10 วิธีปฏิบัติตัว เมื่อพ่อแม่เป็นโรคเริม
- ห้ามบีบตุ่มแผล และห้ามลอกสะเก็ดหนังออก จนกว่าสะเก็ดหนังพร้อมจะลอกออกเอง
- หากเจ็บปวดมาก สามารถใช้น้ำแข็งประคบบริเวณตุ่มแผลได้ หรือหาซื้อครีมที่ใช้ทา เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่แผล และบรรเทาอาการเจ็บตึงได้ตามร้ายขายยาทั่วไป
- อาจใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดร่วมด้วยได้
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เกิดความเครียด
- เริมที่ริมฝีปาก อาจมีสาเหตุมาจากปากแห้งแตกเป็นแผล จึงควรทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ปากเมื่อรู้สึกว่าปากแห้ง
- ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสตุ่มแผล เพื่อป้องกันไม่ให้เริมกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย
- ห้ามไม่ให้ตุ่มแผลสัมผัสผู้อื่นโดยตรง เช่น จูบ หรือหอมแก้ม
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว ช้อน ส้อม ร่วมกับผู้อื่น
- ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือ เด็กทารก เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้อาจได้รับอันตรายถึงชีวิตหากติดเชื้อเริม
- ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ แผลเปิดตามร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโรคนี้ติดเชื้อเริม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง และควรล้างมือให้สะอาดหากมีความจำเป็นต้องสัมผัสผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ
วิธีป้องกันไม่ให้พ่อแม่ลูกเป็นเริม
แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคเริม แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถดูแลตัวเองและลูกน้อยเพื่อป้องกันโรคนี้ได้ โดยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยอื่นที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง อย่างเช่นความเครียด ความวิตกกังวล การนอนน้อย หรืออยู่ในอากาศที่อุณหภูมิไม่พอดี ร้อนจัด หรือเย็นจัดเกินไป
หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อทุกชนิด โดยการไม่ใช้ของร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ ไม่สัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโดยตรง หรือถ้าพ่อแม่เป็นเริม ก็ไม่ควรจูบ หรือหอมลูก เพราะอาจทำให้ติดเชื้อ และเป็นเริมได้ ที่สำคัญควรงดการมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและปลอดเชื้อโดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ภาพและข่าว : www.mirror.co.uk
ข้อมูลอ้างอิง : www.seedoctornow.com , taamkru.com1 , taamkru.com2
อ่านบทความที่น่าสนใจ คลิก!!