อุทาหรณ์ เยลลี่ติดคอลูกสาวจนตาเหลือก คุณพ่อนักร้องชื่อดังจากรายการ the mask singer เอ๊ะ จิรากร ได้เขียนเล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ลูกสาวน้องเอญ่า ทานขนมเยลลี่แล้วเกิดติดคอจนตัวแข็ง ตาเหลือก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเรื่องราวอุทาหรณ์ครั้งนี้ พร้อมวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้อง เมื่อเกิดมีอาหารติดคอ หรือเกิดการสำลัก มาให้ฝากค่ะ
อุทาหรณ์ เยลลี่ติดคอลูกสาวจนตาเหลือก
อุทาหรณ์ เยลลี่ติดคอลูกสาวจนตาเหลือก ! …ในทุกๆ วัน เชื่อว่าพ่อแม่ที่มีลูกต่างก็เฝ้าระวังป้องกันภัย อันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้ แต่ในบางครั้งเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็อาจเกิดขึ้นได้กับลูกเสมอ อย่างกับครอบครัวคุณพ่อนักร้องชื่อดัง เอ๊ะ จิรากร ที่ได้แชร์ประสบการณ์เล่าถึงวินาทีวิกฤตที่เกิดขึ้นกับลูกสาวน้องเอญ่า ที่ทานขนมเยลลี่ยี่ห้อหนึ่งแล้วเกิดพลาดติดคอ จนเกือบจะเกิดเหตุเศร้า หากทุกคนในครอบครัวช่วยเหลือไว้ไม่ทัน
ซึ่งคุณพ่อหน้ากากอีกาดำ ได้เขียนเล่าเหตุการณ์ไว้เพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์ไว้ให้กับอีกหลายครอบครัวที่มีลูกไว้ดีมาก ตามนี้ค่ะ…
“ประสบการณ์ครั้งนี้ผมจะจำไม่วันลืม…
ลูกกินเยลลี่ ยี่ห้อนึงแล้วเกิดติดคอ ย้ำว่าติดคอจริงๆๆ ตาเหลือกแล้ว ทุกคนตกใจกันมาก ตัวผมเองก็สติหลุด ได้แต่ตะโกนเรียกชื่อลูก”เอญ่าๆๆๆ” ผม ภรรยา พี่ท้อฟฟี่ จูล กรูกันเข้ามาช่วย ภรรยาให้ผมจับขาลูกยกขึ้นให้ห้อยหัวลง และช่วยกันตบที่หลังให้เยลลี่หลุดออกมาจากคอ แต่มันไม่หลุด
ลูกผมตัวแข็ง ตาเหลือก พี่เลี้ยงก้มลงไปที่ปาก เอานิ้วทิ่มเข้าไปจนลึก แล้วเอญ่าก้ไอ ละร้องว่าออกแล้วๆ ผมกอดลูกจนแน่น ถึงตอนนี้ก็ยังตกใจอยู่ คิดว่าถ้าช่วยลูกไม่ได้ ละลูกเป็นอะไรไป จะทำยังไง เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าเราต้องมีสติให้มาก ไม่ว่าในสถานการณ์นั้นตัวเราจะตกอยู่ในความวิกฤตแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณนะครับพี่ท้อฟ จูล ที่ช่วยชีวิตเอญ่าในครั้งนี้ ขอบคุณพี่เลี้ยง ขอบคุณภรรยาที่ตกใจกว่าผมแต่ยังตั้งสติได้ และขอบคุณเรื่องราวดีดีในโลกออนไลน์ที่ได้แชร์วิธีการช่วยชีวิตเด็กในเหตุการณ์แบบนี้ไว้ให้พ่อแม่อย่างเราๆๆได้ศึกษา ขอบคุณครับ”
บทความแนะนำ วิธีช่วยชีวิตลูก สิ่งแปลกปลอมติดคอ สำลักอาหาร (มีคลิป)
อ่านจากที่คุณพ่อเอ๊ะ จิรากร เขียนเล่าให้ฟังแล้ว น่าจะเป็นการเตือนให้คุณพ่อคุณแม่ได้ตระหนักถึงอันตรายจากการทานอาหาร ขนมของเด็กๆ เพราะถ้าขาดสติ และไม่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วก็อาจทำให้ลูกขาดอากาศหายใจ และอาจเสี่ยงเสียชีวิตได้มากค่ะ
อ่านต่อ วิธีช่วยลูกอาหารติดคอ ลำสัก ไม่หมดสติ คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีปฐมพยาบาล ช่วยลูกอาหารติดคอ สำลัก เมื่อไม่หมดสติ
