AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกป่วย โรคคาวาซากิ

โรคคาวาซากิ น่ากลัวกว่าที่คิด! ลูกไข้สูงห้ามชะล่าใจเด็ดขาด หาหมอช้าอาจต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!

 

 

เพราะไม่อยากให้ทุกคนชะล่าใจเหมือนกับตัวเอง คุณแม่บีม จึงอยากแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ที่ต้องป่วยเป็น “โรคคาวาซากิ” ถึงขั้นต้องเข้าห้อง ICU โดยคุณแม่เล่าถึงเหตุการณ์อย่างละเอียดว่า

 

วันที่ 29 กันยายน 60 แม่พาน้องไปฉีดวัคซีน 4 เดือนที่คลินิคใกล้บ้านมาค่ะ (ฉีดวัคซีนรวม 5 โรค) เป็นวัคซีนแบบไม่มีไข้ แต่คืนนั้นน้องตัวรุม ๆ นิดหน่อย แม่เลยเช็ดตัวไป

วันที่ 30 กันยายน 60 น้องมีไข้นิดหน่อย ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงมาจากวัคซีน ให้เทมปร้าดรอปไป 0.7 ไข้ก็ลง คาดว่าพรุ่งนี้ก็คงหาย

วันที่ 1 ตุลาคม 60 น้องตัวร้อนมาก 38-39 องศา แม่ให้ยาไปไข้ก็ลด พอครบเวลาไข้ก็มา ยิ่งช่วงกลางคืนจะยิ่งร้อน และงอแงมาก

วันที่ 2 ตุลาคม 60 ส่งพี่ไปโรงเรียน แล้วแม่เลยรีบพาน้องไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและคิดว่า น่าจะดีและเร็วที่สุดแล้วในย่านนี้ เพราะมีไข้หลายวัน อยากตรวจแลปให้เร็วที่สุด

อ่านต่อเรื่องราวของคุณแม่ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

 

ผลแลปออกมาแล้ว ปรากฏหมอเจอว่า มีติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ขอส่งฉี่ไปเพาะเชื้ออีก3วัน อยากรู้ว่าเป็นเชื้อตัวไหน ดื้อยาหรือไม่ หมอแนะนำให้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือ (ทั้งนี้หมอบอกว่าจะไม่นอนก็ได้ แต่ต้องมาฉีดยาทุกวันจนครบโดส) ผลเจาะเลือดไปตรวจนั้นยังไม่เจออะไร

เวลา 22.00 น. จากรูปจะเห็นได้ว่าน้องเริ่มมีริมฝีปากแดง ตาบวม(แม่คิดว่าบวมเพราะร้องไห้เยอะ)

วันที่ 3 ตุลาคม 60 ไข้ไม่ลงเลย 38.3 – 39.7 องศาตลอดทั้งที่ให้ ”บูเฟ่น” และ ”พารา” พอหมดฤทธิ์ยา กินยาอ้วกตลอด มีเสมหะเยอะ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก และยังคงให้ยาฆ่าเชื้อแบบฉีด

 

วันที่ 4 ตุลาคม 60 ไข้สูงเหมือนเดิม หมอขอตรวจเลือดอีกรอบ พร้อมเอกเรย์ปอด คราวนี้ส่งแลปหลายตัว ขอตรวจฉี่อีกรอบว่า ยาฆ่าเชื้อได้ผลมั้ย เม็ดเลือดขาวลดลงหรือยัง และขอconsult หมอหัวใจ เพราะอาการเหมือน”โรคคาวาซากิ”

เวลา 18.00 หมอโรคหัวใจ มาดูอาการ ฟันธงว่า”ใช่” และขอทำเอคโค่ สั่งให้ยา IVIG ทันที ผลเอคโค่ ปกติ (ถือเป็นข่าวดี) แต่ยา IVIG ที่นี่ ขวดละ18,000 ต้องให้ 3 ขวด ตามน้ำหนักตัว =54,000 แม่ตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องโทรหาป๊า ป๊าบอกให้ไปเลย แม่ร้องไห้หนักมาก ถ้าเราไม่มีเงิน ลูกคงไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที!! Zยานี้เบิก30บาทได้ก็จริง แต่กว่าจะได้ยา อีกกี่ชั่วโมงก็ไม่รู้ ระบบโรงพยาบาลรัฐค่อนข้างช้า) ที่นี่หมอสั่งตอน 2 ทุ่ม หลังทำเอคโค่ น้องได้ยาตอน21.30) หมอย้ายน้องเข้าห้อง ICU เพื่อสังเกตุอาการหลังให้ IVIG

