AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ เสี่ยงมะเร็ง-ทำร้ายสมองหรือไม่?

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่าน จะต้องเคยมีพฤติกรรมที่ชอบวางโทรศัพท์มือถือไว้บ้างศีรษะขณะนอนหลับอย่างแน่นอน ซึ่งก็มีคำถามว่า อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ จะทำให้เสี่ยงมะเร็ง รวมถึงทำร้ายสมองของเราจริงหรือไม่? วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำตอบค่ะ

 

อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ

อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ เสี่ยงมะเร็ง และทำร้ายสมองหรือไม่?

พฤติกรรมการวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างศรีษะขณะนอนหลับ เป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยมากๆค่ะในปัจจุบัน เพราะคนส่วนใหญ่มักจะชอบเล่นมือถือก่อนนอน หรืออาจจะด้วยเหตุผลว่ากังวลว่าจะมีธุระด่วน หรือบางครั้งก็ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือข้างตัวเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเกิดพฤติกรรมแบบนี้มากขึ้น ก็ทำให้มีคำถามว่าจะได้รับ อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ จนเกิดภาวะเสี่ยงต่อมะเร็งสมอง หรือทำร้ายสมอง หรือภาวะอัลไซเมอร์หรือไม่? คำตอบคือ…

สัญญาณโทรศัพท์มือถือ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงคลื่นไมโครเวฟ โดยองค์การอนามัยโลก กำหนดให้มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งเพียงในระดับ 2B เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า สัญญาณดังกล่าว อาจจะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่อยู่ในระดับของความเป็นไปได้ที่ต่ำมาก ไม่ได้อยู่ในระดับ 2A ที่น่าจะก่อให้เกิดมะเร็ง

โดยนักวิจัยจากหลายประเทศทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลนี้ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีงานวิจัยจากประเทศอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า คลื่นไมโครเวฟจากโทรศัพท์มือถือก็มีผลต่อสมอง ในแง่ที่ทำให้สมองมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำถามแบบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ได้รวดเร็วขึ้น แต่ไม่มีผลต่อการทำงานของสมองในแง่อื่น ๆ และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอันตรายต่อสมอง

อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานการวิจัยจากต่างประเทศบางส่วน ระบุว่า โทรศัพท์มือถือก็มีส่วนทำให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ก็ยังเป็นการวิจัยที่มีข้อบกพร่อง และยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า สัญญาณมือถือสามารถก่อมะเร็งได้จริง

 

อันตรายของ สัญญาณโทรศัพท์มือถือ

แม้ว่าสัญญาณมือถืออาจจะไม่อันตรายจากที่กล่าวมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สัญญาณมือถือจะไม่เป็นอันตรายเลยนะคะแม่ๆ เพราะตัวสัญญาณอยู่ในกลุ่มไอโอไนท์ คือ กลุ่มความร้อน ดังนั้น เมื่อใช้โทรศัพท์มือถือแนบหูนานๆ ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบสมองให้เปลี่ยนพฤติกรรมได้ เช่น เครียด หงุดหงิด ซึมเศร้า หรือคลื่นไส้ ดังนั้น จึงไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดจนอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต เพียงเสี้ยววินาทีได้

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ความจริงแล้วนั้น แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ น่าจะเป็นสิ่งที่กังวลมากกว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือเสียอีก เนื่องจากแบตเตอรี่บางชนิดนั้นถูกผลิตมาอย่างไม่ได้มาตรฐาน เมื่อใช้ไปนานๆ หรืออยู่ในระหว่างชาร์จไฟด้วย ก็ยิ่งอาจจะทำให้เกิดอาการบวม ชำรุดเสียหาย ไหม้ หรือระเบิดขึ้นได้ ทเป็นอันตรายมากๆค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  mgronline

 

แพทย์เตือน การเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน ส่งผลต่อสุขภาพ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

แพทย์เตือน การเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน ส่งผลต่อสุขภาพ

แม้ว่าการวางมือถือไว้ขางศีรษะจะไม่ได้รับ อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ จนเสี่ยงมะเร็ง และทำร้ายสมองมาก แต่การเล่นมือถือก่อนนอนนั้นย่อไม่ส่งผลดีต่อร่างกายแน่นอนค่ะ

 

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “การเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน กลายเป็นกิจกรรมที่หลายคนชอบทำ ทั้งนี้ หน้าจอโทรศัพท์มีแสงสีฟ้า หรือ blue light ที่ส่งผลกระทบในการผลิสารเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นสารที่ควบคุมการหลับและการตื่น ดังนั้นการเล่นโทรศัพท์ก่อนนอนมากกว่า 2 ชั่วโมง จะส่งผลให้เกิดการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทได้ เนื่องจากการได้รับแสงสีฟ้าในเวลากลางคืนจะทำให้สมองคิดว่าตอนนี้เป็นเวลากลางวัน ทำให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสายตาอีกด้วย”

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า “สิ่งที่อาจตามมาหลังจากนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ คือ ร่างกายอ่อนล้าในตอนกลางวัน ระบบความจำมีปัญหา ทำให้เรียนหรือทำงานขาดประสิทธิภาพ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอันเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่นด้วย เช่น การวูบหลับในขณะใช้รถใช้ถนน หรือใช้เครื่องจักร นอกจากนี้ยังทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานไม่เต็มที่ อาจเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเกิดภาวะอ้วนตามมา รวมถึงเสี่ยงในการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อช่วยในการนอนหลับอีกด้วย”

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณะสุข

 

วิธีป้องกันอันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

วิธีป้องกัน อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ

 

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ

แพทย์เตือน! ดื่มนมถั่วเหลือง เสี่ยงมะเร็ง ได้

วัคซีนผู้ใหญ่ ใครว่าไม่สำคัญ พ่อแม่ควรฉีดถ้าอยากอยู่กับลูกไปนานๆ

จิตแพทย์เด็กแนะ พ่อแม่ควรทำอย่างไรถ้า ลูกขโมยเงิน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids