AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ แพ้กลิ่นหรือควันอาหาร

แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ เป็นอีกหนึ่งเรื่องจริงจากคุณแม่เบ็ญที่เธอเขียนเล่าประสบการณ์การแพ้อาหารของลูกสาวตัวน้อย ที่สังเกตพบว่ามีอาการแพ้อาหารจากไมโครเวฟ!! เชื่อว่าทุกคนคงจะสงสัยเหมือนกันว่า คืออะไร?  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเรื่องราวจากคุณแม่เบ็ญ เพื่อเป็นความรู้กับทุกครอบครัวที่มีลูกแพ้อาหาร มาฝากกันค่ะ

 

แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ แพ้กลิ่นหรือควันอาหาร

แชร์ประสบการณ์เรื่อง แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ ของคุณแม่เบ็ญ ที่ผู้เขียนอยากให้หลายๆ ครอบครัวที่กำลังเจอกับปัญหาสุขภาพของลูกๆ ที่มีอาการแพ้อาหาร ได้อ่านกันค่ะ เพื่อจะได้ระวังในการเตรียมอาหารให้ลูกแพ้อาหารกันมากขึ้นค่ะ

แพ้อาหารผ่านไมโครเวฟ แพ้กลิ่นหรือควันอาหาร ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของคุณแม่เบ็ญ ซึ่งปัจจุบันนี้อายุ 2.9 ขวบแล้ว มีการแพ้นมวัว ไข่แดง ไข่ขาว ถั่วเหลือง เลซิติน กุ้ง ปลาหมึก แซลมอน

และนี่คือเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ ที่คุณแม่เบ็ญได้เขียนแชร์มาค่ะ

มี้เบ็ญเป็นคนทำอาหารไม่เก่ง และไม่ชอบทำอาหารเอามากๆ แต่ด้วยความที่ลูกแพ้อาหารเยอะมาก ทำให้ต้องทำกับข้าวให้ลูกทาน ซึ่งปกติก็จะทำครั้งมากๆ  แล้วแช่เก็บที่ช่องฟรีซ ทานได้ 3-7 วัน  ส่วนอาหารของมี้เบ็ญถ้าไม่ทานนอกบ้าน ก็ซื้อมาเก็บไว้แล้วใช้ไมโครเวฟอุ่นทาน ซึ่งเป็นไมโครเวฟเครื่องเดียวกันกับที่ใช้อุ่นอาหารให้ลูก

การแพ้อาหาร ถ้าร่างกายมีปฏิกิริยาที่ไวต่อสิ่งที่แพ้มากๆ (Sensitive) ก็จะมีอาการแพ้ต่อควัน ละออง กลิ่นด้วย ดังนั้นมี้เบ็ญจึงมีถาด และฝาครอบอาหาร 2 ชุด ใช้แยกกัน ไม่ใช้ร่วมกันกับของลูก แต่ยังใช้ไมโครเวฟเครื่องเดียวกัน ทุกครั้งที่ใช้ไมโครเวฟต้องตรวจดูให้ฝาครอบปิดแนบสนิทกับฝาถาด หากอาหารที่อุ่นมีกลิ่นค่อนข้างรุนแรง จะต้องเช็ดทำความสะอาด และเปิดไมโครเวฟทิ้งไว้ให้กลิ่นหายก่อนใช้อุ่นอาหารของลูก

อาการแพ้อาหารผ่านไมโครเวฟของลูกมักเป็นอาการที่เกิดในระยะเวลาที่สั้นแล้วหายจากอาการภายใน 1-2 วัน มักจะเกิดอาการหลังลูกทานอาหารทันที หรือ 1-3 ชั่วโมง จะมีอาการคัน หรือลมพิษตามร่างกาย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปว่าลูกแพ้อาหารที่ลูกกินทดสอบในตอนนั้น

