ก้างปลาติดคอลูก …ปัญหานี้เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่มีคุณพ่อคุณแม่หลายคน ที่ไม่รู้วิธีแก้ หรือมักใช้วิธีแก้ปัญหาก้างปลาติดคอลูก แบบผิดๆ
ปลา ถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกหาซื้อปลามาทำเป็นเมนูต่างๆ เพื่อให้ลูกน้อยทาน ไม่ว่าจะนำไปตุ๋น ต้ม นึ่ง หรือทอด แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเวลารับประทานปลาก็คือ ก้างชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ที่ต้องคอยสังเกตดี ๆ เพราะถ้าเผลอกินเข้าไป หากเคี้ยวละเอียดก็อาจจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าโชคร้าย เจอก้างปลาชิ้นใหญ่ อาจทำให้ติดคอจนรู้สึกเจ็บได้ กลืนน้ำลายก็ลำบาก อยากจะเอาออกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และยิ่งถ้าเป็นเด็กน้อยซึ่งก็คงได้แต่ร้องไห้งอแง หน้าดำหน้าแดง พูดบอกคุณแม่ไม่รู้เรื่อง จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก Amarin Baby & Kids จึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีแก้ก้างปลาติดคอ จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ มาฝากค่ะ
⇒ Must read : 10 ปลาไทย โอเมก้า 3 สูง! บำรุงสมองสดใส หัวใจแข็งแรง
⇒ Must read : ปลาที่แม่ไม่ควรกิน (และทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า)
ไขข้อสงสัย ก้างปลาติดคอลูก แก้ได้ด้วยน้ำมะนาวจริงหรือ?
วิธีเอาก้างปลาที่ติดอยู่ในคอออกอย่างผิดๆ
ก้างปลาติดคอฟังดูอาจเป็นเรื่องไม่น่าตกใจ แต่ถ้าก้างนั้นติดอยู่ในหลอดอาหารและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจมีโรคแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารทะลุ มีหนองลามเข้าไปในช่องอกและเยื่อหุ้มหัวใจ อาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากมีก้างปลาติดคอ
จากข้อมูลของศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ระบุว่า ส่วนใหญ่แล้วก้างปลามักติดคออยู่บริเวณใกล้ต่อมทอนซิล เพดานอ่อน โคนลิ้น ฝาปิดกล่องเสียง และในหลอดอาหาร เราจะมีอาการเจ็บบริเวณที่มีก้างตำ ยิ่งกลืนยิ่งเจ็บ และหากมีก้างติดอยู่นานหลายวัน อาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนอง และมีไข้ตามมาได้ บางรายอาจพบเลือดปนออกมากับน้ำลายได้ด้วย หากยิ่งปล่อยไว้นาน อาจมีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น หลอดอาหารทะลุ มีหนองลามเข้าไปในช่องอก หรือเยื่อหุ้มหัวใจ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ซึ่งอาการเมื่อก้างปลาติดคอ เบื้องต้นแล้วพ่อแม่หลายคนคิดว่าสามารถเอาออกเองได้ง่าย บางคนก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร? หรือจะปฏิบัติตามข้อมูลข่าวในโลกโซเชียล ที่มีมาแชร์โพสต์ให้เห็นอยู่มากมาย เช่น ให้ใช้น้ำมะนาวสดๆ บีบใส่ในคอสัก 1 ผล หรือกลืนข้าวเหนียวคำใหญ่ ๆ โดยไม่ต้องเคี้ยว เพื่อให้ก้างหลุดไปพร้อมข้าวเหนียว หรือแม้กระทั่งเอาอุ้งเท้าแมวมาเขี่ยที่ผิวหนังบริเวณลำคอ เนื่องจากแมวชอบกินปลา แล้ววิธีที่กล่าวมาจะช่วยได้จริงหรือ!?
ดังนั้น Amarin Baby & Kids จึงขอพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านไปไขความลับกับรายการ ชัวร์นะแม่ อย่าแชร์มั่ว ทางช่อง 34 AMARIN TVHD ตอน มะนาวแก้ก้างปลาติดคอได้หรอ? โดยมี นายแพทย์ ณัฐสิทธิ์ อุดมศิริ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน โสต ศอ นาสิก รพ.พญาไทนวมินทร์ มาให้คำตอบเรื่องนี้ อย่างกระจ่างชัดเจน เลยทีเดียว
ชมคลิป >> ชัวร์นะแม่ อย่าแชร์มั่ว : มะนาวแก้ก้างปลาติดคอได้หรอ? คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ชัวร์นะแม่ อย่าแชร์มั่ว : มะนาวแก้ก้างปลาติดคอได้หรอ?
ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : AMARIN TVHD
เพราะก้างปลาเป็นกระดูกแข็งที่มีปลายแหลม มีส่วนประกอบหลักอย่าง แคลเซียม ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายได้ด้วยกรดอ่อน หรือน้ำอุ่น ในระยะเวลาอันสั้นแค่นั้นได้
การกินอาหารเข้าไปยิ่งทำให้เกิดแผลได้ ทางที่ดีควรจะพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล พบว่าก้างปลาติดอยู่ที่ลำคอลูกจริงๆ ลักษณะเป็นตัว S ติดอยู่ลึกมากทำให้มีอาการอักเสบและได้รับการรักษาจนก้างปลาหลุดออกในที่สุด
และไม่ควรกินอะไรตามลงไป เพราะก้างปลาที่ติดอยู่จะไหลเข้าไปลึกกว่าเดิม ทำให้เวลาเอาก้างปลาออกจะทำได้ยาก และจะทำให้ไปโดนกับอวัยวะส่วนอื่นๆได้ และเกิดอาการอักเสบ เกิดฝี และอาจจะเป็นหนองและอันตรายต่อชีวิตมาก ดังนั้นหากพบว่าลูกน้อยหรือตัวเองมีอาการก้างปลาติดคอ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ที่รู้สึกมีอาการ
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีก้างปลาติดคอลูก หรือมีอะไรลงไปติดคอลูก
โดยมากแล้วเด็กไม่อยู่ในฐานะที่จะบอกเราได้ ไม่ว่าเนื่องจากเด็กยังเล็กเกินกว่าที่จะสื่อความหมายให้ผู้ใหญ่เข้าใจได้ หรือในกรณีส่วนใหญ่ การที่มีสิ่งแปลกปลอมลงไปอุดหลอดลมอยู่ ทำให้หมดความสามารถในการพูดไปโดยสิ้นเชิง ประกอบกับเด็กเองก็อยู่ในสภาพตื่นตกใจ
ดังนั้น คุณแม่จึงต้องเดาเอาจากอาการที่เด็กแสดงออก ได้แก่ อาการไอ หายใจไม่ออก หายใจเสียงดังฮึ๊ดๆ เหมือนคนเป็นหืด บางครั้งพูดไม่มีเสียงออกมาเลย หรือพูดได้ลำบาก เมื่อรวมกับประวัติการกิน อมของไว้ในปาก หรือสำลักก่อนจะเกิดอาการส่อแสดงว่าน่าจะมีของหลุดเข้าไปในทางเดินหายใจ และติดอยู่ที่ส่วนต้นๆซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จำเป็นที่จะต้องรีบให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
♥ บทความแนะนำคุณแม่ : ช่วยลูกสำลัก อาหารติดคอกรณีหมดสติ easy baby & kids
♥ บทความแนะนำคุณแม่ : ช่วยลูกอาหารติดคอ สำลัก เมื่อไม่หมดสติeasy baby & kids
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีการช่วยเหลือเมื่อก้างปลาติดคอ
1.สังเกตดูว่าก้างปลาติดอยู่บริเวณไหน
ให้อ้าปากกว้างๆส่องไฟฉายดูว่าเศษก้างปลาติดอยู่ส่วนไหน หากว่ามองเห็นว่าติดอยู่ตรงส่วนไหนให้ใช้ตะเกียบหรือคีมคีบออกมา แต่ถ้ามองไม่เห็นแนะนำให้ส่งไปโรงพยาบาลทันที ให้แพทย์เป็นคนคีบออกให้ดีกว่า
2.หากว่าก้างปลาเป็นเศษเล็กๆ
ล้างมือให้สะอาดแล้วกดที่โคนลิ้นหรือล้วงคอด้านในให้อาเจียนออกมา เศษก้างปลาจะได้ออกมากับอาเจียนนั้น
3.หากเป็นก้างปลาชิ้นใหญ่
อันนี้สำคัญมาก ถ้าเป็นก้างปลาที่มีขนาดใหญ่ไม่ควรทานอะไรลงไป และห้ามให้อาเจียนออกมา ควรรีบพาหาหมอให้ทันที เพราะถ้าคีบออกเองให้อาเจียนออกมาจะทำให้เป็นแผลอักเสบได้
อ่านต่อ >> “สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อก้างปลาติดคอลูก” คลิกหน้า 3
คลิกเลย! บทความแนะนำน่าอ่าน
- คลิปนาทีชีวิต!! เด็กหนุ่มสำลักอาหารเกือบเสียชีวิต โชคดีเพื่อนใช้วิธีเฮมลิก แมนูเวอร์ ช่วยไว้ทัน
- อุทาหรณ์ เยลลี่ติดคอลูกสาวจนตาเหลือก
- ลูกไม่ยอมเคี้ยว กลืนจนอาหารติดคอ จะแก้ไขอย่างไร?
