ร้อยละ 40 ของเด็กที่เป็นภูมิแพ้ ถูกกระตุ้นด้วยสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน เช่น ไรฝุ่น สะเก็ดหนังสัตว์เลี้ยง เชื้อรา หรือแมลงสาบ ฯลฯ จะมีวิธีป้องกันและลดอาการฟืดฟาดของเจ้าตัวเล็กอย่างไร พญ.โซนัล เพเทล ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้จากลอสแองเจลิสมีคำแนะนำ
1. เลือกเครื่องนอนให้เหมาะสม
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันไรฝุ่น ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนทุกสัปดาห์ (รวมถึงเจ้าตุ๊กตาขนฟูทั้งหลายด้วย) เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดฝุ่นได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
2. อย่าปูพรมหรือใช้ม่านหนาหนัก
ในห้องที่ลูกใช้เวลาอยู่นานๆ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ฯลฯ เลือกพรมเช็ดเท้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์แทนวัสดุธรรมชาติ
3. หากใช้เครื่องปรับอากาศ
ควรเลือกแบบที่กรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ หมั่นเปลี่ยนที่กรอง และเปิดหน้าต่างระบายอากาศบ่อยๆ
4. กันสุนัขหรือแมวให้ห่างจากห้องนอนลูก
ลดความเสี่ยงที่สะเก็ดหนังของเจ้าตูบเจ้าเหมียวจะปลิวมาเข้าจมูกหนูๆ
5. ทำความสะอาดหลังปรุงอาหาร
ทำความสะอาดเครื่องครัวและพื้นที่ปรุงอาหารให้สะอาด ถ้าจะให้ดีควรกวาดเศษวัตถุดิบต่างๆ ทิ้งขยะและถูพื้นให้เรียบร้อย ไม่ให้เป็นอาหารของแมลงสาบหรือหนู
6. ดูแลความสะอาดของห้องน้ำ
ถ้าเชื้อราคือตัวปัญหา ต้องหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำและเครื่องสุขภัณฑ์ รวมถึงรางน้ำไม่ให้อุดตัน ห้องน้ำที่ลูกใช้ควรระบายอากาศได้ดี หรือติดตั้งพัดลมดูดอากาศ
7. จัดการกระถางต้นไม้ในบ้าน
โรยกรวดลงบนหน้าดินให้หมดทุกกระถาง และรดน้ำพอประมาณ เพื่อไม่ให้สปอร์เชื้อราลอยฟุ้งขึ้นมา
ถึงแม้ว่า โรคภูมิแพ้จะเป็นโรคที่พบบ่อยมากขึ้นในเด็ก แต่ด้วยปัจจุบันเรารู้จักโรคนี้ดีขึ้น มีการรักษาและยาที่ดี ทำให้การรักษาโรคดีขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่าลูกเป็นโรคภูมิแพ้ ควรรีบพามาปรึกษาคุณหมอ เพราะการได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง จะทำให้โอกาสหายขาดมีมากขึ้น และลองทำตามวิธีที่คุณหมอแอนได้แนะนำมาข้างต้นก็อาจช่วยลูกพ้นจากโรคภูมิแพ้ไปได้เช่นกันนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงาน Amarin Baby & Kids
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- ติดตุ๊กตา ติดหมอนเน่า ติดผ้าห่มเน่า เลิกยังไงดี?
- เผยรายชื่อ 10 ของเล่นอันตราย ประจำปี 2016
- งานวิจัยชี้! ดูดนิ้ว-กัดเล็บ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้น้อยลง
ขอบคุณภาพและข้อมุลจาก : ศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล (หมอแอน) เพจ ภูมิแพ้ก็แพ้เรา