AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

9 วัคซีนสำหรับผู้หญิง ที่จำเป็นต้องฉีด!

วัคซีนในผู้หญิง

วัคซีนสำหรับผู้หญิง มีแฟนๆ ของทีมแม่ABK หลังไมค์มาถามกันบ่อยเลยค่ะว่า วัคซีน HPV หรือวัคซีนไวรัสตับอักเสบ และ วัคซีนอื่นๆ  จำเป็นต้องฉีดไหม?   หากไม่ฉีดวัคซีนจะมีผลเสียหรือไม่  อย่างไร?  ทีมแม่ABK จึงหาคำตอบมาไขข้อข้องใจแม่ๆ กันค่ะ ว่าจริงๆ แล้ววัคซีนสำหรับผู้หญิง มีทั้งหมดกี่วัคซีน  และมีวัคซีนอะไรบ้างที่จำเป็นต้องฉีด

 

วัคซีนสำหรับผู้หญิง เกราะป้องกันสุขภาพดี

การออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ และการฉีด วัคซีนสำหรับผู้หญิง ปัจจัยเหล่านี้คือตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้  ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นได้ค่ะ ซึ่งการมีภูมิคุ้มกันแข็งแรง จะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงต่างๆ หรือโรคภัยที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ไม่สบายในเปอร์เซ็นต์ที่น้อย หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้

วัคซีนสำหรับผู้หญิงที่อยากแนะนำให้ได้ฉีดกันนั้น ทีมแม่ABK ก็เพิ่งไปรับการฉีดมาหลังจากตรวจสุขภาพประจำปี อย่าง วัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  และก็ได้สอบถามจากคุณหมอว่าควรต้องฉีดวัคซีนอะไรอีกบ้าง เพราะในเร็วๆ นี้กำลังเตรียมแพลนว่าจะมีน้อง  ก็อยากจะฉีดวัคซีนที่ร่างกายไม่มีภูมิกับวัคซีนชนิดนั้นๆ ไปแล้ว ให้ร่างกายกลับมามี ภูมิอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ไม่สบาย ที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อน-ระหว่าง-หลัง ตั้งครรภ์ ค่ะ

เรามาดูกันว่ามีวัคซีนอะไรบ้างที่ผู้หญิงควรฉีดเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายมีความแข็งแรงกันค่ะ

1. วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV

วัคซีน HPV จัดเป็นวัคซีนจำเป็นที่ทางการแพทย์แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนได้รับการฉีดกันค่ะ สำหรับ HPV เป็นวัคซีนช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก การเริ่มต้นฉีดในผู้หญิงควรฉีด 2 เข็ม ในช่วงอายุ 9-14 ปีค่ะ แต่มีข้อควรรู้คือหากในช่วงอายุระหว่างนี้เกิดไปมีเพศสัมพันธ์ ก่อนฉีดวัคซีน HPV ต้องแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดก่อนนะคะ เพื่อตรวจดูก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ หากไม่มีก็สามารถฉีดวัคซีนได้ตามปกติค่ะ ส่วนผู้หญิงที่มาฉีดกันตอนที่อายุเกิน 14 ปีขึ้นไปแล้ว วัคซีน HPV จะฉีดทั้งหมด 3 เข็มตามที่แพทย์แนะนำค่ะ ถามว่าแล้วจะฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ขณะตั้งครรภ์ได้หรือเปล่า ตอบว่า “ไม่ได้” ฉะนั้นควรฉีดก่อนมีการตั้งครรภ์จะปลอดภัยกว่าค่ะ

2. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี

วัคซีนไวรัสตับอักเสบ จำได้ว่าเคยฉีดตอนเด็กๆ ค่ะ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการฉีดอีกเลย จนช่วงปีที่แล้วทีมแม่ABK ไปตรวจสุขภาพ และคุณหมอซักประวัติทำให้รู้ว่าหากอนาคตมีปัญหาเกี่ยวกับตับ อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับได้ จากที่เข้าใจมาตลอดว่าคนที่เป็นมะเร็งตับต้องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ ความจริงแล้วยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อตับได้ค่ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการอักเสบของตับที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส  สำหรับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี จะฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ดังนี้ค่ะ ฉีดเข็มที่ 1 หลังหนึ่งเดือนฉีดเข็มที่ 2 หลังห้าเดือนฉีดเข็มที่ 3

อ่านต่อ วัคซีนในผู้หญิง ฉีดเพิ่มภูมิคุ้มกันลดเสี่ยงโรคร้ายแรง คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

 

3. วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

เป็นวัคซีนที่แนะนำให้ฉีดทุกปี   ปีละ 1 เข็ม  เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ แนะนำสำหรับคนที่กำลังจะตั้งครรภ์ ควรพบคุณหมอเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่  เพราะคนท้องมีโอกาสป่วยไข้หวัดใหญ่ที่สูงมาก และถ้าป่วยขณะตั้งครรภ์ อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในท้องได้ค่ะ

4. วัคซีนป้องกันโรคคางทูมและหัดเยอรมัน

ตอนเด็กๆ ทุกจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันคางทูม และหัดเยอรมันกันทุกคนค่ะ  แต่ก็เชื่อว่ามีหลายๆ คนเมื่อโตมาแล้วเป็น 10  ปีไม่ได้มีการฉีดวัคซีนชนิดนี้กันอีก  ในคนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงเป็นทุนเดิม อาจไม่ป่วยกันค่ะ   แต่คนที่ร่างกายมี ภูมิคุ้มกันน้อย เป็นไปได้ว่าอาจป่วยเป็นคางทูม และหัดเยอรมันได้ค่ะ โดยส่วนมากแล้วการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูม และหัดเยอรมัน ทางคุณหมอจะแนะนำให้ฉีดก่อนมีการตั้งครรภ์ค่ะ โดยจะเช็กร่างกายอย่างละเอียดว่ามีภูมิคุ้มกันในร่างกาย อยู่หรือไม่ หากไม่มีส่วนใหญ่แนะนำให้ฉีดป้องกันค่ะ

5. วัคซีนป้องกันโรคสุกใส

โรคนี้เชื่อว่าในหลายๆ คนคงเคยเป็นกันมาบ้าง ขอบอกว่าทรมานสุดๆ ทีมแม่ABK เคยเป็นและคันมากๆ เวลาที่ตุ่มน้ำใส แตกออกมา แถมยังมีไข้อ่อนๆ ทำให้ไม่สบายตัวอย่างมาก และพออาการป่วยสุกใสดีขึ้นก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ กว่าจะหาย ผิวกลับมาสวยใสก็ใช้เวลาอยู่ พอสมควรค่ะ วัคซีนป้องกันโรคสุกใส โดยมากแพทย์จะแนะนำให้ฉีดก่อนมีการตั้งครรภ์ และหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 3 เดือน ถึงค่อยตั้งครรภ์ค่ะ

6. วัคซีนป้องกันโรคไอกรน คอตีบ และบาดทะยัก

ตามหลักทางการแพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนโรคไอกรน คอตีบ และบาดทะยัก กันทุกๆ 10 ปีค่ะ ใครที่ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว สามารถไปตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาล แล้วสามารถฉีดวัคซีนทั้ง 3 ชนิดนี้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันได้นะคะ

7. วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด

แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้วค่ะ ทีมแม่ABK เคยเห็นคนที่ป่วยเป็นงูสวัด ขอบอกว่าทรมาน และอันตรายมากหากรักษาไม่ทัน วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด เป็นวัคซีคสำหรับผู้หญิง ที่แนะนำให้ฉีดกันไว้บ้างก็ดีนะคะ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับกสรฉีดอย่างมากค่ะ

8. วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ

ใครที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดต่างๆ แนะนำให้ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบค่ะ ส่วนคนที่แข็งแรงดีอาจไม่มีความจำเป็นในการฉีดวัคซีน แต่หากอายุเข้าวัย 50 ปีขึ้น ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงในการป่วยโรคปอดอักเสบต่างๆ ค่ะ

9. วัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น

หากใครที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แนะนำว่าควรตรวจเช็กร่างกายว่ามีภูมิคุ้มกันโรคที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยกันด้วยนะคะ อย่างวัคซีนโรคไข้กาฬหลังแอ่น ก็เป็นหนึ่งในวัคซีคสำหรับผู้หญิง ที่ควรได้รับการฉีดป้องกันด้วยเช่นกันค่ะ

การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย  เพื่อลดอัตราเสี่ยงในการเจ็บป่วยต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพควบคู่ไปกับการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเรื่องที่ก่อให้เกิดความเครียด ฯลฯ เพราะปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้ หากดูแลไม่ดี ไม่สม่ำเสมอ ก็อาจทำให้ภูมิคุ้มกันลดน้อย บกพร่องไปได้ค่ะ และที่สำคัญมากๆ ผู้หญิงทุกคนควรตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วยนะคะ …ด้วยความห่วงใย

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ

ตรวจคัดกรองมะเร็ง ในผู้หญิงควรตรวจเมื่อไหร่?

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จำเป็นแค่ไหน

ไขข้อสงสัย? ทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกวัยรุ่นไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งจากไวรัส HPV

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 


เครดิต : โรงพยาบาลสมิติเวช  , โรงพยาบาลเปาโล