งานวิจัยเผย ทารก 80 รายในออสเตรเลีย พัฒนาการล่าช้า และสมองถูกทำลาย จากไวรัสตัวใหม่ ชื่อว่า พารีโชไวรัส (parechovirus)
งานวิจัยจาก สมาคมโรคติดเชื้อแห่งออสเตรเลีย ASID เปิดเผยว่า กว่าครึ่งของทารกที่ได้รับเชื้อ พารีโชไวรัส ในปี 2013 และ 2014 เริ่มแสดงอาการของปัญหาด้านพัฒนาการในอีกหนึ่งปีต่อมา
สำหรับการศึกษาในครั้งนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ และ โรงพยาบาลเด็กซิดนีย์และเวสต์มีด ได้ติดตามอาการของทารกในโรงพยาบาล 80 รายที่ได้รับเชื้อพารีโชไวรัสชนิด 3 ในปี 2013 และ 2014
พบทารกจำนวนมากมีอาการชัก หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย และกล้ามเนื้อกระตุก
หนึ่งปีต่อมา แพทย์พบว่าเด็กกว่าครึ่งมีปัญหาพัฒนาการด้านการพูด และการแก้ปัญหา
เกือบ 20% ของเด็กมีความผิดปกติทางระบบประสาท
ใครก็สามารถติดเชื้อ พารีโชไวรัส ได้ โดยเฉพาะเด็กทารกมีความเสี่ยงสูง
Professor Jones อธิบายถึงความรุนแรงของไวรัสตัวใหม่นี้ “ไวรัสนี้ไม่ใช่ไวรัสธรรมดาที่ทารกจะเอาชนะได้ง่ายๆ เด็กๆ เหล่านี้ต้องได้รับการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”
ASID ระบุว่า พารีโชไวรัสเป็นเชื้อไวรัสที่พบในยุโรปเมื่อกว่า 10 ปีก่อน และเพิ่งพบการระบาดครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย โดยมีจุดเริ่มต้นจากนครซิดนีย์เมื่อปลายปี 2013 ส่งผลให้มีทารกถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลกว่า 100 คนในระหว่างปี 2013-2014 และพบว่า 70% ของทารกเหล่านี้มีอาการติดเชื้อในระบบประสาท
ทั้งนี้ พารีโชไวรัสสามารถแพร่จากคนสู่คนโดยตรงผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ จากการไอจามเหมือนกับการแพร่เชื้อหวัดทั่วไป ASID ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาหรือวัคซีนสำหรับเชื้อไวรัสชนิดนี้ แต่งานวิจัยชิ้นนี้ช่วยให้แพทย์มีความเข้าใจมากขึ้นถึงผลกระทบระยะยาวจากการติดเชื้อในทารก ซึ่งผลการศึกษาที่ได้ ทำให้แพทย์ต้องเฝ้าระวังและคิดหาวิธีรับมือกับโรคนี้อย่างเหมาะสมต่อไป
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ >> อาการและวิธีป้องกันเชื้อพารีโชไวรัส คลิกหน้า 2
เว็บไซต์ Better Health ได้อธิบายไว้ว่า พารีโชไวรัสเป็นไวรัสที่ใกล้เคียงกับ เอนเทอโรไวรัส ซึ่งทำให้เกิดอาการ อาเจียน เป็นหวัด และโรคมือเท้าปาก
อาการเมื่อได้รับเชื้อพารีโชไวรัส (parechovirus)
หากผู้ใหญ่ได้รับเชื้อนี้มักไม่แสดงอาการ แต่หากทารกแรกเกิด และเด็กได้รับเชื้อพารีโชไวรัสจะแสดงอาการเหล่านี้อย่างรวดเร็ว ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์
อาการแทรกซ้อนของเชื้อไวรัสนี้มีผลต่อเยื่อบุสมองที่นำไปสู่การเกิดอาการชักและกล้ามเนื้อกระตุก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การป้องกันเชื้อพารีโชไวรัส
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา หรือวัคซีนป้องกัน ดังนั้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลจึงเป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้ดีที่สุด ดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หลังกินอาหาร เช็ดจมูก เปลี่ยนผ้าอ้อม และหลังเข้าห้องน้ำ เป็นต้น
- ล้าง/ทำความสะอาดเสื้อผ้า ของใช้ ของเล่นที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค
- ไม่ใช้ช้อน ส้อม หรือ แก้วน้ำ ร่วมกับผู้อื่น
- หากมีอาการไอ ไข้หวัด หรือเจ็บป่วยเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับเด็กเล็กๆ
- สำหรับผู้ที่ต้องดูแลเด็กเล็ก ควรล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก่อนสัมผัส หรือป้อนอาหารทารก
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก
EV71 โรคระบาดสายพันธุ์รุนแรง พร้อมวิธีป้องกัน
รู้ทัน ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ในเด็ก
ที่มา abc.net.au , บีบีซี ไทย , goaskmum.com.au