หน้า 7 หลัง 7 วิธีนี้จะช่วยคุมกำเนิดให้ไม่ท้องได้จริงหรือเปล่านะ!? ในปัจจุบันนี้มีอยู่หลายวิธีค่ะ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่คุณแม่และผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกทำกันคือคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติแบบนับหน้า 7 หลัง 7 อยากรู้ไหมคะว่าทำอย่างไรเพื่อให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้มีประสิทธิผลมากที่สุด ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีคำแนะนำมาฝากค่ะ
หน้า 7 หลัง 7 การคุมกำเนิด ด้วยวิธีธรรมชาติที่ต้องเข้าใจช่วงการ “ตกไข่”
ยังไม่อยากท้อง แต่ก็ไม่พร้อมกินยา หรือฉีดยาคุม แบบนี้ต้องนับระยะปลอดภัย หน้า 7 หลัง 7 ช่วยแล้วละค่ะ มีแม่ๆ ที่ยังไม่อยากท้องสอง และคุณผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่อยากท้องตอนนี้ เรียกร้องขอมาค่ะว่า พอจะมีวิธีคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติไหม เห็นมีคนแนะนำให้ใช้การนับหน้า 7 หลัง 7 คืออะไร งงซะเหลือเกิน เอาเป็นว่าเราจะไปคลี่คลายให้หายงงไปพร้อมกันค่ะ เพราะจริงๆ แล้วการนับหน้า 7 หลัง 7 ก็เป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ แต่จะได้ผลดีหรือไม่นั้น อยู่ที่ตัวคุณแม่ คุณสาวๆ เป็นสำคัญค่ะ
บทความแนะนำ คลิก>> รู้จักนับวันตกไข่ แก้ไขมีลูกยาก
Good to know… การนับรอบเดือน จะนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนจนถึงวันแรกของการมีประจำเดือนรอบถัดไป ในผู้หญิงที่มีรอบระดูสม่ำเสมอจึงสามารถคำนวณวันตกไข่ได้ โดยจดวันแรกที่มีประจำเดือน แล้วนับย้อนหลังไปอีก 14 วัน นั่นคือวันที่ไข่ตกในรอบเดือนนั้น หรือง่ายๆก็คือ เกิดการตกไข่ 14 วันก่อนที่จะมีประจำเดือน เช่น รอบเดือน 28 วัน จะตกไข่วันที่ 14 ของรอบเดือน, รอบเดือน 30 วัน จะตกไข่วันที่ 16 ของรอบเดือน คนที่มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอมักจะมีปัญหาเรื่องการตกไข่[1]
อ่านต่อ นับหน้า 7 หลัง 7 ช่วยคุมกำเนิดได้ หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
หน้า 7 หลัง 7 นับระยะปลอดภัยช่วยคุมกำเนิดได้นะ!
จะนับได้ไหม นับได้ไหมเอ่ย… การนับระยะปลอดภัยหน้า 7 หลัง 7 อาจจะงงหน่อยๆ สำหรับมือใหม่หัดนับ เพราะถ้านับพลาดไม่ถูกต้องนี่ท้องเลยนะคุณ!!