แต่เมื่อเอาอาหารดังกล่าวไป Skin Test กลับไม่ขึ้นผลอะไร เป็นแบบนี้หลายครั้ง ทำให้มี้เบ็ญเครียด ที่หาสาเหตุอาการแพ้ไม่เจอ  จนกระทั่งวันหนึ่งพบว่าลูกมีลมพิษขึ้นที่มือ มีอาการคันและเกาตลอดเวลา ที่ยิ่งเกาตุ่มก็ยิ่งใหญ่ขึ้น จำนวนตุ่มเยอะขึ้น และลามมากขึ้น ลูกมีอาการหลังจากที่ทานอาหารไป 1 ชั่วโมง โดยทานอาหารบนห้อง และอยู่ในห้องมาโดยตลอดไม่ได้ออกไปไหน อาหารที่ลูกทานคือ ข้าว หมู ตำลึง เป็นอาหารที่เคยทานมานาน และทานมานานหลายครั้งแล้ว และทานมาตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ทานไม่เคยเกิดอาการแพ้ใดๆ และส่วนใหญ่มี้เบ็ญจะใช้เมนูนี้เป็นเมนูหลัก แล้วเพิ่มอาหารที่ต้องการทดสอบ

เวลาลูกเกิดอาการแพ้ในหัวจะแล่นเร็วจี๋ พยายามคิดหาสาเหตุว่ามีอะไรที่แปลกหรือต่างไปจากช่วงที่ไม่เกิดอาการแพ้ ลูกทานอาหารเมนูเดิมมาหลายวัน  แต่ครั้งนี้มี้เบ็ญได้อุ่นกะเพราก่อนจะอุ่นอาหารให้ลูก  ตลอดหลายวันที่ผ่านมามี้เบ็ญไม่ได้ใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหารให้ตัวเองเลย

อาการแพ้อาหารผ่านไมโครเวฟนี้ไม่เหมือนอาการแพ้อาหารครั้งอื่นๆ ลมพิษที่ขึ้นถ้าไม่เกาสักพักก็จะยุบหายไปเอง เหลือทิ้งไว้แต่ความสากๆ ซึ่งเคยให้คุณหมอภูมิแพ้ดู คุณหมอบอกว่าน่าจะที่เกิดจากความร้อน หรือการสัมผัสมากกว่าแพ้อาหาร แต่หลายวันที่ผ่านมาลูกก็อยู่แต่ในห้องห้องที่เปิดแอร์ตลอดเวลา ไม่มีเหงื่อสักหยด และคงไม่ได้สัมผัสอะไรแน่ๆ

 

บทความแนะนำ คลิก>> แพ้อาหาร ภัยเงียบที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

 

อาการแพ้อาหารผ่านไมโครเวฟมักจะเป็นๆ หายๆ ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน อาจเป็นเพราะมี้เบ็ญไม่ได้ใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหารของตัวเองทุกวัน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าลูกแพ้อาหารผ่านไมโครเวฟจริง  จึงทำการซื้อไมโครเวฟอีกเครื่องแยกการใช้งาน ใช้ไมโครเวฟกันคนละเครื่องไปเลย “ผลคือลูกไม่เกิดอาการแพ้อาหารแบบระยะสั้นอีกเลย”

ส่วนอาการแพ้อาหารที่ทานตรงของลูกสาวนั้นต่างจากการแพ้อาหารผ่านไมโครเวฟ  แพ้อาหารแบบทานตรงของลูกสาวจะเป็นแบบแสดงผลล่าช้า และเป็นอาการระยะยาวกว่าจะหาย

หากทานอาหารที่แพ้ทุกวันจะค่อยๆ ขึ้นผดตามข้อพับแขน คอ ข้อเท้า กินต่อเนื่อง ผดผื่นก็จะขยายพื้นที่ไปเรื่อยๆ ลูกสาวแพ้อาหารหลายชนิด ซึ่งบางชนิดอาการเหมือนกัน บางชนิดแสดงอาการต่างกัน เช่น บางชนิดจะไม่ขึ้นผื่นตามข้อพับ และผิวจะสากเป็นบริเวณกว้าง อาหารบางชนิดแพ้แล้วเกิดผิวสากที่ขา บางชนิดก็สากที่ลำตัว จุดร่วมที่เหมือนกัน คือ หากยังทานอาหารที่แพ้ ผดผื่นจะลามไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งตัวในที่สุด ถ้าหยุดกินจะหยุดลาม แต่ผิวไม่หาย ต้องค่อยๆ บำรุงกันยาวไปค่ะ

มีอาการแพ้นมวัวของลูกสาวที่ค่อนข้างรุนแรง และแปลกกว่าอาการแพ้อื่น ตรงที่จะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงหลังดื่มนมไป 3 ชั่วโมง เวลาเท่าเดิมทุกครั้ง แค่ดื่มบีทาเก้นท์นิดเดียวก็ปวดท้องหนักมาก อาการนั้นสวนทางกับผล skin test เพราะผลจากการทดสอบนั้นมีตุ่มขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เล็กกว่าตุ่มแพ้อาหารชนิดอื่นๆ

มี้เบ็ญอยากให้ระวังอาหารที่แพ้ผ่านทางอื่นด้วยค่ะ อย่างล่าสุดลูกสาวไปงานวันเกิดเพื่อน ลูกอยากทานเค้กแบบคนอื่นๆ ด้วยความสงสารลูกเลยให้ลูกเอาเค้กมาป้อนมี้เบ็ญแทน จะได้มีส่วนร่วมในงานบ้าง มือลูกจึงเลอะเค้ก มี้เบ็ญก็รีบพาไปล้างมือ แต่ไม่ทัน คุณลูกเอามือไปแปะหน้าเล่น(ไม่เข้าปาก) แค่นั้นแหละได้เรื่อง สักพักหน้าเห่อแดงขึ้นตุ่มจางๆ แพ้ไม่เยอะอาการไม่ลุกลาม รวมๆ 10-20 นาทีก็หายเหตุเกิดจากลูกแค่เอามือแปะหน้าไม่ถึง 10 วินาที

อ่านต่อ เทคนิคการเตรียมอาหารสำหรับลูกแพ้อาหาร หน้า 2 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

เทคนิคการเตรียมอาหารสำหรับลูกแพ้อาหาร ของคุณแม่เบ็ญ

มี้เบ็ญทำอาหารให้ลูกโดยใช้หม้อไฟฟ้า และใช้หม้อนี้ทำเฉพาะอาหารลูกเท่านั้น ไม่ใช้ทำอย่างอื่น เบ็ญเห็นว่าลูกค่อนข้างไวต่ออาหารที่แพ้มาก แม้จะไม่แพ้ร้ายแรงถึงขั้นหายใจไม่ออกก็ตาม จึงพยายามแยกทุกอย่าง จานชามช้อนส้อมแยกกันใช้ รวมไปถึงเวลาเก็บล้าง ไม่ล้างพร้อมกัน ไม่กองจานรวมกันจนอาหารหกใส่กัน แยกฟองน้ำล้างจานและแก้ว เบ็ญคิดว่าเวลาล้างจาน แม้จานจะสะอาดแล้ว แต่บางทีกลิ่นยังติดจาน โดยเฉพาะพวกจานชามพลาสติก กล่องเก็บอาหารทัพเพอร์แวร์ กลิ่นจะติดแน่นมาก

เบ็ญทำอาหารให้ลูกทีละเยอะๆ กินได้ 3-7 วัน แต่ส่วนใหญ่จะกินได้ประมาณ 5 วัน ทำเสร็จก็ใส่กล่อง lock&lock (ทัพเพอร์แวร์) แช่ช่องฟรีส แล้วใช้ไมโครเวฟอุ่น เป็นไมโครเวฟต่างหากอุ่นแค่อาหารลูกเฉพาะ เพื่อความสะดวกสบายในเวลาทั่วไปและเวลาเร่งรีบ เนื่องจากอาหารที่น้องแพ้เยอะมาก เช่น นมวัว นมข้าว ถั่วเหลือง เลซิติน(ไขมันถั่วเหลือง) และอาหารทะเล จึงเป็นไปแทบไม่ได้เลยที่จะกินอาหารในร้านอาหารทั่วไป แม้แต่ร้านอาหารตามสั่งก็ตาม เพราะโอกาสที่อาหารจะปนเปื้อนอาหารที่น้องแพ้สูง เดินเข้า 7-11 ก็ซื้อกินได้แค่ผลไม้ 😂

การกินข้าวนอกบ้านเป็นไปได้ยากมาก ดังนั้นหากต้องออกจากบ้านนานจึงต้องพกปิ่นโตส่วนตัวไปด้วยเสมอ หากจำเป็นต้องรีบออกจากบ้าน การอุ่นอาหารใส่ปิ่นโตจะเป็นอะไรที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะ

หากออกจากบ้านไปห้างสรรพสินค้า บางครั้งจะพาไปทาน MK โดยขอให้ใช้น้ำเปล่า/น้ำกรองต้มแทนน้ำซุป เพราะน้ำซุปใช้ผักกาดทำ แต่ก่อนลูกแพ้ผักกาดขาว ไม่ทราบว่าหายแพ้ผักหรือยัง แต่ยังแพ้อาหารอื่นๆอยู่นะคะ แล้วก็สั่งหมูชาบูมาต้ม(เป็นหมูที่ไม่หมัก) ต้มผักบุ้ง กินกับข้าวสวย

 

บทความแนะนำ คลิก>> 7 เมนูอาหารและขนม สำหรับเด็กแพ้อาหาร

จากเรื่องที่คุณแม่เบ็ญได้แชร์มานี้ ทำให้รู้เลยว่านอกจากจะต้องระวังในเรื่องเมนูอาหารที่ลูกเสี่ยงแพ้เดิมอยู่แล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับภาชนะ อุปกรณ์เตรียมอาหารทุกอย่างสำหรับเด็กแพ้อาหารอีกด้วย ผู้เขียนหวังว่าเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายๆ ครอบครัวที่มีลูกแพ้อาหารกัน คือจากเดิมที่พ่อแม่ดูแลลูกดีอยู่แล้ว ก็จะได้เพิ่มทั้งความใส่ใจ และการระมัดระวังในการเตรียมอาหารให้ลูกมากขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยค่ะ

อ่านต่อ ความรุนแรงจากการแพ้อาหาร หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อาการแพ้อาหารรุนแรงแค่ไหน?

สำหรับอีกหลายๆ ครอบครัวที่ไม่แน่ใจว่าลูกเรามีอาการแพ้อาหารอยู่ด้วยหรือไม่ ผู้เขียนมีปฏิกิริยาจากการแพ้อาหารมาให้ทราบกันค่ะ ซึ่งเป็นข้อมูลจาก รองศาสตราจารย์ วิมล ศรีศุข ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายอาการแพ้อาหาร (Food allergy) ที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่น้อย ปานกลาง จนถึงรุนแรง อาการที่รุนแรงที่สุด คือ เกิดปฏิกริยาเฉียบพลันต่อระบบของอวัยวะในร่างกายที่สำคัญตั้งแต่ 2 ระบบขึ้นไป ซึ่งมีผลถึงตายได้ อาการที่เกิดจากปฏิกริยาการแพ้อาหารมีดังนี้

อวัยวะ/บริเวณของร่างกาย

ผิวหนัง จะมีอาการคัน ผื่นแดง ผื่นลมพิษ ผิวหนังบวม

ตา จะมีอาการคัน น้ำตาไหล ตาแดง อาการบวมรอบตา

ทางเดินหายใจส่วนบน จะมีอาการคัน แน่นจมูก น้ำมูกไหล จาม เสียงแหบ กล่องเสียงบวม

ทางเดินหายใจส่วนล่าง จะมีอาการไอ เสียงหวีดในลำคอ หายใจไม่ออก แน่นหรือเจ็บหน้าอก

ทางเดินอาหาร จะมีอาการคันในช่องปาก อาการบวมของริมฝีปาก ลิ้น หรือ เพดานปาก คันหรือแน่นในคอ ปวดท้องเรื้อรัง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย

หัวใจและหลอดเลือด จะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว มึนงง สลบหรือเป็นลม ความดันโลหิตต่ำ[1]

จากเรื่องราวที่นำเสนอครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกแพ้อาหาร ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ลูกจะได้ไม่ทรมานกับอาการที่เกิดขึ้นจากการแพ้อาหารค่ะ และหากได้รับการดูแลจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มแรก ก็จะสามารถบรรเทาอาการจนหายขาดได้ แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี ที่ภูมิคุ้มกันลูกแข็งแรงขึ้น ลูกก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และรวมถึงพัฒนาการของลูกก็จะดีขึ้นในทุกๆ ด้านด้วยเช่นกัน …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

ข้อสรุปสำหรับพ่อแม่ เรื่องการแพ้อาหารในเด็ก
อาหารแม่ท้องและให้นมลูก กินอย่างไร? ไม่ให้ลูกแพ้อาหาร

 


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
1รองศาสตราจารย์ วิมล ศรีศุข ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. การแพ้อาหารในเด็ก. www.pharmacy.mahidol.ac.th
แชร์ประสบการณ์เรื่องจาก คุณแม่เบ็ญ