็นสุภาพสตรีอายุ 38 ปี สุขภาพดีแข็งแรง ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เรื่องราวเริ่มมาจากมีหน้าท้องยื่นซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าตัวเองอ้วน จึงมีหน้าท้องยื่นออกมา (ผู้อ่านลองคลำหน้าท้องตัวเองดูไหมครับ?)

ภาพประกอบบทความ : ลักษณะหน้าท้องยื่นออกมา เสี่ยงเป็น ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์

ต่อมา..ได้ไปนวดแผนไทย พนักงานนวดทักว่ามีเนื้องอกหรือเปล่า เหมือนก้อนจะกลิ้งไปมาได้นะ! ผู้ป่วยจึงเข้าพบแพทย์ ได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยการทำ Ultrasound พบว่า มีถุงน้ำในท้องน้อย

แพทย์จึงส่งตรวจ เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม สรุปว่า… มีถุงน้ำรังไข่ ขนาด 16 ซม. ในท้องน้อย จากภาพทางรังสีจะเห็นว่า ถุงน้ำมีลักษณะผิวเรียบ เป็นวงรีคล้ายไข่ไก่ ภายในมีของเหลวแยกเป็น 2 ชั้นชัดเจน

ภาพเอ็กซเรย์ ถุงน้ำในรังไข่

เมื่อทำการผ่าตัดพบว่า…

ภายในถุงน้ำนี้ประกอบด้วย ไขมัน ผิวหนัง เส้นผม กระดูก ฟัน อยู่ภายในก้อนครับ น้ำหนักรวมประมาณ 1.2 กิโลกรัม ในผู้ป่วยรายนี้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Dermoid cyst เรียกอีกอย่างว่า “Mature cystic teratoma”

เดอร์มอยด์ซีสต์ (Dermoid Cyst) หรือ โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ โดยอยู่ที่บริเวณรังไข่ของผู้หญิงตั้งแต่แรกเกิด แล้วมีการพัฒนาหรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยบางอย่างให้เจริญไปเป็นเซลล์ไขมัน เส้นผม กระดูกอ่อน หรือฟัน จนเกิดเป็นถุงน้ำที่รังไข่เรียกว่า เดอร์มอยด์ ซีสต์

Dermoid cyst เดอมอยซีสอันตรายไหม ?

สำหรับโรค Dermoid cyst คุณหมอบอกว่า พบได้ในทุกช่วงอายุ

  • แต่พบบ่อยในวัยเจริญพันธุ์ อายุเฉลี่ยที่พบคือประมาณ 30 ปี
  • ส่วนใหญ่จะพบเป็นข้างเดียว
  • และจากสถิติทั่วไปพบเป็นสองข้างร้อยละ15, ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่อาจมาด้วยอาการปวดท้อง หรือก้อนในช่องท้อง

เนื้องอกชนิดนี้มีโอกาสเกิดการบิดขั้ว (torsion) ได้บ่อย เนื่องจากขั้วของ ถุงน้ำรังไข่ ชนิดนี้มักจะค่อนข้างยาว และถ้าเป็นที่รังไข่ข้างขวาจะมีโอกาสบิดมากกว่าข้างซ้าย อาจารย์แพทย์บางท่านเชื่อว่าถุงน้ำรังไข่ข้างซ้าย มีลำไส้ใหญ่ส่วนที่เรียกว่า sigmoid ขวางและป้องกันการบิดขั้ว

 

ทำไมต้อง ผ่าตัด dermoid cyst

เดอร์มอยด์ซีสต์ สามารถพบขนาดได้หลายขนาดตั้งแต่ 1-30 ซม. ผนังด้านในของถุงน้ำมักมีส่วนนูน ค่อนข้างแข็ง เรียกว่า Rokitansky protuberance , ภายในก้อนประกอบด้วยส่วนที่เป็นผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน เส้นผม เนื้อเยื่อประสาท สารไขมัน และฟัน เป็นต้น

ซึ่งส่วนใหญ่ถุงน้ำชนิดนี้จะมีความหนาจึงไม่ค่อยแตก ผิวเรียบตึง เคลื่อนไหวได้ บางทีก้อนอาจจะเคลื่อนที่มาอยู่หน้าต่อมดลูก เรียกว่า Kustner’s sign. , หากเกิดการแตกของถุงน้ำ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องมากจากภาวะ Peritonitis

การรักษาที่เหมาะสม คือ การผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งการผ่าตัดผ่านกล้อง และการผ่าตัดวิธีมาตรฐาน ผู้ป่วยสามารถขอคำแนะนำได้จากสูตินรีแพทย์ผู้ดูแล

สูตินรีแพทย์ มักจะทำการผ่าตัดเลาะถุงน้ำออกจากรังไข่ที่ปกติ (cystectomy) เพื่อเก็บเนื้อรังไข่ที่ดีเอาไว้ ในขณะผ่าตัดแพทย์ทุกท่านมักจะระวังไม่ให้ถุงน้ำเกิดการรั่วหรือแตก และจะตรวจดูรังไข่ด้านตรงข้ามว่ามีความผิดปกติหรือไม่

ภาพคุณหมออรัณ ไตรตานนท์ หลัง ผ่าตัด dermoid cyst

ถุงน้ำรังไข่ หรือ เดอร์มอยด์ซีสต์ กลายเป็นมะเร็งได้หรือไม่?

ผู้ป่วยที่เป็น Dermoid cyst แทบทุกคนกังวลว่าจะมีโอกาสเป็นมะเร็งหรือไม่ ซึ่งจากสถิติที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยทั่วไปพบว่า Dermoid cyst พบการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็ง (malignant transformation) ร้อยละ1 เท่านั้นนะครับ และมักจะเป็นชนิดที่เรียกว่า squamous cell carcinoma arising in Dermoid cyst

 

ทั้งนี้คุณหมอยังบอกอีกว่า : โดยความเห็นส่วนตัว จะแนะนำให้สุขภาพสตรีตรวจสุขภาพ รวมถึงพบสูตินรีแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อตรวจภายใน หากพบความผิดปกติ แพทย์มักจะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมต่อไป เพื่อนำไปสู่การวางแผนดูแลรักษาที่เหมาะสมต่อไป

 

ขอบพระคุณที่ติดตาม เพจ : อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน
เนื้อหาบางส่วนดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อ : เนื้องอกทางนรีเวชในเด็กและวัยรุ่น โดยอาจารย์จิตติหาญประเสริฐพงษ์

ขอบคุณเรื่องราวและภาพจาก Facebook : อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน

แต่อย่างไรก็ดี ถุงน้ำรังไข่เดอร์มอยด์ ไม่สามารถป้องกันการเกิดได้ และเมื่อเป็นแล้วไม่ควรออกกำลังกายหักโหมมาก เนื่องจากอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การบิดขั้วของถุงน้ำรังไข่ แต่ภายหลังการรักษาด้วยการผ่าตัดแล้ว การดูแลตนเอง คือ ปฏิบัติตามแพทย์พยาบาลแนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปคือการดูแลตนเองตามปกติก็ไม่มีข้อจำกัดเป็นกรณีเฉพาะ

ทั้งนี้หากพบ ถุงน้ำรังไข่เดอร์มอยด์ ก่อนตั้งครรภ์ ควรผ่าตัดรักษาก่อน แต่หากตั้งครรภ์ไปแล้วจึงทราบว่ามีถุงน้ำรังไข่ เดอร์มอยด์แพทย์จะให้ตั้งครรภ์ต่อไปและจะพิจารณาผ่าตัดเลาะถุงน้ำตอนอายุครรภ์ประมาณ 14 – 16 สัปดาห์ ซึ่งจะไม่มีผลต่อการพัฒนาการทางด้านสมองหรือด้านร่างกายของทารก แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น มีการบิดขั้วหรือแตกของถุงน้ำแล้วมีอาการปวดท้องเฉียบพลัน แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดรักษาด่วน

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 


ขอบคุณข้อมูลจาก : healthunlocked.com , getyourimage.clubhaamor.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids