พบกับงานวิจัยจากต่างประเทศที่เผยว่า การมีเพศสัมพันธ์ช่วยลดอาการ ปวดหัวไมเกรน ได้ดีกว่ายา!
ทรมานเสียเหลือเกินกับอาการปวดหัวแบบไมเกรนที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็น เรียกได้ว่าหากอยากหายก็ต้องทานยา และถ้าทานยามากเกินไป ผลกระทบต่อร่างกายก็กลับเพิ่มพูน แล้วถ้าไม่อยากปวดหัว สิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือการทานยา แต่ถ้าไม่ทานล่ะ จะมีวิธีไหนสามารถช่วยเราได้อีกไหม? วันนี้เรามีงานวิจัยจากต่างประเทศมาฝากกันด้วยนะคะ
แต่ก่อนที่เราจะไปดูผลงานวิจัยนั้น ทำไมเราไม่ลองมาทำความรู้จักกับ “โรคไมเกรน” กันก่อนละคะ … บางท่านอาจจะรู้แต่ชื่อว่า “ไมเกรน” แต่อาจจะไม่รู้ว่า ลักษณะของโรคและอาการนั้นแตกต่างอย่างไรกับอาการปวดหัวแบบธรรมดา และในวันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลนี้มาฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ทราบกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ “โรคไมเกรน” คลิก!
ปวดหัวไมเกรน นั้นไม่ใช่เพิ่งมี แต่มีมานานแล้วตั้งแต่ยุคประวัติศาสตร์
คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า โรคไมเกรนที่ว่านี้มีมานานตั้งแต่สมัยอียิปต์แล้วละค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโรคที่อยู่คู่กับอารยธรรมของมนุษย์เรามาโดยตลอด ได้มีการค้นพบม้วนตำราทางการแพทย์ของอียิปต์สมัย 1,200 ปีก่อนคริสต์ศตวรรษบนกระดาษปาปิรัส บันทึกโดย อะรีทรีอัส แห่งแคปพาโดเซีย แพทย์ชาวกรีกที่ได้อธิบายถึงอาการปวดหัวข้างเดียว วิงเวียนและอาเจียน โดยผู้คนในยุคนั้นเชื่อว่าเป็นพลังเหนือธรรมชาติ ถูกผีร้ายสิงสู่และต่างก็พากันแก้ปัญหาด้วยหมอผี จนมาถึงปลายศตวรรษที่ 19 จึงสรุปได้ว่า อาการดังกล่าวนั้นคือ อาการไมเกรน นั่นเอง
โรคเมเกรน หรือ Migraine นั้นเป็นโรคฮอตโรคฮิตเป็นอย่างมากของหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียดสูง โดยปกติแล้วเราจะพบว่าโรคนี้มักเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า และเริ่มปรากฎอาการ ปวดหัวไมเกรน เป็นครั้งแรกตอนช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน
อาการของโรค
จริง ๆ แล้วอาการ ปวดหัวไมเกรน ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันค่ะ และแต่ละอาการที่ออกมานั้นก็มีหลากหลายความหมายด้วยเช่นเดียวกัน หากคุณโชคดี คุณก็อาจจะแค่รับมือกับอาการปวดหัวข้างเดียว 3-4 ครั้งต่อปีและก็บรรเทาได้เองด้วยยาแก้ปวด แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นเช่นนั้น และมักจะกำเริบ 1-2 ครั้งในแต่ละเดือนและมีแนวโน้มว่าจะถี่ขึ้นเป็นหลายครั้งในหนึ่งสัปดาห์ หรือร้ายสุดก็คือมีอาการปวดหัวทุกวัน ซึ่งอาการปวดหัวไมเกรนนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
- ไมเกรนที่ไม่มีอาการเตือน (Migraine without aura) พบมากที่สุดในกลุ่มที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน
- ไมเกรนที่มีอาการเตือน (Migraine with aura) เป็นอาการที่พบบ่อยได้แก่ การมองเห็นผิดปกติ เห็นแสงเป็นเส้นซิกแซกคล้ายฟันเลื่อย ภาพที่เห็นอาจจะไม่มีสี หรือเห็นภาพมืดดำไปบางส่วนราวกับมีม่านหมอกมาบดบัง โฟกัสภาพเบลอ หลับตาแล้วยังเห็นได้อยู่ อ่อนไหวต่อสิ่งเร้าเกือบทุกประเภท ยกตัวอย่างเช่น แสง สี เสียง กลิ่น และบางรายอาจลามไปถึงมือชา ปากชา พูดไม่ได้ชั่วคราวเลยก็มี
ปวดหัวธรรมดากับปวดหัวไมเกรนต่างกันอย่างไร
เครดิต: The Matter
หลาย ๆ ท่านอาจแยกไม่ออกระหว่างอาการปวดหัวไมเกรน กับปวดหัวธรรมดาใช่ไหมคะ เรียกได้ว่าปวดแบบไหนก็ทรมานทั้งนั้น โดยเราสามารถแยกแยะอาการดังกล่าวออกได้ดังนี้
