AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไส้เลื่อนในผู้หญิง เด็กก็เป็นได้ แม่สังเกตลูกสาวให้ดี!

แม่แชร์ประสบการณ์ ไส้เลื่อนในผู้หญิง เด็กก็เป็นได้ เตือนสังเกตลูกสาวให้ดี!

ระวัง!! ไส้เลื่อนในผู้หญิง แม้เด็กก็เป็นได้ คุณแม่ต้องสังเกตลูกสาวให้ดี! หากพบมีก้อนนูนๆ ที่หัวหน่าวหรือขาหนีบ ควรพาไปหาหมอให้ผ่าตัดออกทันที หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ลำไส้อุดตันได้

แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกสาวเป็นไส้เลื่อน (ไส้เลื่อนในผู้หญิง)

มีหลายคนคิดว่า “โรคไส้เลื่อน” เกิดขึ้นได้กับเฉพาะผู้ชาย ซึ่งจริงๆ แล้วไส้เลื่อนสามารถเกิดในผู้หญิงได้เช่นกัน แต่สัดส่วนการเป็น ไส้เลื่อนในผู้หญิง กับผู้ชาย อยู่ที่ 1 ต่อ 5 … อีกทั้ง โรคไส้เลื่อนในเด็ก ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับเด็กทุกช่วงวัย ซึ่งส่วนมากมักเกิดขึ้นข้างขวามากกว่าข้างซ้าย มีลักษณะเป็นก้อนนูนสามารถผลุบเข้าออกได้บริเวณผนังหน้าท้อง

ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องรู้จักลักษณะอาการ ไส้เลื่อนในผู้หญิง และสังเกตที่ตัวลูกน้อยให้ดี หากพบก้อนนูนๆ บริเวณหัวหน่าวหรือขาหนีบ ให้รีบหาหมอเพื่อตรวจอย่างละเอียด เพราะหากพบว่าไส้เลื่อนมีขนาดใหญ่ และปล่อยทิ้งเอาไว้ลำไส้ส่วนที่ไหลเลื่อนลงมาจะไม่สามารถไหลกลับเข้าไปในช่องท้องได้ทำให้อาจมีอาการปวดมากขึ้น และในบางกรณีอาจต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉินได้

ขอบคุณภาพจาก : www.medicalnewstoday.com

 

⇒ เช่นเดียวกับคุณแม่ท่านนี้ที่ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเตือนคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ให้สังเกตลูกน้อยบ่อยๆ หมั่นตรวจเช็กร่างกายลูกให้ดีตอนอาบน้ำไม่ว่าจะลูกชายหรือลูกสาว หากพบสิ่งผิดปกติ มีก้อนเนื้อนูนๆ บริเวณหัวหน่าวหรือขาหนีบ สามารถผลุบเข้าออกได้ควรรีบพาไปหาหมอ เพราะนั่นอาจเป็นอาการของโรคไส้เลื่อน .. ซึ่งกรณีของคุณแม่ที่ เจออาการโรคไส้เลื่อนบนตัวลูกสาว คือเป็น ไส้เลื่อนในผู้หญิง โดยคุณแม่เล่าว่า…

#แชร์ประสบการณ์ลูกสาวเป็นไส้เลื่อน

(ลูกสาวอายุ 4.7 ขวบ) ขณะที่กำลังอาบน้ำคุณแม่ก็สังเกตเห็นมีก้อนนูนตรงหัวเหน่าขวา ขนาดเท่านิ้วก้อย จึงถามลูกว่าไปโดนอะไรมาหรือเปล่า ไปชนอะไรมาไหม เจ็บไหม ลูกตอบไม่เจ็บ

วันรุ่งขึ้นแม่สังเกตว่าถ้าชนอะไรมาต้องเขียวช้ำ แต่นี่ไม่เขียวช้ำ จึงกดๆ ดู ก้อนนี้มันขยับได้ แม่ดูอาการ 3-4 วัน บางวันไม่นูน บางวันนูนแล้วหายไปเอง ไม่มีอาการอื่นผิดปกติจึงตัดสินใจไปพบหมอ หมอคิดว่าน่าจะเป็น “ไส้เลื่อน” ซึ่งตรงกับความคิดแม่เพราะแม่ค้นดูอาการในกูเกิ้ลมาคร่าวๆ

โดยหมอแนะนำให้ไปพบหมอเฉพาะทางดู ตรวจดูอย่างละเอียด ซึ่งก็เป็น “ไส้เลื่อน” จริงๆ คุณหมอจึงนัดผ่าตัด โดยมีวิธีให้เลือก 2 วิธี คือ

1. ผ่าแบบเปิดช่องท้องตรงที่มีอาการแล้วเย็บปิดผนังหน้าท้องตรงที่ไส้เลื่อนลงมา

2. ผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งวิธีนี้สามารถดูได้อีกข้างที่ไม่มีอาการได้ว่าผิดปกติหรือไม่ ถ้าผิดปกติหมอจะเย็บให้เลย

แม่จึงเลือกวิธีที่ 2 ซึ่งแผลเล็กกว่าวิธีการผ่าตัด โดยพาลูกสาวแอดมิทก่อน 1 วัน ต้องงดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน ระหว่างรอ ลูกก็บ่นหิวข้าว หิวชาบู หิวเคเอฟซี ฟังแค่นี้แม่ก็ใจจะขาดแล้ว ระหว่างลูกอดแม่ก็อดไปด้วยเพราะกลัวลูกเห็นเรากินลูกก็จะกินตาม

วันรุ่งขึ้นเข้าห้องผ่าตัดเวลา 12.50 น. โดยคุณหมอให้มีผู้ปกครองเข้าไปด้วย 1 คนในการอยู่กับลูกตอนดมยาสลบและรอเพื่อให้ลูกเห็นหน้าทันทีตอนตื่น คุณแม่ก็ให้พ่อเข้าไป เพราะแม่ใจไม่แข็งพอที่จะเห็นลูกแบบนั้น กลัวร้องไห้ แล้วลูกจะกังวล เพราะไม่ได้บอกลูกว่าลูกต้องโดนผ่าตัด ได้แต่บอกว่าคุณหมอคนสวยจะเอาเชื้อโรคที่หนี่น้อยออกให้ ถ้าลูกเจ็บนิดหน่อยให้ลูกอดทนนะลูก

แม่ทำได้แค่นั่งสวดมนต์อยู่หน้าห้องผ่าตัด ใช้เวลาในการผ่าตัด 2 ชั่วโมงกว่า วินาทีที่ลูกออกมา แม่สงสารใจแทบขาด แม่หนูเจ็บ กอดหน่อยแม่ แม่ร้องไห้ทำไมเนี่ย พูดต่างๆนาๆ สรุปว่าผลการผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี คุณหมอแจ้งว่าพรุ่งนี้กลับบ้านได้ … ทั้งนี้คุณแม่ยังบอกอีกว่า >> หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์กับแม่ๆท่านอื่นๆนะคะ // เพราะสมัยนี้เชื้อโรคเยอะและโรคแปลกๆเยอะ ต้องหมั่นสังเกตลูกบ่อยๆ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คุณแม่ Salinla Wattanuyan

 

อ่านต่อ “วิธีสังเกตไส้เลื่อนในเด็ก
แม้ลูกสาวก็เป็นไส้เลือนได้” คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ส้เลื่อนในผู้หญิง เกิดจาก?

เพราะ ไส้เลื่อน (Hernia) สามารถเกิดได้กับผู้หญิง และเป็นได้ในทุกช่วงอายุ เป็นภาวะที่มีลำไส้บางส่วนไหลเลื่อนออกมาตุงอยู่ที่ผนังหน้าท้อง ทำให้เห็นเป็นก้อนบวมตรงบริเวณใดบริเวณหนึ่งของผนังหน้าท้อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณข้างขวามากกว่าข้างซ้าย ทั้งนี้ สาเหตุของโรคไส้เลื่อน ยังเกิดจากการเบ่งถ่ายบ่อยครั้ง หรือเพิ่มความดันในช่องท้องเรื้อรัง เช่น ต้องเบ่งท้องผูกเป็นประจำ หรือมีอาการไอเรื้อรัง โดยจะสามารถเห็นเป็นก้อนตุง มีส่วนน้อยที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติภายหลัง เช่น แผลผ่าตัดที่หน้าท้อง

แต่อันตรายที่สำคัญที่สุดของไส้เลื่อน ก็คือไส้เลื่อนขาหนีบติดคา ซึ่งหมายถึงภาวะที่มีอวัยวะในช่องท้องซึ่งในเพศชายมักจะเป็นลำไส้เล็กและถ้าเป็น ไส้เลื่อนในผู้หญิง ก็มักจะเป็นรังไข่ ท่อนำไข่ หรือลำไส้เล็ก เข้ามาติดคาอยู่ในถุงไส้เลื่อนมื่อมีอวัยวะออกมาติดคาในถุงไส้เลื่อนแล้ว การไหลเวียนโลหิตของอวัยวะนั้นก็จะถูกรบกวน ทำให้อวัยวะนั้นขาดเลือด เกิดการเน่าตายได้

เมื่อเกิดภาวะไส้เลื่อนติดคานี้ ก็จะพบว่าลูกมีก้อนนูนเกิดขึ้นที่บริเวณขาหนีบ หัวหน่าว หรือถุงอัณฑะโดยไม่ยุบหายไป และอาจจะร้องกวนเนื่องจากความเจ็บปวด ร่วมกับมีอาการอาเจียน ลูกจะเจ็บเมื่อคลำบริเวณก้อน ในช่วงแรกที่เป็น ผิวหนังที่คลุมเหนือก้อนจะมีลักษณะปกติหรือบวมเล็กน้อย แต่ถ้าปล่อยให้เป็นนานต่อไป จะเกิดการบวมแดงของผิวหนังบริเวณนั้นเนื่องจากมีการขาดเลือดของลำไส้ที่ลงมาติดคา

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดไส้เลื่อน

ขอบคุณภาพจาก : www.healthyhomesteadz.cf

อาการของเด็กที่เป็นไส้เลื่อน

อาจมีประวัติว่ามีก้อนบริเวณเหนือขาหนีบและข้างหัวเหน่าเข้าๆ ออก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเบ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเบ่งอุจจาระ ปัสสาวะ ไอ หรือร้องไห้ก็ตาม ซึ่งก้อนที่ออกมาจะยุบหายไปหมดเมื่อเด็กนอนหลับ พ่อแม่สามารถสังเกตอาการ ไส้เลื่อนในผู้หญิง ที่อาจเกิดกับลูกสาวได้ จากการเห็นก้อนแข็งของไส้เลื่อนมาข้างๆ อวัยวะเพศ หรือ ข้างหัวหน่าว (โดยอาจจะให้เด็กไอหรือเบ่งให้ดู) ซึ่งบางครั้งเจ้าก้อนนี้ก็สามารถดันก้อนไส้เลื่อนกลับเข้าไปในช่องท้องได้

ทั้งนี้ถ้าคุณหมอได้ตรวจร่างกายและพบก้อนไส้เลื่อนดังกล่าวและสามารถดันกลับเข้าไปได้ ก็สามารถให้การวินิจฉัยได้ทันทีว่าเป็นไส้เลื่อน สมควรที่จะได้รับการผ่าตัดรักษาโดยไม่ต้องรับการตรวจด้วยวิธีการพิเศษอื่นๆ

การรักษาโรคไส้เลื่อน

การรักษาที่ดีที่สุดก็คือการผ่าตัด แต่เมื่อคุณหมอแจ้งพ่อแม่ว่าควรจะผ่าตัด หลายคนมักจะอิดเอื้อนไม่อยากให้ผ่าตัดด้วย เพราะกลัวว่าลูกจะมีอันตรายจากการดมยาสลบ และมีแนวโน้มที่พ่อแม่จะประวิงการผ่าตัดให้ทำผ่าตัดในเด็กที่โตกว่านี้

ซึ่งความจริงแล้วการผ่าตัดไส้เลื่อนในเด็กไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย การดมยาสลบในเด็กซึ่งไม่เคยมีโรคประจำตัวใดๆ มาก่อนมีความเสี่ยงต่ำมากๆ การผ่าตัดนี้ไม่ได้ผ่าตัดเข้าไปภายในช่องท้องเพียงแต่ผ่าตัดซ่อมแซมผนังหน้าท้องที่เป็นปัญหาเท่านั้น การผ่าตัดใช้เวลานาน 30 – 45 นาที และเมื่อเด็กฟื้นจากการดมยาสลบและตื่นได้ดี ทางโรงพยาบาลก็จะให้กลับบ้านได้เลยในวันเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องนอนรับการรักษาในโรงพยาบาล ยกเว้นเด็กจะมีอายุน้อยมากๆ เช่นเป็นเด็กคลอดก่อนกำหนดและมีอายุน้อยมากๆ ในขณะที่ผ่าตัดหรือเด็กมีโรคประจำตัวบางอย่างเช่นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคไต เป็นต้น ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ก็ควรนอนโรงพยาบาลหลังผ่าตัด 1 – 2 วัน

ดังนั้นเมื่อสงสัยว่าลูกน้อยป่วยเป็นไส้เลื่อน สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ก็คือ ควรรีบพาลูกไปหาศัลยแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและผ่าตัดรักษาในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะมีกุมารศัลยแพทย์เฉพาะทาง ที่มีความชำนาญในการผ่าตัดรักษาเด็กโดยเฉพาะ การกลัวหรือการประวิงเวลาให้ผ่าตัดตอนเด็กโตนั้น คุณหมอไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น เนื่องจากความเสี่ยงในการดมยาสลบระหว่างเด็กเล็กและเด็กโตไม่ต่างกันมาก แต่การรอทำผ่าตัดตอนเด็กโตจะมีความเสี่ยงของการเกิดไส้เลื่อนติดคาได้ก่อน โดยอาการไส้เลื่อนติดคานี้มักจะเกิดขึ้นในเด็กอายุน้อยกว่าหนึ่งปี ดังนั้นถ้าประวิงเวลาการผ่าตัดไส้เลื่อนออกไป เด็กอาจจะเกิดไส้เลื่อนติดคาอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.samitivejhospitals.comwww.paolophahol.comwww.si.mahidol.ac.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids