AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

จีนออก คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 (ฉบับภาษาไทย) ต้องทำยังไงเพื่อให้รอดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า

จีนออก คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 (ฉบับภาษาไทย) ต้องทำยังไงเพื่อให้รอดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า

จีนรอด..เราก็ต้องรอด เผย!! คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ของจีน เวอร์ชั่นภาษาไทย จะมีวิธีรับมือและดูแลป้องกันตัวเองให้รอดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลย

จีนออก “คู่มือป้องกันโรคโควิด 19” ฉบับภาษาไทย
จัดทำโดย มหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิง

ช่วงที่ประเทศไทยตอนนี้กำลังเกิดการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างหนัก เนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 100+ ทุกวัน ซึ่งทางทีมแม่ ABK ก็ได้เกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมหาข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการรับมือกับเจ้าเชื้อไวรัสโคโรน่านี้

ซึ่งล่าสุดก็ไปเจอข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ที่ได้แชร์ หนังสือวิธีป้องกัน covid-19 จัดทำโดย มหาลัยวิทยาลัยแพทย์คุนหมิง ประเทศจีน เป็น คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย โดยภายในเล่มเป็นความรู้เกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 การดูแลป้องกันตัวเองทั้งเมื่ออยู่ในบ้านและเมื่ออกนอกบ้าน รวมไปถึงวิธีเพิ่มภูมิคุ้มกัน ด้วยการรับประทานอาหารอะไรที่มีประโยชน์ ซึ่งในคู่มือได้มีการอธิบายเอาไว้อย่างครบถ้วน

ดังนั้นทางทีมแม่ ABK จึงได้สรุปข้อมูลจาก คู่มือป้องกัน covid-19 ออกมาให้อ่านถึงวิธีดูแลตัวเองและการเพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันตัวเองและลูกน้อย ให้รอดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า มาฝาก ตามมาดูกันเลย…

โควิด 19 อาการ เป็นอย่างไร ควรไปพบแพทย์ตอนไหน?

ซึ่งก่อนที่จะไปดูวิธีการป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จักอาการของโรคนี้ก่อน เพื่อจะได้สังเกตตัวเองเป็น โดยเบื้องต้นหากมีไข้ (อุณหภูมิใต้รักแร้ ≥ 37.3°C) ไม่มีเรี่ยวแรง ไอแห้ง อาการเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถยืนยันว่าได้รับเชื้อมาแล้ว แต่หากมีอาการเหล่านี้ปรากฎขึ้นหลังไปในอยู่ในพื้นที่เสี่ยง …

  1. โดยก่อนหน้าที่จะแสดงอาการป่วย 14 วัน มีประวัติการเดินทางท่องเที่ยวหรือพักอาศัยในบริเวณที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค
  2. ก่อนหน้าที่จะแสดงอาการป่วย 14 วัน ได้มีการใกล้ชิดหรือสัมผัสกบผู้ป่วยโรคโควิด-19 (ได้รับการยืนยันจากการตรวจสอบกรดนิวคลีอิกที่ให้ผลเป็นบวก)
  3. ก่อนหน้าที่จะแสดงอาการป่วย 14 วัน มีการใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากแหล่งแพร่ระบาดของโรค
  4. มีการไปรวมกลุ่มชุมนุม (ภายในระยะเวลา 14 ได้ไปหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่พบผู้ป่วยมากกวา 2 คนขึ้นไปที่มีไข้และโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ที่บ้าน สํานักงาน ห้องเรียน เป็นต้น )

จากที่กล่าวมาหากตัวเองหรือคนในบ้านมีอาการ ให้รีบแจ้งคนในครอบครัว และรักษาระยะห่าง พร้อมสวมใส่หน้ากากอนามัย แล้วรีบไปโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยทันที

 

Must read >> เด็กติดโควิด-19 เพิ่ม เตือนพ่อแม่ระวัง อย่าพาเชื้อเข้าบ้าน

 

เชื้อโรคโควิด-19 ชอบคนประเภทไหน!

ใน คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย จากประเทศจีน เล่มนี้ได้บอกไว้ว่า ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทั้งนั้น แต่คนที่สุขภาพดี มีภูมิต้านทานแข็งแรง ออกกําลังกายสม่ำเสมอ มีจิตใจเบิกบาน โอกาสที่จะถูกแพร่เชื้ออาจจะค่อนข้างน้อย แต่คนที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอ เช่น คนแก่และเด็กน้อย ตลอดจนคนที่มักจะป่วยง่าย ก็มีโอกาสที่จะได้รับการแพร่เชื้อค่อนข้างสูง และมีอาการป่วยกจะค่อนข้างหนัก

7 วิธีป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่ออยู่ที่บ้าน (แนะนำโดย คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย จากประเทศจีน)

1. ล้างมือบ่อยๆ คือต้องล้างมือให้สะอาดโดยทันที หลังเมื่อกลับมาจากการออกไปนอกบ้าน , ก่อนและหลังรับประทานอาหาร , หลังจากไอหรือจาม , หลังจากเข้าห้องน้ำ , หลังจากสัมผัสกับสัตว์และจัดการกับอุจจาระ

ขั้นตอนการล้างมือ ภาพจาก คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 (ฉบับภาษาไทย)

2. ทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยเปิดหน้าต่างภายในห้องทุกวัน เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศอยู่เสมอ

3. ฆ่าเชื้อบ่อยๆ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ในบ้าน ถูพื้นบ่อยๆ โดยจะต้องทำความสะอาดทุกวันเป็นประจํา และหากมีแขกมาบ้าน ต้องรีบทําการฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆในบ้านโดยทันที และหากซักผ้าต้องผสมน้ำยาฆ่าเชื้อลงไปด้วยจะยิ่งดี

4. มีมารยาทในการจามและไอ คนในบ้านใช้กระดาษทิชชู่ หรือข้อศอกปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้งขณะไอหรือจาม เช่นนนี้แล้วไวรัสก็จะไม่สามารถแพร่กระจายออกมาได้ ไม่ว่าคุณจะป่วยหรือไม่ก็ตาม

5. ใช้ชีวิตประจําวันตามปกติ และออกกําลังกายอย่างเหมาะสมที่บ้าน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านของคุณ

6. ตรวจเช็คสุขภาพประจําวันของคุณและครอบครัว เมื่อพบว่าตนเองหรือคนในครอบครัวมีอาการป่วยดังนี้ ควรจะทําการกักตัว และไปพบแพทย์เพื่อรับความช่วยเหลือโดยทันที อาการที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อ จะรวมถึง ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ แน่นหน้าอก หายใจลําบาก เบื่ออาหาร ไม่มีแรง ซึม คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดศีรษะ ใจสั่น ตาแดง ปวดตามข้อหรือปวดกล้ามเนื้อบริเวณเอวและหลัง เป็นต้น

Must read >> รีวิว ปรอทวัดไข้ อุณหภูมิเท่าไหร่? แปลว่า ลูกมีไข้ กันแน่!

7. เตรียมพร้อมในการป้องกันครอบครัว

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

 

อ่านต่อ >> วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่า
เมื่อต้องออกนอกบ้าน” คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

8 วิธีป้องกันตนเองในสถานที่สาธารณะ
จาก คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย

  1. เมื่อออกไปนอกบ้านทุกครั้ง จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสาเหตุของการป่วย และหลังกลับจากภายนอกทุกครั้งจะต้องล้างมือโดยทันที ทั้งนี้หากมีอาการไข้หรืออาการติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีไข้ต่อเนื่อง จะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการโดยทันที
  2. พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนแออัด เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต , ร้านขายของ , สวนสนุก , ร้านอินเตอร์เน็ต , ร้านอาหาร เป็นต้น และไม่เข้าร่วมชุมนุมเป็นกลุ่ม
  3. ไม่บ้วนน้ำลายหรือเสมหะลงพื้น โดยสามารถบ้วนเสมหะหรือน้ำลายลงบนกระดาษทิชชู่ และเมื่อสะดวกให้นําไปทิ้งลงในถังขยะที่มิดชิด ในขณะที่หากต้องการไอหรือจาม จะต้องใช้กระดาษทิชชู่ปิ ดปากและจมูกให้เรียบร้อยเสียก่อน และนํากระดาษที่ใช้แล้วทิ้งลงในถัง “ขยะติดเชื้อ” เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส หลังจากไอหรือจามแล้วจะต้องทําการล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้มือสัมผัสกับดวงตา จมูกหรือปาก
  4. ฆ่าเชื้อโดยทันที เมื่อสัมผัสกับสิ่งของในสถานที่สาธารณะ เช่น หนังสือ เก้าอี้ โต๊ะ เป็นต้น ให้ทําการล้างมือโดยทันทีหรือใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อในการทําความสะอาดมือ
  5. เมื่อมีการพบปะกับผู้อื่นในสถานที่สาธารณะ จะต้องรักษาระยะห่างระหว่างผู้คนอย่างน้อย 1 เมตร (ประมาณ 1 ช่วงความยาวแขน) เป็นต้นไป
  6. พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารภายนอกบ้าน
  7. หากใช้การโดยสาร ด้วยรถประจําทางจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และพยายามเลือกใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์แบบครั้งเดียวทิ้ง ทั้งนี้เมื่อไอหรือจามจะต้องพยายามหันไปด้านที่ไม่มีคน แล้วใช้ด้านในของศอก หรือกระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกก่อนไอหรือจาม
  8. เมื่อพบผู้ป่วยไข้หวัดบนรถโดยสารประจําทาง พยายามอย่าสัมผัสหรือเข้าใกล้ และควรเปิดหน้าต่างรถโดยสาร เพื่อให้มีการถ่ายเทของอากาศ หลังลงจากรถให้ทําการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือทันที

 

กินอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19

  1. ใน คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 จากจีน ฉบับภาษาไทย บอกไว้ว่า ให้กินอาหารที่อุดมด้วยธัญพืชเป็นหลัก โดยในแต่ละวันจะต้องมีปริมาณไม่น้อยกว่า 250-400 กรัม ซึ่งรวมไปถึงพวกข้าว , ข้าวสาลี , ข้าวโพด , บักวีต , มันเทศ , มันฝรั่ง เป็นต้น
  2. หมั่นออกกําลังกายอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อรักษาน้ำหนักตัวเอง ไม่ให้อ้วนจนเกินไป โดยไม่ควรนั่งเป็นเวลานาน ให้ลุกขยับร่างกายทุกๆชั่วโมง
  3. เน้นกินผักผลไม้ที่สดสะอาด โดยทุกๆวันจะต้องบริโภคให้ได้มากกว่า 5 ประเภทขึ้นไป ปริมาณที่เหมาะสมจะต้องให้ได้มากกวา 500 กรัมขึ้นไป ซึ่งครึ่งหนึ่งจะต้องเป็นผักผลไม้ที่มีสีเข้ม นอกจากนี้จะต้องดื่มนมทุกวัน และกินผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเพิ่มมากขึ้น
  4. ควรกินโปรตีนอย่างเพียงพอ ทั้งเนื้อปลา กุ้ง สัตว์ปีก ไข่ และเนื้อสัตว์ม่ติดมัน ในปริมาณที่เหมาะสม โดยในแต่ละวันควรบริโภคให้ได้ประมาณ 150-200 กรัม ส่วนไข่ไก่ กินทุกวัน วันละ 1 ฟอง และหลีกเลี่ยงการรับประทานไขมัน ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการร่มควันหรือการหมัก เป็นต้น
  1. ลดการบริโภคเค็ม มัน ควบคุมน้ำตาลและจํากัดการดื่มสุรา ควรหันมากินอาหารเบาๆที่รสชาติไม่จัดจ้าน โดยในแต่ละวันสำหรับเด็กควรบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือในปริมาณไม่เกิน 6 กรัม พร้อมควบคุมการบริโภคน้ำตาลไมให้เกินวันละ 50 กรัม หรือดีที่สุดคือบริโภคให้ต่ำกวา 25 กรัม ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ โดยแต่ละวันควรดื่มวันละ 7-8 แกว (1500-1700 มิลลิลิตร) และควรเป็นน้ำต้มสุก ที่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุราให้เร็วที่สุด
  2. ไม่ใช้ทรัพยากรอาหารอย่างสิ้นเปลือง สอนให้ลูกรู้คุณค่าของอาหาร ควรเตรียมอาหารตามปริมาณการบริโภคที่แท้จริง เพื่อไม่ให้เหลือทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ที่สำคัญต้องเลือกกินอาหารที่สดสะอาดถูกสุขอนามัยและใช้วิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสม ทั้งนี้ควรใน คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ยังบอกอีกว่าควรแยกอาหารสดออกจากอาหารที่ปรุงสุกแล้ว โดยนําอาหารที่สุกแล้วมาผ่านความร้อนอีกครั้ง พร้อมเรียนรู้วิธีการอ่านฉลากอาหาร และเลือกผลิตภัณฑ์อาหารอย่างเหมาะสม ที่สำคัญพยายามรับประทานอาหารที่บ้าน เพลิดเพลินกับอาหารและการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงาม สร้างอารยธรรมอาหารในรูปแบบใหม่

 

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19

 

  • เพิ่มการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ โดยให้กินผลไม้ตระกูลส้มจํานวน 2 ลูกต่อวัน เพื่อเพิ่มวิตามิน C ให้แก่ร่างกาย
  • ควรกินมะเขือเทศ ตลอดจนผลไม้ที่มีสีแดงหรือสีเข้มเพื่อเพิมวิตามิน B ให้กับร่างกาย
  • เสริมวิตามิน A ให้กับร่างกายอย่างเหมาะสม โดยการกินเครื่องในสัตว์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ละครั้งประมาณ 30-50 กรัม โดยประมาณ ซึ่งจะช่วยให้เยื่อบุทางเดินหายใจทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อจากไวรัสได้อย่างง่ายดาย
  • ไม่ควรออกกําลังกายอย่างหนักหน่วงในช่วงเวลานี้ เนื่องจากการออกกําลังกายหนักจะไประงับการทํางานของระบบภูมิคุ้มกัน (ระบบภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน) ในช่วงระยะเวลานี้สามารถออกกําลังกายเบาๆหรือออกกําลังกายที่ใช้กําลังปานกลางได้
  • กินคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอ เช่น ข้าว และอาหารประเภทแป้งอื่นๆ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่สําคัญที่สุดสําหรับเซลล์ของภูมิคุ้มกัน และในแต่ละวันพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำให้ตนเองตกอยู่ภายใต้สภาวการณ์ที่เครียดหรือวิตกกังวลมากจนเกินไป

 

โรคโควิด-19 สามารถรักษาได้หรือไม่?

ปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสของโรคโควิด-19 สามารถรักษาได้ แต่เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่พบยาที่มีผลในการต้านไวรัสโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ … สําหรับวิธีการรักษาคนป่วย ที่สําคัญคือใช้วิธีการรักษาตามอาการ (หากมีไข้สูง ให้ทําการลดไข้ เมื่อไอก็ทำให้หยุดอาการไอ) และวิธีการเสริม (เสริมสร้างโภชนาการและเพิ่มภูมิต้านทาน)

ซึ่งในปัจจุบันแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้พยายามเร่งทําการค้นหาและวิจัยยาที่มีผลต่อการรักษาโดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดไวรัสเหล่านั้นให้หมดไป

สุดท้ายนี้ เนื่องจากโรคโควิด-19 มีลักษณะอาการที่รุนแรง ดังนั้นเมื่อติดเชื้อโรคโควิด-19 ควรรีบทําการพบแพทย์โดยทันที และจะต้องเชื้อฟังคําสังแพทย์พร้อมให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างเคร่งครัด

 

♥ นอกจากนี้ใน คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ยังมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่ลือกันในโซเชี่ยลบ้านเรามากมาย  เช่น การห้ามกินเนื้อ ให้กินแต่ผัก ซึ่งในคู่มืออธิบายไว้ละเอียดเลย … หากคุณพ่อคุณแม่หรือใครสนใจอยากอ่านแบบเต็มๆ ก็สามารถ คลิกได้ที่นี่เลยค่า >>คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย จากประเทศจีน

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ คู่มือป้องกันโรคโควิด 19 ฉบับภาษาไทย จากประเทศจีน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids