ไหมขัดฟัน อุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดช่องปากลดโอกาสเกิดโรค เหงือกอักเสบ แต่ควรใช้ทำความสะอาดก่อนหรือหลังแปรงฟันกันดีนะ มาฟังผลวิจัยชี้ชัดให้คลายสงสัยดีกว่า
ผลวิจัยชี้!ใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟันลดเสี่ยง เหงือกอักเสบ
การดูแลรักษาช่องปากของลูกน้อย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณแม่เป็นกังวล เพราะสุขภาพช่องปากของเด็กเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เด็กกับขนมหวานเป็นของคู่กัน แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้เจ้าแมงกินฟัน หรือปัญหาทางทันตกรรมอื่น ๆ มาทำร้ายลูกน้อยของเราได้กันละ
จากการสำรวจสภาวะสุขภาวะช่องปากโดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ครั้งล่าสุดปี 2555 พบว่าแต่ละช่วงวัยต่างก็มีปัญหาแตกต่างกันไป หากปล่อยให้เป็นเรื้อรังย่อมจะนำไปสู่ปัญหาเมื่ออายุมากขึ้น
1. เด็กแรกเกิด – 3 ปี พบว่าเด็กจะมีปัญหาฟันผุ ตั้งแต่อายุ 9 เดือน และผุมากขึ้นตามวัย โดยเด็กอายุ 3 ปี มีฟันผุถึงร้อยละ 51.7 เฉลี่ย 2.7 ซี่ /คน
2. เด็ก 3 – 6 ปี ข้อมูลการเกิดโรคที่อายุ 5 ปี พบว่ามีฟันผุถึงร้อยละ 78.5 เฉลี่ย 4.4 ซี่/คน
3. เด็ก 6-12 ปี เด็กในวัยนี้อยู่ในช่วงประถมศึกษา การสำรวจพบว่ามีฟันผุแท้ร้อยละ 52.3 เฉลี่ย 1.3 ซี่/คน
4. กลุ่มวัยรุ่น และ เยาวชน ผลการสำรวจสุขภาพช่องปากที่อายุ 15 ปี พบโรคฟันผุร้อยละ 62.4
5. วัยทำงาน คนในกลุ่มอายุ 35-44 ปี ปัญหาที่พบเกิดจากโรคฟันผุสะสม คนช่วงอายุนี้มีการอักเสบของเหงือก มีเลือดออกง่ายร้อยละ 39.3 พบปัญหาปริทันต์อักเสบ หรือที่เรียกว่า โรคเหงือกอักเสบที่มีการทำลายของกระดูกรองรับรากฟันร่วมด้วยร้อยละ 15.6
6. ผู้สูงอายุ ปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ มีอยู่ 7 ประเด็น นอกจากการสูญเสียฟันแล้ว ยังมีเรื่องฟันผุ รากฟันผุ โรคปริทันต์ มะเร็งช่องปาก ภาวะน้ำลายแห้ง ฟันสึก และโรคในช่องปากที่สัมพันธ์กับโรคทางระบบ ข้อมูลจากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติในกลุ่มผู้สูงอายุ 60-74 ปี โดย สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ครั้งล่าสุด ปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุเสียฟัน ทั้งปากแล้วร้อยละ 7.2 และสูญเสียฟันบางส่วนเกือบทุกคน ส่งผลให้เกิดความต้องการใส่ฟันเทียม บางส่วนสูงถึงร้อยละ 72.7 ที่น่าห่วงมากขึ้น คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีฟันพบว่ามีโอกาสสูญเสียฟันเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกือบทุกคนมีฟันผุ โรคปริทันต์ และอีกร้อยละ 17 มีรากฟันผุ
จากผลการสำรวจจะพบว่าปัญหาสุขภาวะช่องปากของคนเรา เป็นปัญหาต่อเนื่อง หากเราไม่สามารถดูแลช่องปากให้ดีได้ตั้งแต่เด็ก จะส่งผลต่อไปในระยะยาวจนถึงวัยผู้สูงอายุกันเลยทีเดียว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่าพึ่งวางใจว่าปัญหาแค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการแปรงฟันจะไม่ส่งใด ๆ ต่อลูกน้อยของคุณ เพราะนอกจากจะส่งผลในระยะยาวต่อโรคทางทันตกรรมแล้ว ยังมีการศึกษาพบว่า การมีฟันผุหลายซี่ในปากมีความสัมพันธ์กับภาวะแคระแกร็นของเด็ก การสูญเสียฟันน้ำนมไปก่อนกำหนดทำให้เด็กรับประทานอาหารลำบาก เคี้ยวไม่สะดวก และเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจะมีแนวโน้มว่าฟันแท้จะผุมากขึ้นเช่นกัน
