พ่อแม่หรือผู้ปกครองคนไหนที่ชอบ “ทิ้งลูกในรถ” ให้อยู่เพียงลำพัง เพราะคิดว่าใช้เวลาไม่นาน … ห้ามพลาด!
“ไม่เป็นไรหรอก ลงไปแป๊บเดียว ทิ้งลูกในรถ นี่แหละ ขืนเอาไปช้าแน่นอน!”
หากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนหนึ่งที่เคยมีความคิดเช่นนี้ หรือเคยทำมาแล้วละก็ … อย่ามองผ่านค่ะ ทีมงาน Amarin Baby and Kids อยากให้เรื่องราวนี้ดู ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง! ของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เกือบสูญเสียลูกชายและรถไปพร้อม ๆ กัน เพราะต้องการลงมาซื้อของ!
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า ได้เกิดเหตุคนร้ายขโมยรถยนต์ โดยมีเด็ก 3 ขวบนั่งติดไปกับรถด้วย … ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดระยอง ประเทศไทยบ้านเรานี่เองค่ะ
เมื่อ ร.ต.อ. สุโรม แก้วใส รองสารวัตรปราบราม สภ. เมือง จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเบาะแสเด็กที่ถูกลักพาตัวแล้ว!!
โดย นายถาวร คุณพ่อของหนูน้อยรายนี้เล่าว่า ภรรยาออกจากบ้านไปกับลูกชายวัย 3 ขวบ และได้แวะจอดรถยนต์เพื่อจะลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดโดย ทิ้งลูกในรถ เพื่อให้อยู่รถ โดยไม่ได้ดับเครื่อง
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนร้ายแอบขึ้นมาในรถและขับรถออกไปเลย พอกลับออกมาก็ไม่เจอทั้งรถแล้วก็ลูกแล้ว จึงได้ทำการรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้พากันช่วยประสานงานกับ จส.100 ให้ช่วยประกาศและเร่งกันตามหาโดยทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันตามหาผ่านช่องทางออนไลนฺในจังหวัดระยอง จนสุดท้ายได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า “พบลูกแล้ว”
ร.ต.อ. สุโรม ได้เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังออกตรวจพื้นที่อยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่ให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยแถวนั้นว่า เห็นมีคนมาทิ้งเด็กไว้ และเห็นทางเฟซบุ๊กแชร์ตามหากันอยู่ จึงพาเด็กมาแจ้งความด้วยกัน พอตำรวจลงพื้นที่คนร้ายได้หนีขึ้นรถไปแล้ว ทิ้งรถที่ขโมยมาไว้ แแต่ไม่พบกุญแจรถ เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าใช่โจรมืออาชีพ เพราะโดยทั่วไปไม่น่าจะมาก่อเหตุในเมือง
ขณะที่ พล.ต.ต.ไตรศูล เนียมทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง เพิ่มเติมว่า คนร้ายได้ขับรถไปจอดที่วัดลุ่ม แล้วค้นรถเอาทรัพย์สินบางอย่างไป ระหว่างนั้นเด็กคงตกใจ เลยเดินลงมาจากรถ จนพบพลเมืองซึ่งดูผ่านเฟซบุ๊กเห็นแชร์กันว่าหายตั้งแต่เช้า หน้าตาเด็กใกล้เคียง จึงเข้าไปสอบถามและแจ้งตำรวจ
ส่วนคนร้ายหนีขึ้นรถเก่า เป็นรถของตนเองขับหนีไป ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้วและอยู่ระหว่างติดตาม อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่งเคยเกิดในพื้นที่ ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์อย่าคิดว่าจอดรถแป๊บเดียว เพราะอาจกลายเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนร้ายได้
เบื้องต้นหลังจากที่ตรวจสอบทรัพย์สิ้นพบว่า ทรัพย์สินที่สูญหายไปเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า กล้องหน้ารถ และกุญแจรถ ตนอยู่ระยองมากว่า 20 ปี น้องปุน ดูไม่ตกใจ เพราะเข้าเตรียมอนุบาลตั้งแต่ขวบครึ่ง เลยชินกับคนแปลกหน้า ตอนแรกที่รู้ว่ารถหายไปพร้อมกับลูก ตกใจจึงได้รีบรวบรวมสติ เพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที
สำหรับพลเมืองดี ได้เปิดเผยกับ JS100 ว่า ตนทำงานแถวนั้น พบเด็กยืนอยู่หน้าที่งาน จึงได้ออกไปทักถาม เด็กเล่าว่า มาเซเว่นอีเลฟเว่นกับแม่ ตนก็สงสัยว่าทำไมแม่ปล่อยให้มาเดินแบบนี้ ซึ่งฝั่งตรงข้ามที่ทำงานตนมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นอยู่พอดี ก็ไม่ทันได้เอะใจอะไร ได้แต่นำเก้าอี้มาให้เด็กนั่ง หาขนมมาให้ทาน แล้วก็ซื้อยาคูลท์ให้ดื่ม ปรากฏว่า สาวยาคูลท์เปิดดูเฟซบุ๊กชมรมเพื่อนเตือนภัยจังหวัดระยอง จึงได้ทราบว่า เด็กคนนี้เป็นคนที่กำลังตามหากัน ชายคนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี รูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวขาว ผมสั้นรองทรง แต่งกายใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาว กางเกงขายาวสามส่วน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็คงต้องเร่งจับผู้กระทำผิดรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดต่อไป
คุณพ่อคุณแม่คะ … จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ที่ทำให้ทีมงานสามารถตระหนักได้ว่า ยังมีอีกหลาย ๆ ครอบครัว ที่คิดว่าการ ทิ้งลูกในรถ นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และส่วนใหญ่ก็มักที่จะมีความคิดเหมือนกันหมดว่า “ลูกอยู่ได้ เพราะว่าใช้เวลาไปไม่นาน”
ซึ่งสาเหตุของการ ทิ้งลูกในรถ ให้อยู่ลำพังนี่ละค่ะ ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้ในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ที่ผู้ปกครองทำนั้นก็ได้แก่
- ลูกหลับ – ด้วยความที่รักลูก เห็นลูกกำลังนอนหลับอย่างสบายเลยไม่กล้าปลุก ปล่อยให้ลูกนอนแล้วเปิดแอร์ในรถก็คงไม่เป็นไร ซึ่งการกระทำนี้ถือเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์เลยละค่ะ เนื่องจาก การเปิดแอร์ไม่ได้ช่วยให้ลูกสบายอยู่ในรถนะคะ เนื่องจากการที่สตาร์ทรถให้ลูกนอนตากแอร์ จะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ การที่เครื่องยนต์ดึงออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการเผาไหม้ ก็จะยิ่งทำให้ระดับออกซิเจนภายในรถยนต์ลดลง ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันกระบวนการเผาไหม้ก๊าซคาร์บอน ก็จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ออกมา ทำให้เด็กที่นอนอยู่ในรถขาดอากาศหายใจ จนเสียชีวิตได้
- ลูกไปเหยียบคันเร่ง – ข้อนี้อันตรายมากเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่ลองนึกภาพเวลาที่เราอาจจะจอดรถไว้หน้าบ้านเพื่อเอารถเข้าบ้าน แต่ผลปรากฎว่า ระหว่างนั้น ลูกเกิดความอยากรู้อยากเห็นจนปีนไปนั่งบนที่นั่งคนขับ แล้วเผลอเหยียบคันเร่งเข้า! ลองคิดดูสิคะว่า จะเกิดอะไรขึ้น!?
- ภาวะฮีทสโตรก – ทราบหรือไม่คะว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1998 ในทุก 10 วันจะมีเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี มากถึง 73 เปอร์เซ็นต์ เสียชีวิตโดยมีสาเหตุมาจากภาวะฮีทสโตรกในรถยนต์ และในปี 2013 มีเด็กในสหรัฐเสียชีวิตจากฮีทสโตรกในรถยนต์ถึง 15 คนเลยละค่ะ สำหรับภาวะฮีทสโตรกที่ว่านี้ ทีมงานจะขอนำเสนอวิดีโอหนังสั้นตัวอย่างที่ถูกทำขึ้นเพื่อเตือนสติคุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ
ขอบคุณที่มา: จส.100, Youtube และ MThai
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่