หลักชัยของการนับหน้า 7 หลัง 7 ที่จะปลอดภัยต่อการไม่ตั้งท้อง สิ่งหนึ่งสำคัญมากๆ คือ คุณแม่ และสาวๆ จะต้องมีรอบเดือนตรงกันทุกเดือน ใครที่ยังไม่พร้อมท้องในช่วงนี้ และต้องการเซฟตัวเองแล้วเลือกวิธีนับระยะปลอดภัยแบบ “หน้า 7 หลัง 7” แนะนำว่าให้จดการมีประจำเดือนของตัวเองอย่างน้อย 6 เดือน ว่าประจำเดือนมาวันที่เท่าไหร่ของเดือน ตัวอย่าง ของเพื่อนผู้เขียน คุณเอ คือ เธอตั้งใจท้องกลางปีหน้า(2561) บวกกับไม่อยากกินยาคุม หรือฉีดยาคุม จึงขอลองวิธีธรรมชาตินี้ด้วยตัวเอง คุณเอ เป็นคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมออยู่แล้วเป็นทุนเดิม แต่บางเดือนที่งานยุ่งมากๆ ก็ลืมวันที่ประจำเดือนมาค่ะ เธอจึงเริ่มต้นจดการมีประจำเดือนมาตั้งกะช่วงเดือนกรกฎาคม(2560) หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงเพิ่งมาเริ่มจดแล้วก่อนหน้านี้ละ? คืองี้ค่ะ คุณเอเธอเพิ่งแต่งงานไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายน พอวางแผนจะท้องปีหน้าเลยเริ่มจดวันที่ประจำเดือนมาวันแรกของทุกเดือน เท่าที่ทราบมาคือ เธอจะมีประจำเดือนทุกวันที่ 1 และก็จะมาตรงกันอย่างนี้ทุกเดือน แบบนี้ยิ่งง่ายต่อการนับหน้า 7 หลัง 7 ที่จะเป็นระยะปลอดภัยของคุณเอค่ะ
รอบเดือนที่นับกันมาตั้งกะเดือนกรกฎาคม 1 (31 วัน), สิงหาคม 1 (31 วัน), กันยายน 1 (30 วัน), ตุลาคม 1 (31), พฤศิกายน 1 (30 วัน)
บทความแนะนำ คลิก>> วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด) ได้ผลดีจริงหรือเปล่า?
การนับรอบประจำเดือนในแต่ละครั้งคือ ให้นับตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือนของเดือนนั้นๆ ต่อเนื่องไปจนถึงรอบใหม่ของ การมีประเดือนในเดือนใหม่ ตามตัวอย่างของคุณเอ เธอจะมีรอบเดือนที่สั้นอยู่ที่ 30 วัน และรอบเดือนยาวอยู่ที่ 31 วัน ที่นี่ เราจะมาคำนวณเพื่อให้ทราบช่วงวันอันตรายต่อการตั้งท้อง
โดยสูตรการคำนวณ คือ
รอบเดือนสั้นลบ 18 (30-18= 12)
รอบเดือนยาวลบ 11 (31-11=20)
สำหรับช่วงวันเสี่ยงต่อการท้องของคุณเอ คือ ช่วงวันที่ 12-20 ของเดือน ถ้ามีอะไรกันระหว่างนี้แล้วไม่ได้ป้องกันมีโอกาส ท้องนะจ๊ะ สูตรนี้เป็นสูตรเดียวกับคนที่อยากท้องค่ะ ถ้าอยากท้องด้วยวิธีธรรมชาติจะใช้หน้า 7 หลัง 7 ก็ได้นะคะ
“หน้า 7 หลัง 7 คือช่วงที่ปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์ หากมีเพศสัมพันธ์ในระยะเวลา 7 วัน ก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไป และ หลังมีประจำเดือน (นับวันที่เป็นประจำเดือนวันแรกเป็นวันที่ 1 ) ก็สามารถมีอะไรกันได้อย่างปลอดภัย”[2]
ถึงแม้ว่าการนับระยะหน้า 7 หลัง 7 จะเป็นหนึ่งวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อการไม่ตั้งท้อง แต่ตามหลักทางการแพทย์ก็ยัง ไม่ได้ให้เชื่อ 100% ว่าถ้าคุณแม่ หรือสาวๆ ใช้วิธีนี้แล้วจะไม่ท้อง เพราะโอกาสพลาดก็มีได้บ้างเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ ไปดูกันต่อว่าถ้ายืนยันว่าจะใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ให้ได้ผลและปลอดภัยต่อการไม่ตั้งท้อง เราจะเสริมทัพการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ให้ได้ประสิทธิผลเต็มร้อย กันอย่างไรบ้าง…
อ่านต่อ เสริมทัพให้หน้า 7 หลัง 7 ให้นับระยะได้ปลอดภัยมากขึ้น หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
จะเสริมทัพนับระยะหน้า 7 หลัง 7 อย่างไรให้ได้ประสิทธิผลในการคุมกำเนิดมากยิ่งขึ้น?
