AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แม่ท้องน้ำหนักเยอะ เสี่ยง ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ลูกตายไม่รู้ตัว!

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด

ของขวัญที่แม่ท้องปรารถนาที่สุด คือการได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรกและรู้ว่าลูกแข็งแรงสมบูรณ์ แต่บางครั้งโชคชะตากลับเล่นตลกพรากลูกไปจากอกเสียดื้อๆ เหมือนกับคุณแม่ท่านนี้ต้องมาพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ ที่ทำให้เธอจนต้องเสียลูก ก่อนกำหนดคลอดเพียง 15 วัน เพราะปล่อยให้น้ำหนักเกินจนทำให้เกิด ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด แบบไม่รู้ตัว!!

แม่น้ำหนักเกิน จนเจอ ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด จนลูกเสียชีวิตในครรภ์

ทีมข่าวเฉพาะกิจของเว็บไซต์ www.thairath.co.th นำเสนอข่าวของคุณแม่วัย 28 ปีชาวเชียงใหม่ ที่พบกับโชคร้ายจากภาวะเสี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับแม่ท้องทุกคน เธอเล่าถึงการสูญเสียครั้งใหญนี้ว่าเธอมีลูกสาวมาแล้ว 1 คนอายุ 3 ขวบเศษ และเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง เธอและสามีดีใจมาก ดูแลครรภ์อย่างดี รีบไปฝากครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 8 สัปดาห์และพบแพทย์ตามนัดตลอดมา

สภาพร่างกายของคุณแม่ท่านนี้แข็งแรงสมบูรณ์ดี จนเมื่อเข้าสู่ช่วง 26 สัปดาห์ น้ำหนักตัวกลับพุ่งสูงขึ้นถึง 6 กิโลกรัมในเดือนเดียว และค่อยๆขึ้นเรื่อยมา แต่ผลการตรวจน้ำตาลและสุขภาพทั่วไปยังเป็นปกติ แต่น้ำหนักช่วง 33 สัปดาห์เพิ่มขึ้นมาถึง 26 กิโลกรัม แล้วเรื่องราวน่าเศร้าก็เกิดขึ้นตอนกลางดึกคืนหนึ่งขณะที่อายุครรภ์ได้ 35 สัปดาห์

รู้สึกเจ็บหน่วงตรงหัวหน่าวเป็นระยะ คล้ายๆ เหมือนอาการเจ็บระดู ไม่เจ็บถี่ ไม่เจ็บบ่อย เจ็บธรรมดาเหมือนทุกครั้งที่เจ็บ พอเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ออกไปกินข้าวก็ยังรู้สึกเจ็บหน่วงๆ แบบแข็งแค่คลาย ไม่เจ็บเหมือนจะคลอดก็เข้านอนแล้วรู้สึกมีอาการ เหมือนลูกโป่งแตกในท้อง ดัง ตุ๊บ แล้วก็มีลิ่มเลือดสีแดงสดเป็นก้อนๆ ไหลออกมา แล้วท้องเริ่มโตมากขึ้นๆ จนหายใจไม่ค่อยออก ตรงใต้ราวนมบวมออกมา เลือดไหลออกมาเยอะมากจนตัวซีด

เสี้ยววินาทีต้องเสียลูกไปเพราะ ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด

เธอไปถึงโรงพยาบาลภายใน 15 นาที ในใจก็คิดว่าหมอคงช่วยได้ทันเวลาและได้เห็นหน้าลูกแน่นอน แม้จะต้องคลอดก่อนกำหนดก็ยังดี แต่คำจากปากหมอทำเธอแทบช็อก คือ “หัวใจลูกไม่เต้นแล้ว จับหาชีพกรไม่เจอ และลูกเสียชีวิตในท้องเพราะขาดอากาศหายใจ” ส่วนความดันโลหิตของเธอเองสูงมาก บวกกับภาวะตกเลือด เลือดคั่งในมดลูก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเร่งด่วน เพื่อรักษาชีวิตแม่ไว้”

เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เกิดจากภาวะเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ซึ่ง พบได้น้อยมาก แต่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ เรียกว่า ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด  ตามธรรมชาติ รกที่ห่อหุ้มตัวทารกไว้ระหว่างอยู่ในครรภ์จะลอกตัวออกจากโพรงมดลูกเมื่อคลอดจากท้องแม่แล้ว หรือที่เราเรียกว่า “คลอดรก” สำหรับคนคลอดธรรมชาตินั่นเอง

หากรกเกิดลอกหลุดออกระหว่างที่ทารกยังอยู่ในครรภ์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยส่งผลให้ลูกในท้องและตัวแม่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตทั้งสิ้น เพราะรกเป็นช่องทางการติดต่อของแม่และทารกในครรภ์ เมื่อเกิด ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด  ทำให้ทารกขาดสารอาหารหรืออ๊อกซิเจนจนเสียชีวิต และทำให้มารดาเสียเลือดมากได้

รกลอกตัวก่อนกำหนด พบได้ 3 ลักษณะ คือ แบบเปิดเผย หมายถึง รกจะค่อยๆหลุดออกจากโพรงมดลูก ทำให้รู้สึกปวดท้องเตือน ท้องแข็งบ่อย มีมูกเลือดซึม หากมาพบแพทย์ทันที มีโอกาสที่ลูกจะรอดชีวิตสูง แต่ถ้ารกเกิดลอกตัวแบบไม่ปิดเผย จะไม่แสดงอาการผิดปกติแบบชัดเจน ไม่มีเลือดออก อาจรู้สึกเพียงแค่เจ็บหัวหน่าวเท่านั้น  ส่วนแบบสุดท้ายคือ การที่รกลอกตัวแบบผสมเป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด โดยจากการลอกไม่เปิดเผย เลือดที่ออกจะแทรกอยู่ระหว่างรกกับผนังมดลูก เมื่อเลือดออกมามากขึ้นจึงสามารถเซาะแทรกถุงน้ำคร่ำกับผนังมดลูกแล้วผ่านออกมาทางปากมดลูกได้

อ่านต่อ แม่ท้องแบบไหนเสี่ยงรกลอกตัวก่อนกำหนดมากที่สุด หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ผศ.ดร.พญ.ภัทรวลัย ตลึงจิตร ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา สาขาวิชาสูติศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล  อธิบายถึงภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดว่า

“ภาวะดังกล่าวมักเกิดขึ้นกับคุณแม่ท้องแก่ อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป มีอาการหลายรูปแบบ เช่น ปวดท้อง หรือ ปวดมดลูก เพราะมดลูกบีบตัวบ่อยทำให้ท้องแข็งเป็นพักๆ บางคนรู้สึกท้องแข็งเกร็ง และปวดตลอดเวลา แต่มีแม่ท้องมากถึงร้อยละ 40 อาจไม่แสดงอาการใดเลย แต่มาตรวจพบหลังคลอดลูก และคลอดรก”

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ที่เกิดกับคุณแม่แต่ละคนแตกต่างกัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับคร่าวๆ ไว้ให้คุณแม่คอยสังเกตตัวเองดังต่อไปนี้

*ระดับไม่แสดงอาการ : ไม่พบอาการปวดหรือเจ็บท้อง ไม่มีเลือดออก มักตรวจพบหลังคลอดแล้ว

*รกลอกตัวเล็กน้อย : ปวดท้องและมีเลือดเล็กน้อย รกยังทำงานได้ตามปกติ แม่ต้องนอนพักผ่อนมากๆและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

*รกลอกตัวปานกลาง:  รกลอกตัวไปแล้ว 1 ใน 4 มีเลือดออกมาประมาณ 0.5 – 1 ลิตร ปวดท้องรุนแรง กดเจ็บที่มดลูก ความดันไม่คงที่ หัวใจของลูกในครรภ์เต้นผิดปกติ คุณแม่ต้องได้รับการให้เลือด และอยู่ในภาวะใกล้คลอด พร้อมผ่าตัดคลอดได้ตลอดเวลา

*รกลอกตัวรุนแรง: รกลอกตัวออกมาแล้ว 2 ใน 3 หรือทั้งหมด เกิดได้ราว 20-25% เลือดออกมามากกว่า 2 ลิตร แม่จะปวดท้องมาก มดลูกรัดตัวตลอดเวลา เสียเลือดมากใกล้ช็อก ส่วนทารกมักเสียชีวิตในครรภ์

แม่ท้องอ้วนมาก ความดันสูง มีลูกแฝดเสี่ยงที่สุด

สาเหตุหลักของมาจากทั้งปัจจัยภายนอก เช่น การกระแทกหหน้าท้องรุนแรงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตกจากที่สูง และปัจจัยภายใน เช่น น้ำเดินเร็วผิดปกติ ความผิดปกติของร่างกายคุณแม่ แม่ท้องที่น้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็วระหว่างตั้งครรภ์จนเข้าสู่ “ภาวะอ้วน” ครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูง ภาวะเลือดออกง่าย มีลูกแฝด

 

 

ส่วนกรณีคุณแม่ท่านนี้พบว่ามีความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งเรื่องที่เดิมน้ำหนักตัวมาก และปล่อยให้น้ำหนักขึ้นเยอะเกินไป โดยปกติควรควบคุมน้ำหนักไว้ให้ไม่เกิน 13-15 กิโลกรัมตลอดการตั้งครรภ์ ลูกตัวโต น้ำคร่ำมาก แม่ท้องส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสังเกตและกลับเข้าใจว่าต้องบำรุงให้มากช่วงตั้งท้องเพื่อให้ลูกแข็งแรงสมบูรณ์

MUST READ : 5 วิธี ควบคุมน้ำหนักตอนท้อง อย่างไรให้เหมาะสม

MUST READ : น้ำหนักแม่ท้องควรขึ้นกี่กิโลกรัม

แต่ความจริงแล้วการบำรุงด้วยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันสูง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่แม่ท้องเสี่ยงจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ทั้งคลอดก่อนกำหนด หรือเลวร้ายถึงขนาดเสียชีวิตในครรภ์ได้ นอกจากนี้ยังมีภาวะอื่นๆที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้แม่ท้องเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดด้วย ได้แก่

  1. แม่เคยมี ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (ไม่ว่าระยะใด) มาก่อน
  2. สายสะดือเด็กสั้น
  3. การเจาะเลือดสายสะดือทารก (หัตถการของแพทย์)
  4. ความผิดปกติของรกตามธรรมชาติ
  5. แม่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  6. ขาดสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์

รกลอกก่อนกำหนดเป็นเรื่องฉุกเฉิน พบหมอด่วน รอไม่ได้

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดเป็นภาวะฉุกเฉินและอันตรายต่อทั้งแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์ แม่จำเป็นคอยสังเกตตัวเอง หมั่นนับดิ้นลูกอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการเจ็บท้อง ท้องแข็งตลอดเวลา ซึ่งต่างจากการเจ็บเตือนใกล้คลอด ที่จะปวดและคลายตัว ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่ามีภาวะรกลอกก่อนกำหนด ให้ไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

การรักษาของแพทย์จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงณ.เวลานั้น และอายุครรภ์เป็นสำคัญ หากอายุครรภ์ยังน้อยและรกลอกตัวไม่รุนแรง คุณแม่และลูกยังปลอดภัยดี ยังตั้งครรภ์ต่อได้ตามปกติแต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด แต่ถ้าอยู่ในขั้นรุนแรง อาจต้องตัดสินใจผ่าตัดคลอดเพื่อรักษาชีวิตของแม่และลูกไว้ ทางที่ดีที่สุด แม่ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารหลากหลายให้ครบทั้ง 5 หมู่และจำกัดปริมาณให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่าท้องแล้วจะกินเท่าไหร่ก็ได้ เพราะทุกอย่างที่แม่กินมีผลต่อพัฒนาการในครรภ์และชีวิตลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ จึงต้องระมัดระวังให้มาก

บทความน่าสนใจอื่นๆ

คุณแม่ท้อง ออกกำลังกาย ได้ไหม?

10 อาหารที่คนท้องควรกิน พร้อมเมนูอร่อยสำหรับแม่และลูก

“ท้อง” แล้วยังออกกำลังกายได้หรือไม่ ?


ขอบคุณข้อมูลจาก www.thairath.co.th และ www.medthai.com