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นซนที่เด็กเล็กๆ ชอบหยิบเอาเหรียญ คว้าเอาเม็ดถั่วเล็กๆ อย่างถั่วลิสง เมล็ดอัลมอนด์ ฯลฯ หรือขณะกำลังทานข้าว ก็อาจทำให้เศษอาหาร หรือสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่ลูกเอาเข้าปากหลุดเข้าไปติดคอ อุดหลอดอาหารจนหายใจไม่ออก และถ้าช่วยไม่ทันอาจขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้
ดังนั้นจะดีที่สุดถ้าพ่อแม่รู้จักวิธัดูแลปฐมพยาบาลลูกเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด อย่างการสำลักอาหารเข้าไปติดคอ และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับเด็กๆ ให้มากที่สุด ผู้เขียนมีวิธีช่วยเหลือลูกให้ปลอดภัยหากเกิดอาหารติดคอ สำลัก ขณะที่ลูกยังมีสติอยู่มาให้ทราบกันค่ะ
บทความแนะนำ ลูกไม่ยอมเคี้ยว กลืนจนอาหารติดคอ จะแก้ไขอย่างไร?
หากลูกยังรู้สึกตัวดี ให้ทำการช่วยเหลือดังนี้
- คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่ให้การช่วยเหลือ จะต้องมายืนข้างหลังเด็ก แล้วใช้แขน 2 ข้างโอบรอบเอวผู้ป่วย
- คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่ให้การช่วยเหลือ ให้กำหมัดข้างหนึ่งวางบริเวณเหนือสะดือผู้ป่วยเล็กน้อยใต้ต่อกระดูกอ่อน (ตรงลิ้นปี่)
- คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่ให้การช่วยเหลือ ให้ใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้แล้วทำการอัดเข้าท้องแรงๆ เร็วๆ ขึ้นไปข้างบน (ลักษณะท่าทางจะเหมือนกับกำลังพยายามยกเด็กป่วยขึ้น)
- ให้คุณพ่อคุณแม่หรือคนที่ให้การช่วยเหลืออัดหมัดเข้าท้องซ้ำๆ กัน หลายๆ ครั้ง จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา[1]
หากให้การช่วยเหลือตามคำแนะนำเบื้องต้นแล้วเศษอาหาร ขนม หรือสิ่งแปลกปลอมยังไม่หลุดออก และลูกหมดสติ ให้รีบพาส่งโรงพยาบาลทันที หรือขณะให้การช่วยเหลือควรโทรเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินไว้พร้อมกันเลยยิ่งดีค่ะ เพราะจะผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การช่วยเหลือชีวิตลูกอย่างครบค่ะ
อ่านต่อ วิธีช่วยลูกอาหารติดคอ สำลัก เมื่อหมดสติ คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีปฐมพยาบาล ช่วยลูกอาหารติดคอ สำลัก เมื่อหมดสติ
หากลูกยังรู้สึกตัวดี ให้ทำการช่วยเหลือดังนี้
- ให้จับเด็กนอนหงายบนพื้น
- เปิดทางหายใจให้โล่ง โดยใช้มือยกปลายคางขึ้น (นิ้วแตะที่กระดูกปลายคางไม่ใช่ที่เนื้อที่นุ่มๆ ใต้คาง) และกดศีรษะลง
- ตรวจในช่องปาก ถ้ามองเห็นสิ่งแปลกปลอมชัดเจน ให้ใช้นิ้วชี้ค่อยๆเขี่ยและเกี่ยวออกมา แต่ต้องระวังอย่าทำแรง หรือลึกเกินไป อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกเข้าไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดกับเด็กเล็ก (ถ้าสิ่งแปลกปลอม อยู่ลึกเกินไป หรือมองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม ห้ามใช้นิ้วล้วง เพราะจะเกิดอันตรายได้)
