แชร์ประสบการณ์จริง แม่เป็นมะเร็งโพรงจมูก หลังคลอดลูกได้ 2 เดือน คือเรื่องราวของคุณแม่เมลินี คุณแม่คนเก่งหัวใจ แกร่ง ที่เธออยากจะมาส่งต่อกำลังใจถึงแม่ทุกคนผ่านเรื่องราวการต่อสู้ทางสุขภาพ เพื่อให้ได้อยู่ต่อกับลูกสาวตัวน้อยคนที่เป็นแรงใจคนสำคัญของเธอ ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะพาไปพบกับเรื่องราวของคุณแม่เมลินีกันค่ะ
แชร์ประสบการณ์จริง แม่เป็นมะเร็งโพรงจมูก หลังคลอดลูกได้ 2 เดือน
ก่อนอื่นทางทีมงานต้องขอขอบคุณเรื่องราว แชร์ประสบการณ์จริง แม่เป็นมะเร็งโพรงจมูก จากคุณแม่เมลินี ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นประโยชน์กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่อาจกำลังป่วยอยู่ขณะตั้งครรภ์ หรือขณะที่มีลูกเล็กๆ กันค่ะ จะได้เป็นกำลังใจ และแรงพลังในการต่อสู้กับอาการป่วยให้ดีขึ้น และหายดีกันค่ะ
ตอนที่คุณแม่รู้ตัวว่าป่วย เกิดขึ้นตอนไหน?
ตอนแม่ท้องได้ประมาณ 8 เดือน แม่รู้สึกเหมือนเป็นหวัดมีน้ำมูกตลอดเวลา และตอนหลังมีเลือดออกจมูก และมีคนทักว่าจมูกบวม แม่จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหมอเฉพาะทางจมูกมาดูเเลให้ และบอกว่าเราเป็นภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ และริดสีดวงจมูก
หลังจากทราบอาการแล้ว ก็ได้รับการรักษามาเป็นเวลา 1 เดือน เเม่ก็เลยตัดสินใจขอให้คุณหมอผ่าคลอดน้องอมานี่ออกมา เพราะเกรงว่าการกินยาเยอะจะมีผลกับลูก แต่โชคดีที่น้องอมานี่แข็งแรงมากค่ะ
บทความแนะนำ คลิก >> ล้างจมูกลูกอย่างไรให้ปลอดภัย ถูกต้องแต่ละช่วงวัย
แม่รักษาตัวต่อไปจนลูกอายุได้ 2 เดือนกว่า ก็เริ่มมีอาการมากขึ้น คือ ปวดบริเวณตา จมูกและหน้าฝั่งขวามาก และเริ่มมีเลือดออกจมูกบ่อยขึ้น คุณหมอจึงทำการเอกซเรย์ฟิล์มแต่ไม่พบอะไร หลังจากนั้นแม่มีอาการปวดมากขึ้นๆ คุณหมอจึงตัดชิ้นเนื้อ ไปตรวจ และให้เข้าทำ CT Scan และนัดฟังผล
คือผลที่ออกมาแม่ตกใจมาก เพราะคุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็งก้อนใหญ่มาก ลามเข้าประสาทตา และสมองแล้ว (แม่ช็อคมากเพราะที่รักษามา 4 เดือนก่อนหน้านี้ หมอวินิจฉัยผิดมาตลอด ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับเรา)
อ่านต่อ การเริ่มต้นการรักษามะเร็งที่โพรงจมูก คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
พอทราบว่าเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก เริ่มต้นการรักษายังไง
คือพอผลการวินิจฉัยออกมาแล้ว โรงพยาบาลที่รักษาอยู่ก็ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แม่ก็เข้าพบแพทย์เฉพาะทางครั้งแรก คุณหมอบอกว่า อาจต้องฉายแสง และอาจสูญเสียตา 1 ข้าง หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ก็ได้เข้าพบหมออีกครั้งแต่คำตอบที่ได้จากหมอคือ ที่นี่รักษาไม่ได้ เนื่องจากต้องผ่าตัดควบคู่กับหมอสมอง ก่อนการทำคีโมและฉายแสงได้ ซึ่งที่ไม่มีหมอสมอง แม่ก็ถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลเก่าอีกครั้ง จำได้ว่าในช่วงแรกที่รู้ผลว่าเป็นมะเร็ง ผ่านไปเกือบเดือนก็ยังไม่ได้เริ่ม รักษา
นั่นคือในช่วงแรกนะคะ เพราะตอนนี้แม่ได้รับการรักษาแล้วค่ะ หลังจากที่ต้องรอส่งตัวไปส่งตัวมากว่าจะเริ่มการรักษาก็อีก 2 เดือน แม่ได้ทำคีโม 2 รอบ อาการก็ดีขึ้น พอเลี้ยงลูกไหวบ้างแล้วค่ะ ยิ่งได้ใกล้ชิดกับลูก แม่ก็จะยิ่งเข้มเเข็ง เราบอกกับ ตัวเองเลยว่า แม่คนนี้จะต่อสู้กับโรคร้ายและการรักษาที่ทรมาน เพื่อจะได้อยู่กับลูกให้ได้นานที่สุด
คือถ้าให้พูดกันจริงๆ นะคะ สำหรับเรา ในความโชคร้ายของแม่คนนี้ ยังมีความโชคดีที่ได้ลูกคนนี้มาเป็นกำลังใจ หากแม่ไม่มีลูกคนนี้อาจจะต้องอ่อนแอไปอีกนาน และแม่ถือว่าแม่โชคดีมากคะที่พึ่งมารู้ว่าเป็นมะเร็งตอนที่คลอดลูกแล้ว ถ้ารู้ตอนท้อง ก็ไม่รู้ว่าเรา 2 คนแม่ลูกจะได้เจอกันหรือไม่ แม่เจ็บป่วยไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ลูกน้อยของแม่แข็งแรงก็พอแล้ว
บทความแนะนำ คลิก >> อุทาหรณ์! ลูกเอาของยัดจมูก จนจมูกเกือบเน่า
ช่วงที่ไม่สบายให้น้องทานนมแม่ยังไง
หลังจากที่แม่คลอดน้อง ก็ให้น้องทานนมแม่ได้ประมาณ 2 เดือนเศษ แต่พอทราบว่าอาการป่วยที่เป็นอยู่นั้นคือเป็นมะเร็ง แม่จึงหยุดให้นมน้อง แต่ก็คิดว่าจะให้นมที่สต็อกไว้ให้น้องทาน แต่เกรงว่าจะมีผลกับน้อง จึงไม่กล้าให้น้องทานต่อค่ะ และ ก็เปลี่ยนมาให้น้องทานนมชงต่อ ซึ่งแม่ก็เลือกนมที่เป็นสูตรพิเศษให้กับน้อง เป็นสูตร HA สำหรับป้องกันภูมิแพ้ เนื่องจาก พ่อและแม่ เป็นภูมิแพ้ทั้งคู่ กลัวว่าน้องจะเป็นภูมิแพ้ต่อทางกรรมพันธุ์ค่ะ
นมสูตร HA น้องทานเป็นสูตรที่ค่อนข้างขมมาก ทำให้น้องทานนมได้ไม่ดีมากนัก และแม่สงสารน้องที่ต้องทานนมขม จึงเปลี่ยนสูตรนมให้น้องเป็นสูตรธรรมดา ซึ่งพึ่งจะเปลี่ยนสูตรให้น้องตอนน้องได้ 5 เดือนกว่า
อ่านต่อ การดูแลอาหารขณะป่วยมะเร็ง คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ดูแลเรื่องอาหารการกินระหว่างนี้ยังไงบ้าง
สำหรับวิธีดูแลเรื่องอาหาร แรกๆ แม่ไม่ค่อยกล้าทานอะไรเลยค่ะ ระวังไปหมดทุกอย่างจนน้ำหนักแม่ลงไป 5 กิโล แต่ ปัจจุบันนี้ตั้งแต่เริ่มได้คีโม และได้ปรึกษาเรื่องการกินกับคุณหมอ แม่เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น จากปกติแม่เป็น คนไม่ทานผัก ตอนนี้ก็เริ่มทานผักค่ะ และอาหารที่ทานทุกอย่างต้องสุกสะอาดเท่านั้นค่ะ เเละหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสาร แปลกปลอมต่างๆ ค่ะ เช่น สารกันบูด สารเคมีเร่งการเติบโตของผักผลไม้ เป็นต้นค่ะ ซึ่งเรื่องอาหารส่วนใหญ่ สามีและพ่อแม่จะช่วยดูแลเรื่องอาหารให้ด้วยคะ
แต่ที่สำคัญหว่างให้คีโมร่างกายแม่จะค่อนข้างแย่ค่ะ เนื่องจากคีโมจะไปทำร้ายทั้งเซลล์ดีและไม่ดีในร่างกาย ซึ่งจะมีผลต่อ เม็ดเลือดในร่างกาย ดังนั้นแม่ต้องเน้นอาหารพวกโปรตีนมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะโปรตีนจากไข่ขาว และปลา เพื่อให้ร่างกาย ผลิตเม็ดเลือดขาวมาใหม่ให้มากที่สุด และเพื่อที่จะมีแรงในการรักษาและให้ยาเคมีบำบัดในรอบถัดไปได้ตามปกติค่ะ
ทีมงานขออัพเดทอาการป่วยและการรักษาของคุณแม่เมลินีล่าสุด คือตอนนี้คุณแม่ได้ทำคีโม 2 รอบแล้ว มีอาการปวด น้อยลง จากช่วงแรกที่ทรมานและต้องฉีดมอร์ฟีน กินมอฟีนมาตลอด ซึ่งการรักษาตอนนี้ทำให้ไม่ต้องใช้ยามอร์ฟีน ส่วนตา ที่ปูด และก้อนต่อมน้ำเหลืองก็ยุบลงแล้ว แต่มีอาการท่อน้ำตาอุดตัน และถุงใต้ตาอักเสบเพิ่มเข้ามาแทน เนื่องจาก ก้อนมะเร็งไปเบียดที่ท่อน้ำตา จึงทำให้อุดตัน ซึ่งคุณแม่ต้องรอหายจากมะเร็งก่อนจึงจะรักษาท่อน้ำตาต่อได้
ผู้เขียนและทีมงานทุกคนขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่เมลินี ยอดคุณแม่นักสู้คนเก่งคนนี้สามารถรักษาอาการป่วยมะเร็งที่เป็นอยู่ได้อย่างหายขาดในเร็ววัน และขอให้น้องอมานี่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง มีคุณแม่คนเก่งคอยอยู่เคียงข้างกันไปค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ได้นมแม่จึงรอดปลอดภัย
แม่แชร์ประสบการณ์หลังคลอด ไม่ได้อยู่ไฟ แต่พุงยุบไว น้ำนมไหลมาเทมา หุ่นสวยเป๊ะดั่งเดิมได้!
แชร์ประสบการณ์จากแม่ คลอดลูกก่อนกำหนด เพราะสายรกพันกัน
ขอขอบคุณภาพ และข้อมูลจาก คุณแม่เมลินี และน้องอมานี่