- อาการปวดหัวไมเกรนนั้น ปวดศีรษะชนิดหนึ่งมักปวดข้างเดียวแถวๆ ขมับ หรืออาจจะปวดบริเวณเบ้าตา อาจเริ่มปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดทั้งสองข้าง แต่ละครั้งที่ปวดอาจจะสลับซ้ายขวา หรือย้ายตำแหน่งได้ แต่บางครั้งก็อาจจะปวดทั้งสองข้างพร้อมกัน ลักษณะการปวดเป็นแบบตุ๊บ ๆ เป็นระยะ เกิดขึ้นรวดเร็วและส่วนมากจะปวดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก อาจจะปวดศีรษะมากจนทำงานไม่ได้ บางคนปวดจนน้ำตาไหล อาการปวดส่วนใหญ่นาน 4 – 72 ชั่วโมง อาจเกิดขึ้นกลางดึกจนนอนไม่ได้ หรือปวดตั้งแต่ตื่นนอน บางคนอาจปวดตั้งแต่เข้านอนจนกระทั่งตื่นนอนก็ได้ อาการปวดศีรษะจะรุนแรงมากขึ้นอีก เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย และในขณะที่มีอาการปวดมักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
- อาการปวดศีรษะธรรมดา จะปวดทั่วทั้งศีรษะ ส่วนใหญ่เป็นอาการปวดตื้อ ๆ ไม่รุนแรงและมักจะไม่มีอาการอื่น เช่น คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย และจะหายได้เองเมื่อได้นอนหลับสนิทไปพักใหญ่ แต่ถ้ามีอาการปวดศีรษะพร้อมมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีไข้อาเจียน คอแข็ง หรือมีอาการชัก อาการแขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง หรือปวดศีรษะรุนแรงทันทีแล้วหมดสติ เหล่านี้เป็นอาการปวดศีรษะจากสาเหตุอื่นไม่ใช่ไมเกรน ต้องรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
ไมเกรน รักษาได้หรือไม่ คลิก!
เครดิต: Bangkok Hospital Pattaya
ปวดหัวไมเกรน รักษาได้หรือไม่?
ปัจจุบันการรักษาโรคไมเกรนทำได้แค่เพียงการใช้ยารักษาและป้องกันเท่านั้น แต่หากผู้ป่วยทราบถึงปัจจัยที่จะเป็นตัวกระตุ้นอาการของตนให้กำเริบได้นั้น ก็สามารถช่วยป้องกันอาการดังกล่าวได้ดี หากทั้งนี้ การหันมาออกกำลังกาย เล่นโยคะ นั่งสมาธิ รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารก็มีส่วนในการป้องกันการเกิดโรคได้ดีเช่นกัน
ทั้งนี้ ก็ได้มีงานวิจัยที่ถูกคิดค้นขึ้นโดย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมุนส์เตอร์ ในเยอรมนี และถูกเผยแพร่ผ่านวารสาร Cephalalgia ของสมาคมโรคปวดหัวระหว่างประเทศ โดยการสุ่มเอากลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไข้โรคไมเกรนจำนวนทั้งสิ้น 800 คน และผู้ที่ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ คือ ปวดรุนแรงข้างเดียว ปวดที่กระบอกตา รอบ ๆ ตา อีก 200 คน พบว่า
“การทำกิจกรรมทางเพศจะมีสารซึ่งเป็นยาแก้ปวดที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติในระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ และเมื่อถามถึงอาการหลังการมีเพศสัมพันธ์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่บอกว่า อาการทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด มีผู้ป่วยชายถึง 36 เปอร์เซนต์ เลือกที่จะใช้ “เซ็กส์” เป็นวิธีบำบัดอาการปวดหัวของตัวเอง และกว่า 19 เปอร์เซนต์ บอกว่าหายปวดหัวโดยสิ้นเชิงหลังมีเพศสัมพันธ์”
โดยนักวิจัยได้กล่าวสรุปว่า คนไข้ไมเกรน 42.7% มีอาการลดระดับความรุนแรงลงครึ่งหนึ่ง นับเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการได้ดีกว่าใช้ยาแก้ปวดเลยทีเดียว
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่ชอบมีอาการปวดดังกล่าว อยากรู้ว่าจะได้ผลหรือไม่นั้น งานนี้คงต้องลองดูกันแล้วละค่ะ สามารถช่วยได้จริงหรือไม่นั้น อย่าลืมบอกต่อกันด้วยนะคะ
เครดิต:MThai
อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่