คุณหมอสูติฯ เคยให้คำแนะนำไว้ว่าถ้ายังไม่พร้อมมีบุตร ต้องป้องกันตัวเองให้ดี โดยเฉพาะผู้หญิง คือ ให้ทานยาคุม หรือฉีดยาคุมกำเนิด คุณหมอบอกว่าวิธีนี้ปลอดภัยมากหน่อย แต่ถ้าจะป้องกันด้วยวิธีธรรมชาติ ถ้าจะทำเพียวๆ ไม่มีกำลังเสริม อาจเสี่ยงท้องได้ง่ายมากๆ ค่ะ
ดังนั้นสำหรับคุณแม่ หรือผู้หญิงที่ตอนนี้กำลังวางแผนว่าจะนับระยะปลอดภัยของตัวเอง ด้วย หน้า 7 หลัง 7 ถ้าคำนวณได้ช่วงวันของตัวเองกันแล้ว ก่อนจะมีอะไรกับสามี ขอเพิ่มกำลังเสริมเหล่านี้เข้าไปอีกนิดค่ะ
- ถ้าเป็นไปได้ควรให้สามีสวมถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้งในช่วงหน้า 7 หลัง 7
- ให้จดนับวันที่มีประจำเดือนของทุกๆ เดือน บางคนประจำเดือนมาวันแรกอาจตรงกันกับวันที่ 1 หรือบางคนอาจมาตรงกับวันที่ 10 ของเดือน คือแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสูตรข้างบนที่ให้ไว้ใช้ได้ค่ะ แต่แค่เปลี่ยนวันที่ เช่น ถ้ามาทุกวันที่ 10 ของเดือน ก็ให้นับ 10 เป็นวันแรก จนไปจรดกับ 10 ของอีกเดือนถัดไป ตัวอย่าง 10 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม (31 วัน)
- ในกรณีที่ไม่ใส่ถุงยางอนามัย คุณแม่ต้องกำชับสามีว่าให้ หลั่งข้างนอกเท่านั้น!!
- ถ้าประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาให้ค่อยตรงวันที่กันในทุกเดือน ไม่แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยการนับหน้า 7 หลัง 7 กันนะคะ เพราะคุณเสี่ยงท้องที่สูงมากๆ เลยค่ะ
- ถ้านับระยะปลอดภัยแล้วเกิดงงๆ ว่าใช่หรือถูกต้องหรือเปล่ากับช่วงวันที่ได้มา อันนี้แนะนำว่าให้หยุดการมีเพศสัมพันธ์กันไปเลยในหนึ่งเดือนนั้น เดือนหน้าเริ่มต้นว่ากันใหม่ค่ะ อันนี้เตือนไว้ในกรณีที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยค่ะ
ความไม่พร้อมในการมีลูกไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ จะรอให้พร้อมทั้งสุขภาพ เงินทอง ความมั่นคงในหน้าที่การงาน ฯลฯ แล้วค่อยวางแผนมีลูกก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่ตอนนี้คุณต้องป้องกันตัวเองด้วยการคุมกำเนิดจะวิธีใดก็ตาม ขอให้ทำอย่างตั้งใจ ถูกต้อง และมีสติ ในกรณีที่จะใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ให้เข้าใจมากกว่านี้ แนะนำว่าควรปรึกษากับคุณหมอด้านสูตินรีแพทย์อีกครั้งก็จะช่วยให้คุณแม่ และผู้หญิงทุกคนเข้าใจมากยิ่งขึ้นค่ะ …ด้วยความห่วงใยและใส่ใจ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
คุมกำเนิดหลังคลอด เมื่อไหร่? อย่างไรดี!
การคุมกำเนิดแบบใหม่สำหรับผู้ชาย มีสวิตช์ปิด-เปิดได้ตามใจ!
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
1ธีวรา พงษ์นิมิตร นักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการเด็กหลอดแก้ว. นับวันไข่ตกนับอย่างไรกันแน่.www.vibhavadi.com
2พ.ญ.พิณนภางค์ ศรีพหล. หน้า 7 หลัง 7 ระยะปลอดภัยชัวร์???. www.prachachat.net
รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ สูตินรีแพทย์.การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ.haamor.com