การให้แพทย์หู คอ จมูก ช่วยเหลือ แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เป็นกล้องตรวจพิเศษแบบหักมุม ที่จะช่วยทำให้เห็นก้างปลาที่ติดอยู่ในลำคอได้อย่างชัดเจน และง่ายขึ้นมาก
ถ้าบริเวณที่ก้างปลาติดอยู่เหนือกล่องเสียง และลูกกระเดือก แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีความโค้งงอหลากหลายมุมคีบออกมาได้ แต่ถ้าก้างปลาติดบริเวณที่ต่ำกว่าลูกกระเดือก แพทย์อาจต้องใช้วิธีเอกซเรย์ และผ่าตัดเข้ามาช่วย
♦ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อก้างปลาติดคอ
เมื่อก้างติดคอ หลาย ๆ คนก็พยายามที่จะทำทุกวิถีทางให้ก้างหลุดออกมา จนอาจจะทำผิดวิธี และพาลทำให้อาการหนักกว่าเดิม และจะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น ดังนั้นถ้าหากรู้ตัวว่าก้างปลาติดคอ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำเหล่านี้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงการไอ หรือการยืดคอ เพราะอาจจะทำให้ก้างปลาที่ติดอยู่ในคอหลุดลงไปในหลอดอาหารและเป็นอันตรายกับหลอดอาหารได้
- ห้ามนำสิ่งของแหย่ลงไปในคอเพื่อเขี่ยก้างปลาออก เพราะอาจจะทำให้สิ่งของเหล่านั้นหลุดลงไปในคอและยิ่งเป็นอันตรายกว่าเดิม
- เลี่ยงการนวดหรือบีบบริเวณคอด้านนอก เพราะนั้นอาจจะยิ่งทำให้ก้างปลาทิ่มเข้าไปในคอลึกขึ้น และไม่สามารถนำออกมาได้ อีกทั้งยังอาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าเดิมด้วย
- อย่าปล่อยให้ก้างติดคอนานเกินไป เพราะยิ่งติดนานเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้น หากวิธีแก้ก้างปลาติดคอในข้างต้นไม่สามารถช่วยได้ละก็ ควรไปพบแพทย์จะดีกว่าค่ะ
- หากพบว่าเจ้าตัวเล็กหายใจติดขัด หรือหายใจลำบาก ควรรีบพาไปพบคุณหมอทันที ไม่ควรชักช้า หรือปฐมพยาบาลเอง
- หากคอเกิดอาการบวมและเริ่มหายใจลำบาก ควรหยุดนำก้างปลาออกด้วยตนเอง และไปพบแพทย์โดยด่วน
เชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้เกิดเหตุการณ์เล็กน้อยที่แสนเลวร้ายกับลูกเป็นแน่ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นจริงๆแล้วละก็ คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงหลักดังนี้ค่ะ
- ต้องมีสติ อย่าตื่นตระหนก ตกใจ จะทำให้คิดอะไรไม่ออก
- ควรจะต้อง ศึกษาวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีต่างๆ ไว้บ้าง จะได้แก้ไขทัน
- อย่าไว้ใจเด็กเด็ดขาด โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งทานอาหารเองได้
- อย่าประมาท อย่าปล่อยให้เด็กกินอะไรคนเดียว โดยไม่มีใครดูแล
- อย่าให้เด็กเล่นไปกินไป อย่ากระตุ้นให้เด็กออกเสียงต่างๆระหว่างกิน เช่น เฮ เย้ๆ อร่อยยยยย ควรรอให้กิน ให้กลืนให้เรียบร้อยก่อนนะคะ
นอกจากก้างปลาติดคอลูก แล้ว ปัจจุบันยังพบ “ลวดเย็บกกระดาษ” ติดอยู่ในลำคอมากขึ้นด้วย ดังนั้นนอกจากจะต้องทานปลาอย่างระมัดระวังแล้ว ก่อนรับประทานอาหาร ควรระมักระวังลวดเย็บกระดาษที่อาจติดมากับบรรจุภัณฑ์ของอาหารด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- วิธีช่วยชีวิตลูก สิ่งแปลกปลอมติดคอ สำลักอาหาร (มีคลิป)
- ถ่านกระดุมติดคอลูกน้อย เสี่ยงหลอดอาหารทะลุ
- การทดลองเมื่อถ่านกระดุมติดคอเด็ก
- พ่อแม่ต้องรู้ 9 ข้อห้ามทำ เมื่อลูกเจ็บป่วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : health.sanook.com , health.kapook.com , www.bangkokhealth.com