- ลองช่วยหายใจโดยการเป่าปาก 2 ครั้ง ครั้งละ 1-1.5 วินาที ถ้าเป่าแล้ว หน้าอกยกขึ้น ให้เป่าลมหายใจให้ 10-12 ครั้ง/นาที (ในผู้ใหญ่ 12-20 ครั้ง/นาทีในเด็กโต หรือ 20-24 ครั้ง/นาทีในเด็กเล็ก)
- ทำการอัดท้อง 6-10 ครั้ง ในท่านอนหงาย สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ มากกว่า 1 ปี หรือทำการตบหลัง 5 ครั้ง สลับกับกดหน้าอก 5 ครั้ง
- ตรวจดูช่องปาก ทำการเขี่ยและเกี่ยวสิ่งแปลกปลอมออก
- ถ้าสิ่งแปลกปลอมยังไม่หลุดออกมาหรือผู้ป่วยยังหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ให้ช่วยเหลือไปจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล
- ในกรณีไม่หายใจและไม่กระดุกกระดิกเลยให้เป่าปากและนวดหัวใจแทน จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล[2]
บทความแนะนำ ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต
วิธีให้การช่วยเหลือทารกที่อายุน้อยกว่า 1 ปี
- ให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ที่ให้การช่วยเหลือ จับทารกนอนควํ่าบนแขน ให้ศีรษะตํ่าลงเล็กน้อย
- จากนั้นให้ใช้ฝ่ามือตบลงตรงกลางหลังของทารก (ระหว่างกลางของสะบัก 2 ข้าง) เร็วๆ 5 ครั้ง
- หากให้การช่วยเหลือแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ให้จับทารกนอนหงายบนแขนให้ศีรษะตํ่า แล้วใช้นิ้วชี้กับ นิ้วกลางวางบนกระดูกหน้าอกเหนือกระดูกลิ้นปี่ แล้วกดอกลง (สักครึ่งถึง 1 นิ้ว) เร็วๆ 5 ครั้ง
- หรือจะตบหลังทารก 5 ครั้ง สลับกับการกดหน้าอก 5 ครั้ง ทำไปจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดหรือทารกหมดสติ[3]
ซึ่งในระหว่างนี้ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาล หรือคลินิกเด็กใกล้บ้านอย่างเร็วที่สุด ไม่ควรปล่อยให้เวลาการช่วยเหลือกันเองเบื้องต้นกินเวลายาวนานเกินไป เพราะอาจเสี่ยงลูกเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้ค่ะ
ทุกวินาทีของชีวิตลูกอย่างให้คาดสายตาไปจากพ่อแม่ เพราะกับเด็กเล็กๆ พวกเขายังไม่มีทักษะการใช้ชีวิตที่รู้ได้ว่าอะไรปลอดภัย หรือไม่ปลอดภัยกับตัวเขาเอง ฉะนั้นทำให้หลายๆ ครั้งเกิดพลาดพลั้งมีอุบัติเหตุจากการรู้เท่าไม่การณ์ของลูกได้ มาค่ะเรามาช่วยกันป้องกันดูแลลูกหลานของเราให้ปลอดภัย จะได้มีชีวิตที่เติบโตขึ้นอย่างสดใสในอนาคนข้างหน้ากันค่ะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ไส้กรอกอันเดียว เกือบทำให้ลูกน้อยเสียชีวิต
อุทาหรณ์ เกือบเสียลูกรักเพราะลูกไม่ยอมเคี้ยว
ถ่านกระดุมติดคอลูกน้อย เสี่ยงหลอดอาหารทะลุ
ข้อขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
ig aejirakorn
ข้อขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
[1],[2]’[3]กลืนอาหารชิ้นใหญ่หรือสิ่งของ หรือสำสักสิ่งแปลกปลอม (แล้วติดคอหรือหายใจไม่ออก). www.doctor.or.th