AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A รุนแรงและอันตรายกว่าทุกสายพันธุ์

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A

ในช่วงนี้ ที่มีการระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A นั้น ทำให้แม่ ๆ กังวลกันไม่น้อยว่าโรคนี้อันตรายและรุนแรงแค่ไหน ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงขอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ ให้แม่ ๆ ได้เตรียมพร้อมรับมือกันค่ะ

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A รุนแรงและอันตรายกว่าทุกสายพันธุ์

โรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร มีอาการอย่างไร?

โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ Influenza virus ซึ่งเป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็นจมูก คอ หลอดลม และปอด โดยเชื้ออาจจะลามเข้าไปที่ปอดจนทำให้เกิดอาการปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง มีอาการปวดศีรษะ ปวดตามตัว และปวดตามกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก ไข้หวัดใหญ่พบได้ในทุกวัย แต่จะพบมากที่สุดในวัยเด็ก แต่อัตราการเสียชีวิตจากการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มักเกิดกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคตับ โรคไต และโรคหัวใจ เป็นต้น

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ มักจะมีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ

ไข้หวัดใหญ่มีกี่สายพันธุ์?

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถแบ่งได้เป็น 3 สายพันธุ์หลัก ๆ ได้แก่

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A มีกี่สายพันธุ์ย่อย? และอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A มีกี่สายพันธุ์ย่อย?

ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นเชื้อที่มีความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์สูง เพราะ สามารถแลกเปลี่ยนสายพันธุกรรม ระหว่างไวรัสของมนุษย์กับหมู หรือ นกและสัตว์ปีกต่าง ๆ ทำให้เกิดไวรัสลูกผสมที่มีโอกาสระบาดในวงกว้าง และรุนแรงมาก จึงสามารถแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อย ๆ ได้หลายสายพันธุ์ โดยมีชื่อเรียกตามชนิดของโปรตีนที่พบบนผิวของเชื้อไวรัส โปรตีนดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ ฮีแม็กกลูตินิน (Hemagglutinin ตัวย่อ H) ซึ่งมีอยู่ 16 ชนิดย่อย (H1-H16) และนิวรามินิเดส (Neuraminidase ตัวย่อ N) ซึ่งมีอยู่ 9 ชนิดย่อย (N1-N9) ในการกำหนดชื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ จึงใช้ตัวย่อ H ควบคู่กับ N โดยมีตัวเลขกำกับท้ายตัวย่อแต่ละตัวตามชนิดของโปรตีน เช่น

ความอันตรายของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A นั้น คือ แพร่ได้เร็ว กลายพันธุ์ง่าย และเมื่อติดเชื้อแล้วออกอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

อาการของโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A ในเด็ก

อาการของเด็กจะคล้ายคลึงกับผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีอาการอ่อนเพลียอย่างเฉียบพลัน เบื่ออาหาร ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดบริเวณรอบดวงตา ปวดแขนปวดขา มีอาการเจ็บคอ คอแดง มีน้ำมูกใส ตัวร้อนแดง ตาแดง มีไข้สูงถึง 39-40 องศาเซลเซียส และมักมีอาการอาเจียนหรือท้องเดิน โดยจะเป็นไข้ประมาณ 2-4 วัน แล้วไข้จึงค่อย ๆ ลดลง แต่อาการคัดจมูก และแสบคอยังคงอยู่ ซึ่งอาจจะหายได้ในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ในเด็กมักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลวได้มากกว่าผู้ใหญ่

ส่วนในเด็กเล็กจะสามารถสังเกตได้จากอาการร้องไห้งอแง อยู่ไม่นิ่ง บางรายอาจมีอาการคัดแน่นจมูก ในเด็กทารกมักมีอาการง่วงซึมและไม่ค่อยดื่มนมหรือรับประทานอาหาร และอาจมีอาการหายใจลำบากได้

หากลูกมีอาการไข้สูงติดต่อกันเป็นเวลานาน แม้ใช้ยาลดไข้แต่ยังคงมีไข้ที่สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการหายใจหอบ หายใจลำบาก ผิวเริ่มเป็นสีม่วง ดื่มน้ำและรับประทานอาหารน้อย มีอาการซึม ไม่สบายตัว โดยอาจมีอาการมากกว่า 7 วัน แม้ว่าไข้จะลดแล้วแต่อาจยังหายใจหอบ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

อ่านต่อ วิธีการรักษาและป้องกัน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A

วิธีการรักษา ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A

การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใด ก็จะมีวิธีการรักษาแบบเดียวกับการรักษาโรคไข้หวัดทั่วไป คือ รักษาตามอาการ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ทานยาลดไข้ และเช็ดตัวเมื่อมีไข้สูง เป็นต้น แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ควรจะต้องระวังการแพร่เชื้อให้มากเป็นพิเศษ ในบางครั้ง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสในผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรครุนแรง

กรณีที่ในบ้านมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สมาชิกที่เหลือจำเป็นต้องป้องกันให้ดี เพราะโรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสละอองฝอยจากการไอและจาม ซึ่งละอองฝอยนี้จะมีเชื้อไข้หวัดใหญ่อยู่ เมื่อเชื้อสัมผัสกับทางเดินหายใจหรือเยื่อบุต่าง ๆ เช่น เยื่อบุตา เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายของผู้อื่นได้ ดังนั้นผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

วิธีการป้องกันโรค ไข้หวัดใหญสายพันธุ์A

วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ก็เหมือนกับการป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั่ว ๆ ไป เช่น

นอกจากการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถป้องกันโรคได้ดีที่สุด โดยการฉีดวัคซีนแต่ละครั้งนั้น จะสามารถป้องกันโรคได้นาน 1 ปี จึงควรฉีดปีละครั้งในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน โดยภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีน และที่ต้องฉีดทุกปีนั้น เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา ดังนั้น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่อาจมีการเปลี่ยนไปทุกปีตามเชื้อที่เปลี่ยนไป

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน

แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ก็ควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเวลาที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง และไม่ควรอาบน้ำหรือสระผมด้วยน้ำที่เย็นเกินไป โดยเฉพาะในเวลาที่มีอากาศเย็น ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยป้องกันโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A และโรคต่าง ๆ ได้

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

รวม 20 อาการต้องสงสัย ลูกไม่สบาย แบบนี้..! กำลังป่วยเป็นโรคอะไร?


ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com, honestdocs.co

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids