โควิค-19 ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็น “โรคติดต่ออันตราย” แนะหยุดเดินทางประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือกลับมาจากประเทสดังกล่าวต้อง “แยกตัว 14 วัน” พบอาการ ไข้สูง ไอ จาม พบแพทย์ทันที ห้ามปกปิด เสี่ยงอันตรายครอบครัว เพิ่มผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
(เมื่อวันที่ 25 กพ 63) ประเทศไทยพบผู้ป่วยไวรัส โควิค-19 เพิ่มใหม่อีก 2 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 37 ราย และมีผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,580 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ประกาศขยายเฝ้าระวังครอบคลุมผู้เดินทางมาจาก 7 พื้นที่เสี่ยง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชน “เลี่ยง เลื่อน การเดินทาง” ไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค
หากเลี่ยงไม่ได้ขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่มีคนหนาแน่น สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ สำหรับทุกคน ทุกวัย ที่เดินทางกลับจากจากประเทศเสี่ยงให้แยกตัวเองออกจากสมาชิกในครอบครัว สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ หากมีไข้ ไอ จาม ให้พบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม เพจดัง Drama-Addict ได้เผยแพร่ประกาศชี้แจงจากโรงพยาบาลบี. แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ โดยมีข้อความโดยสรุปว่า หลังมีผู้ป่วยชายตรวจพบว่าเป็นปอดอักเสบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จากการซักประวัติกลับ “ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง” ซึ่งกลับมายอมรับภายหลังว่า “เดินทางไปจริง” สุดท้ายก็ตรวจพบว่าผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไวรัส โควิค-19 จึงส่งตัวไปรับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐเรียบร้อยแล้ว
จากการปกปิดและปฏิเสธประวัติการเดินทาง ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ใกล้ชิดผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อจำนวน 30 คน โดยทั้งหมดได้ทำตามขั้นตอนของทางสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรคติดต่อต่อไป
ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้รับบริการทุกท่าน แจ้งประวัติที่เป็นจริง เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง การวินิจฉัย และแยกโรคตามมาตรฐาน ดังนี้
- หากท่านมีประวัติการเดินทางไปจต่างประเทศในกลุ่มเส่ยงตามประกาศของกรมควบคุมโรค หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มดังกล่าว ร่วมกับมีอาการไข้ ไอ จาม อ่อนเพลียให้ แจ้งที่จุดคัดกรองของโรงพยาบาล ซึ่งได้จัดให้มีทุกประตูเข้าออกของโรงพยาบาล
- โรงพยาบาลจะนำท่านไปยังห้องตรวจแยกโรค แรงดันลบ (Negative Pressure) ทันที และติดต่อประสาน สปคม. เพื่อพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง หรือไม่
- หากเข้าเกณฑ์ ท่านจะได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และพักรักษาตัวในห้องความดันลบของโรงพยาบาล เพื่อรอผลตรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- หากผลตรวจพบเชื้อ ทาง สปคม. จะดำเนินการรับตัวท่านไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภาครัฐต่อไป
“การปดปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเอง”
ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนโรคไปยังครอบครัว ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยในวงกว้างเพื่อกักกันโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดและเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 อยู่ในขณะนี้ โดยพบว่ามีสมาชิกในบ้านติดเชื้อรวม 4 ราย
อ่าน รู้ทันอย่างมีสติ ป้องกันลูกน้อยและครอบครัวจากโควิค-19 หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ปัจจุบันเชื้อไวรัส โควิค-19 จากจุดต้นกำเนิดที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนได้แพร่ระบาดไปในหลายประเทศทั่วโลก โดยมียอดติดเชื้อ “โควิด-19” ทั่วโลก (เมื่อวันที่ 26 กพ. 63) ทะลุ 80,000 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 2,700 ราย ขณะเชื้อไวรัสมรณะลามหนักในยุโรปและภูมิภาคตะวันออกกลาง อิตาลี พบผู้ป่วยเพิ่มเป็น 322 ราย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 ราย ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้เชื้อไวรัสชนิดนี้เป็นการแพร่ระบาดขนาดใหญ่ พร้อมเตือนให้ทุกประเทศเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยการระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศเกาหลีใต้ อิตาลีและอิหร่าน ได้จุดชนวนให้เกิดความวิตกกังวลอย่างมากว่าจะเกิดการระบาดในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองและครอบครัวจากเชื้อไวรัส โควิค-19 ด้วย 8 วิธีดังต่อไปนี้
- กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือฃ
- ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำกับสบู่ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
- เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก
- สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้า เมื่ออยู่ในสถานที่คนพลุกพล่าน
- หากมีอาการไอ จาม ควรใส่ “หน้ากากอนามัย “เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนหน้ากาก N95 เหมาะกับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วย
4. หากกลับจากประเทศเสี่ยงภายใน 14 วัน ให้แยกตัวเองไม่ใกล้ชิดกับผู้อื่น (แม้แต่คนในครอบครัว) หากเป็นไข้ เจ็บคอ น้ำมูก เสมหะ หายใจเร็ว หอบ ให้สวมหน้ากากอนามัยทันที ล้างมือให้สะอาด แล้วรีบไปแพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางอย่างละเอียดตามข้อมูลจริง
5. ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวทุกโรคให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศเสี่ยง หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย การไปในตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรือใกล้ชิดกับสัตว์ป่วยหรือตาย
6. ช่วงอากาศแปรปรวน ขอให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารมีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
ทั้งนี้ เนื่องจากการติดเชื้อ โควิค -19 มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัยของลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวเป็นพิเศษ ที่สำคัญที่สุด หากครอบครัวเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แม้จะไม่แสดงอาการป่วย แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยไม่ปิดบังข้อเท็จจริง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนและป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
แหล่งข้อมูล เพจ drama addict กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
สพฐ.สั่งโรงเรียนเฝ้าระวัง ไวรัสโคโรน่าระบาด เจอแล้วปิดทันที
วิธีทำแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ฆ่าเชื้อโรค ไว้ใช้เองที่บ้าน
5 เทคนิคสอนลูกใส่ หน้ากากอนามัย ป้องกันโรค ป้องกันฝุ่น ให้ได้ผล
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่