ดูแลก่อนสาย ปลูกฝังนิสัยการดูแลฟันตั้งแต่เด็ก
การสอนให้ลูกของคุณดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างถูกต้องตั้งแต่เด็กเป็นการลงทุนที่ส่งผลที่ดีให้กับลูกได้ตลอดชีวิต เพื่อให้เด็กรู้จักปกป้องฟันและเหงือก ลดโอกาสการเกิดฟันผุ และเหงือกอักเสบ ควรสอนให้เด็กปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ ช่วยให้ฟันแข็งแรง ลดปัญหาฟันผุ
- ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน วันละ 1 ครั้ง เพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียตามซอกฟันและร่องเหงือก ก่อนที่จะจับตัวแข็งเป็นหินปูน เพราะเมื่อหินปูนก่อตัว ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดเท่านั้น
- รับประทานอาการที่ถูกสัดส่วน จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ หากต้องรับประมานอาหารเหล่านั้น ควรรับประทานไปพร้อมกับมื้ออาหารหลัก แทนที่จะเป็นอาหารว่าง เนื่องจากน้ำลายที่ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากช่วงมื้ออาหารหลักจะช่วยชะล้างการตกค้างของเศษอาหารได้มากกว่า
- พาเด็กไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน หรือตามที่ทันตแพทย์นัด เพื่อรับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ เพราะการรักษาฟันตั้งแต่เริ่มต้นจะง่ายกว่าการปล่อยให้ลุกลามจนทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น เด็กก็จะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการไปหาหมอฟัน
ไหมขัดฟัน
อุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาทำความสะอาดฟันที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ แปรงสีฟัน และยาสีฟัน ดังนั้นเราคงไม่ต้องกล่าวถึงเจ้าอุปกรณ์สองตัวนี้กันมากนัก ก็คงคุ้นเคยและรู้ถึงวิธีการใช้ การเลือกใช้ที่เหมาะสมตามวัย กันเป็นอย่างดี โดยสรุปหลัก ๆ ก็คือ
- แปรงฟันทุกครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา และคอยดูแลไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน
- ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม โดยแปรงขึ้นลงเบาๆ ด้านในของฟันแต่ละซี่ก่อน เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีคราบแบคทีเรียสะสมมากที่สุด
- ทำความสะอาดฟันด้านนอก โดยแปรงขึ้นลงเบาๆ
- ใช้หัวแปรงเพื่อแปรงด้านหลังของฟันหน้า
- แปรงลิ้นด้วย เพื่อลดปัญหากลิ่นปาก
แต่ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมานานแล้วว่า สามารถช่วยดูแลช่องปากได้ลึกมากขึ้นกว่าเพียงแค่การแปรงฟัน ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคเหงือกอักเสบได้เป็นอย่างดี นั่นคือ ไหมขัดฟัน
ลูกเริ่มใช้ไหมขัดฟันเมื่อใด
เนื่องจากการใช้ไหมขัดฟันจะช่วยกำจัดเศษอาหาร และคราบแบคทีเรียตามซอกฟันที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง คุณแม่ควรให้ลูกใช้ไหมขัดฟันเริ่มตั้งแต่อายุ 4 ปี โดยการเริ่มจากการทำให้ลูกก่อนในช่วงแรก ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะสามารถทำได้เองก่อนที่จะอายุ 8 ปี
หยุดความเชื่อเดิม มาลองวิธีการใหม่เพื่อฟันที่สะอาดลึกกว่าเดิม
เมื่อทราบถึงประโยชน์ของการดูแลรักษาฟัน อุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดฟันกันมาพอแล้ว เคยสงสัยกันใหม่ว่า ลำดับขั้นตอนการใช้แปรงสีฟัน กับไหมขัดฟันควรเป็นอย่างไร โดยปกติคนส่วนมากมักจะเริ่มจากการแปรงฟันก่อน แล้วค่อยตามด้วยการใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือไม่นั้น ลองมาดูผลการศึกษาหนึ่งที่ ทพญ.ปวีณา คุณนาเมือง ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมสำหรับเด็ก ได้นำมาบอกเล่าให้แก่ทุกคนได้รับรู้ในเพจ FB: ฟันน้ำนม ว่า
จากการศึกษาในนักเรียนจำนวน 25 คน โดยแบ่งวิธีการทดลองเป็น 2 เฟสเฟสที่ 1 ให้นักเรียนแปรงฟันก่อนใช้ไหมขัดฟันเฟสที่ 2 ให้นักเรียนใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน
วัดระดับของคราบจุลินทรีย์และฟลูออไรด์ ก่อนและหลังการทำความสะอาดของแต่ละเฟสและเปรียบเทียบระดับของคราบจุลินทรีย์และฟลูออไรด์ระหว่างเฟสที่ 1 และ 2
ได้ผลการทดลองว่า การใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน ช่วยลดระดับคราบจุลินทรีย์ และช่วยคงระดับความเข้มข้นของฟลูออไรด์ได้สูงกว่า การแปรงฟันก่อนใช้ไหมขัดฟัน
หมอแนะนำว่า หากลูกมีฟันน้ำนมชิดกันหรือเบียดกัน ควรใช้ไหมขัดฟันให้ลูกเลย ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไรก็ตาม เพราะการแปรงฟันอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในเด็กที่ฟันชิดแน่น
ใช้ไหมขัดฟันให้ลูกวันละครั้งก่อนนอน โดย1. ใช้ไหมขัดฟันเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ตามซอกฟันทุกซี่ที่ชิดแน่น2. ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดฟันให้ทั่ว หรือบ้วนน้ำ เพื่อล้างคราบจุลินทรีย์ออก3. จากนั้นแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ 1000 ppm4. เช็ดยาสีฟันส่วนเกินออก หรือให้ลูกบ้วนยาสีฟันส่วนเกินทิ้ง โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม5. งดน้ำและอาหาร 30 นาทีหลังแปรงฟันหลังใช้ไหมขัดฟัน ให้ลูกบ้วนน้ำได้ หรือบางคนอยากแปรงฟันรอบหนึ่งก่อนโดยไม่ใช้ยาสีฟันเพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์หรือเศษอาหาร ก็ทำได้ค่ะ … หลังการทำความสะอาดขั้นตอนนี้ จะบ้วนน้ำเยอะแค่ไหนก็ได้ตามสะดวกค่ะ
ขั้นตอนถัดไปคือการแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์ 1000 ppm … หลังจากแปรงฟันด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์แล้ว แนะนำให้บ้วนแค่ฟองยาสีฟันทิ้ง หรือใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดฟองยาสีฟันในเด็กที่บ้วนปากไม่เป็น รอบนี้ไม่บ้วนน้ำตาม งดน้ำและอาหาร 30 นาที เพราะเราต้องการคงระดับฟลูออไรด์ในปากให้มากที่สุดค่ะ
ได้คำแนะนำดี ๆ จากคุณหมอฟันใจดีที่มาบอกวิธีการดูแลช่องปากของลูกให้สะอาดปราศจากฟันผุ และเหงือกอักเสบด้วยวิธีที่คุณแม่คุ้นเคย ต่างไปเพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการเสียหน่อย เพียงเท่านี้ก็สามารถปกป้องฟันของลูกน้อยได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิม แล้วอย่าลืมบอกต่อกันไปนะว่า “ไหมขัดฟันไม่ได้ใช้หลังแปรงฟันนะเออ”
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก กรมสุขภาพจิต สถาบันราชานุกูล /ศูนย์ดูแลสุขภาพช่องปากคอลเกต
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
แปรงฟันลูกแล้วเลือดออก แม่มือหนักไปหน่อย หรือขนแปรงแข็งเกิน?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่