AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน วิธีสังเกตผื่นบนตัวลูก

ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน

ลูกเป็นผื่นอะไรกันแน่! ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน ความแตกต่างของผื่นทั้งสองอย่างมีอะไรบ้าง

ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน

ร่างกายของเจ้าตัวน้อยช่างบอบบางแพ้ง่าย ทำให้เกิดผดผื่นได้อยู่บ่อยครั้ง แล้วผื่นบนตัวลูก แท้จริงแล้วเป็นอะไรกันแน่ มาดูวิธีสังเกตไข้ออกผื่นและผื่นร้อนแตกต่างกันอย่างไร ได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ไข้ออกผื่นในเด็กคืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับไข้ออกผื่นกันก่อน ไข้ออกผื่นพบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เพราะเป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรง เด็กมักจะมีไข้สูงนานถึง 3-4 วัน แล้วเกิดเป็นผื่นแดงหรือจุดสีออกชมพู ๆ ขึ้นตามร่างกาย สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการติดเชื้อไวรัส

สาเหตุของไข้ออกผื่นที่พบบ่อยในเด็ก

อาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไวรัสตัวร้ายจะทำให้เจ้าตัวน้อย น้ำมูกไหล ไอ และจาม หรือไวรัสของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลูกอาเจียน และถ่ายเหลว ส่วนโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากไวรัส จนมักจะเป็นไข้ออกผื่น มีดังนี้

ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน

วิธีดูแลเมื่อลูกมีไข้

หากเด็กมีไข้สูงควรดูแลด้วยการเช็ดตัวลดไข้เพื่อป้องกันลูกชักจากไข้สูง (อุณหภูมิร่างกายมากกว่า 37.8 องศาเซลเซียส) เป็นการนำความร้อนออกจากร่างกายอย่างถูกวิธี เริ่มจากการปิดแอร์เสียก่อน แล้วถอดชุด ก่อนจะปูผ้าเพื่อป้องกันน้ำเปียกที่นอน การเช็ดตัวลูกทำได้โดย

  1. ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น (อุณหภูมิอุ่นกว่าอุณหภูมิห้องแต่เย็นกว่าอุณหภูมิร่างกาย) บิดพอหมาดพอควร เช็ดฃใบหน้า พักไว้ที่หน้าผาก ซอกคอ ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง
  2. จากนั้นค่อย ๆ เช็ดบริเวณหน้าอกและลำตัว เช็ดปลายแขนเข้าหาต้นแขนและรักแร้ ย้อนรูขุมขนเพื่อระบายความร้อน ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
  3. เช็ดแขนด้านใกล้ตัวด้วยวิธีเดียวกัน เช็ดขาด้านไกลตัวขา ปลายขาเข้าหาตันขา เช็ดขาหนีบ 3 – 4 ครั้ง พักผ้าบริเวณใต้เข่า ขาหนีบ แล้วเช็ดขาด้านใกล้ตัว
  4. จับลูกนอนตะแคงแล้วเช็ดบริเวณหลัง ตั้งแต่ก้นกบขึ้นคอ ทำซ้ำ 3 – 4 ครั้ง
  5. แล้วจึงเช็ดตัวจนแห้ง ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย

หากอาการไข้ออกผื่นยังไม่หาย ผ่านไป 3-4 วัน ไข้ไม่ลดลง ลูกไม่ยอมกินนม เด็กไม่ค่อยกินอาหาร มีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ซึม ควรพบแพทย์ เพราะเด็กอาจมีอาการไข้ออกผื่นอันเนื่องมาจาก ไข้เลือดออก โรคติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเป็นผื่นแพ้ยา เหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อตัวลูกน้อยได้

ผื่นร้อนหรือผดร้อนกันแน่

จริง ๆ แล้ว ผดและผื่นมีความแตกต่างกัน ผื่นมีลักษณะและอาการที่แตกต่างกัน อย่างผื่นเม็ดเล็ก ผื่นนูนหนา หรือตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง ขณะที่ผดมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก เกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อ และมักจะเรียกกันว่า ผดร้อน

ผดร้อนในเด็ก หรือ Heat rash เกิดขึ้นได้เพราะโครงสร้างผิวหนังของเด็กยังไม่สมบูรณ์ จึงเกิดการอุดตันของท่อระบายเหงื่อ โดยเฉพาะหน้าร้อนที่ร่างกายต้องการระบายความร้อนผ่านทางท่อเหงื่อ หรือมีสาเหตุมาจากการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่หนาเกิน ห่อตัวเด็กเล็กจนเกิดการอุดตันของท่อระบายเหงื่อที่ชั้นผิวหนัง หรือเด็กในวัยซนที่ชอบวิ่งเล่นจนเกิดภาวะเหงื่อออกมาก

อาการเมื่อเกิดผด

ผดเกิดบริเวณที่มีต่อมเหงื่อมาก เช่น หน้าผาก หน้าอก และหลัง โดยเฉพาะวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะที่พบจะแตกต่างกันตามระดับของการอุดตันของท่อของต่อมเหงื่อ

หากปล่อยให้ผดเกิดขึ้นมาก ๆ เป็นเวลานาน ผดร้อน จะเกิดเป็น Miliaria pustulosa กลายเป็นตุ่มหนอง และบางครั้งเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรียจากการเกา ผดร้อนยังทำให้เกิด Miliaria profunda เนื่องจากเป็นผดร้อนเรื้อรัง จนนำไปสู่การอุดตันของท่อระบายเหงื่อในระดับลึกที่สุด ผื่นเป็นตุ่มนูนสีขาวขนาด 1-3 มิลลิเมตร พบได้ที่ลำตัวและขาส่วนบน

ไข้ออกผื่น Vs ผื่นร้อน

วิธีป้องกันการเกิดผด

หากลูกมีอาการไข้ออกผื่นหรือผดร้อน พ่อแม่ต้องสังเกตอาการอื่น ๆ ของลูกควบคู่ไปด้วย หากมีไข้ติดต่อกันนาน ๆ ผดหรือผื่นไม่หายเสียที ลูกคันมาก งอแง ไม่กินนม ไม่ยอมกินข้าว ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดต่อไป

อ้างอิงข้อมูล : khonkaenram, phyathai, inderm , si.mahidol และ facebook.com/centercliniclab

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

มือ เท้า ปาก หน้าฝน ระบาดหนัก! เจอ 8 อาการนี้ต้องพาลูกไปหาหมอ

ไทรอยด์เป็นพิษ ลูกเป็นแต่เล็ก ส่งผลต่อพัฒนาการล่าช้า

เด็กไทยป่วยมะเร็งเพิ่ม 80 คนต่อเดือน! มะเร็งในเด็ก รู้เร็ว รักษาไว หายขาดได้