อ่านต่อ >> โรคคาวาซากิ ประสบการณ์โรครุนแรงในเด็กเล็ก

วันที่ 5 ตุลาคม 60 ผลเลือดออกมา ติดเชื้อไมโครพลาสม่า ผลเอกเรย์ ปอดอักเสบ ติดเชื้อลงปอด ผลเพาะเชื้อออกมา เป็นเชื้อดื้อยา ต้องให้ merophenem ต่ออีก 10 วัน หลังได้ IVIG น้องดูดีขึ้นมาก ไม่มีไข้ ปากหายแดง มือหายแดง แต่ยังต้องรอดูหลัง 48-36 ชั่วโมงว่ามีไข้ขึ้นอีกมั้ย ถ้ามีไข้ คือ คาวาซากิดื้อยา ต้องให้ IVIG ซ้ำอีกรอบ

 

วันที่ 6 ตุลาคม 60 อาการน้องดีขึ้นมาก หมอให้ออกจาก ICU ได้แล้ว ยังคงมีเสมหะแค่อย่างเดียว ตอน 10 โมงเช้า โรงพยาบาลจุฬา รับน้องเข้ารักษาต่อแล้ว เนื่องจากโรงพยาบาลที่อยู่ตอนนี้ราคาแพงมาก วันนี้ คือ วันที่แม่เหนื่อยที่สุด ขับรถไปหลายที่มาก แต่ก็โล่งที่สุดเหมือนกัน ไม่ต้องกังวลกับอาการของลูกและค่าใช้จ่ายอีกต่อไปแล้ว เคลียร์ค่ารักษาที่โรงพยาบาลสำหรับ 4 วันแรกนั้น ยอดเต็ม 126,000 กว่าบาท

วันที่ 8 ตุลาคม 60 วันนี้น้องอาการดีขึ้นมาก กลับมากินได้ เล่นได้แล้ว ถอดสายน้ำเกลือไปตอน 9 โมง เสมหะน้อยลง จนไม่ต้องดูดออกแล้ว รอแค่ยาฆ่าเชื้อครบ ก็น่าจะได้กลับบ้านแล้วค่ะ

อ่านต่อเรื่องราวของคุณแม่ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

 

 

สุดท้ายนี้คุณแม่บีมอยากฝากถึงคุณแม่ทุก ๆ ท่านว่า

 

สำหรับอาการของน้องปัจจุบันนี้นั้น น้องกลับมารักษาตัวที่บ้านต่อ แต่ยังคงต้องกินยาฆ่าเชื้อกับแอสไพริน ต่อเนื่อง หมอนัดเอคโค่หัวใจอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

โรคคาวาซากิ เป็นกลุ่มอาการของโรคที่ประกอบด้วย ไข้สูง มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเยื่อบุผิว และต่อมน้ำเหลืองที่คอโต เป็นโรคที่พบในเด็ก พบมากในเด็กเอเชีย และหากผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดแดงหัวใจมีการโป่งพองของหลอดเลือด เป็นภาวะที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อ่านต่อสาเหตุของโรคได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>


เครดิต: คุณแม่บีม

 

 

สาเหตุและอาการของ โรคคาวาซากิ

โรคคาวาซากิเป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจน แต่ทำให้มีการอักเสบของเส้นเลือดขนาดกลางทั่วร่างกาย ซึ่งมีผลต่ออวัยวะในร่างกายหลายระบบ เกณฑ์การวินิจฉัยโรคคาวาซากิ ประกอบด้วย ไข้สูงมากกว่า 5 วัน ร่วมกับมีอาการต่าง ๆ 4 ใน 5 ข้อ ดังนี้

  1. เยื่อบุตาอักเสบ 2 ข้าง
  2. มีอาการของลิ้นและริมฝีปาก ได้แก่ ลิ้นเป็นสตรอเบอร์รี่ ริมฝีปากบวมแดง แห้งแตก
  3. มีอาการของแขนและขา ได้แก่ แขนขาบวมแดง ผิวแห้งปลายเท้าลอก
  4. มีผื่นตามตัว อาจเป็นผื่นแดงคล้ายลมพิษหรือปื้นแดงตามตัว
  5. ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต โดยเฉพาะเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1.5 เซนติเมตร

คุณพ่อคุณแม่คะ หากลูกมีไข้สูง อย่าชะล่าใจและคิดว่าไม่เป็นอะไรมากเด็ดขาดนะคะ เพราะสมัยนี้โรคต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย บางชนิดก็แทบไม่มียารักษาเลย ดังนั้น การหาหมอให้ไวที่สุดคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ

อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids