AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เตือนแม่! ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีนผิดวิธี เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง

การ ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากคุณแม่ดูแลผิดวิธี หรือไม่ทำตามที่คุณหมอแนะนำ อาจทำให้อาการหรือรอยแผลจากการฉีดวัคซีนของลูกร้ายแรงถึงขั้นติดเชื้อได้

เช่นเดียวกับกรณีดังภาพนี้นี้เป็นเคสต่างประเทศ ซึ่งหนูน้อยไปรับวัคซีนมา แต่มีบางประเทศที่มีวิธีดูแลลูกหลังฉีดวัคซีนแบบแปลกๆ โดยการใช้ผ้าพันที่ขา บริเวณที่ถูกฉีด แล้วเทเหล้าขาวให้ชุ่ม ทิ้งไว้แบบนั้นหลายวันกว่าจะมาพบแพทย์ ทำให้ติดเชื้อกลายเป็นแผลใหญ่ ดังภาพที่เห็นข้างบน ⇑

ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน ผิดวิธี!! เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง

อย่างไรก็ดีการส่งเสริมสุขภาพลูกน้อยเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆ อันอาจกระทบกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อย รวมถึงกระทบสภาพจิตใจของทั้งลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่เอง หนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพคือการรับวัคซีนของลูกน้อย ซึ่งจัดว่าเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ง่าย ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ลูกน้อยจะได้รับวัคซีนหลายชนิดตั้งแต่แรกคลอดจนโต

วัคซีนจัดเป็นยาชนิดหนึ่ง ซึ่งการรับวัคซีนย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือเกิดการแพ้ได้เช่นเดียวกับยาทั่วไป หากแต่ผลข้างเคียงนี้นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอันตรายและความรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

ดังนั้นเราจึงมีผลข้างเคียงของวัคซีนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางเบื้องต้นในการ ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน มาฝากคุณพ่อคุณแม่

ชนิดและผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากได้รับวัคซีนมี ดังนี้ (เฉพาะวัคซีนที่ใช้บ่อย)

วัคซีนวัณโรค BCG ให้ตั้งแต่แรกเกิด  ฉีดชั้นใต้ผิวหนังที่ตำแหน่งหัวไหล่หรือสะโพก

วัคซีนตับอักเสบบี HBV (HepatitisB)  ให้ครั้งแรกตอนแรกเกิด จากนั้นให้ที่อายุ 1-2 เดือน และ 6 เดือน

วัคซีนโปลิโอ เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด

 

อ่านต่อ >> ชนิดและผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากได้รับวัคซีน” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

วัคซีนคอตีบไอกรนบาดทะยัก DTP (Diphtheria, Pertussis, Tetanus) เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด

*ผลข้างเคียง ชนิดเต็มเซลล์ จะพบมากกว่า ชนิดไร้เซลล์  ทั้งเรื่องไข้ ปวดบวม ฝีปราศจากเชื้อบริเวณที่ฉีด และอาเจียน

*ผลข้างเคียงที่รุนแรงของชนิดเต็มเซลล์ คือ ชักภายใน 3 วัน ร้องกวน  ไม่หยุดมากกว่า 3 ชั่วโมง ภายใน 2 วัน  ตัวอ่อนปวกเปียก ภายใน 2 วัน ไข้มากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส และแพ้วัคซีนทั้งแบบรุนแรงเฉียบบพลัน หรือแพ้ชนิดบวมแดงเฉพาะที่อย่างมาก ควรเปลี่ยนมาใช้ชนิดไร้เซลล์แทน

วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ Hib (Haemophilus influenzae B) มักผสมรวมกับวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก

วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม MMR (Measles, Mumps, Rubella)

เริ่มฉีดเข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือน เข็มกระตุ้นนั้นอาจมีเปลี่ยนตามอุบัติการณ์ของโรคในประเทศไทย ในปีพ.ศ.2557 ทางอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้ปรับอายุที่กระตุ้นเป็น 2ปีครึ่ง ถ้าฉีดเข็มแรกที่อายุ 9 เดือน หากเข็มแรกให้อายุ 12 เดือนก็กระตุ้นที่อายุ 4-6 ปี

วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี JEV (Japanese encephalitis virus)

มี 2 ชนิด คือ แบบเชื้อตาย ซึ่งเพาะเลี้ยงใน  สมองหนู ฉีด 3 ครั้งช่วงอายุ 1-2ปี ทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแนะนำให้กระตุ้นอีก 1 เข็มที่อายุ 4-5 ปี อีกชนิด คือ แบบเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ให้เข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือนขึ้นไป และกระตุ้นหลังจากนั้นอีก 3-12 เดือน

วัคซีนตับอักเสบเอ HAV (HepatitisA) ฉีดอายุ 1 -2 ปีขึ้นไป 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน

วัคซีนอีสุกอีใส ฉีดอายุ 1 ปีขึ้นไป

กระตุ้นเข็ม 2 ที่อายุ 4-6 ปี กรณีที่มีการระบาดอาจฉีดเข็ม 2 ก่อนได้โดยอายุน้อยกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 3 เดือน ถ้าอายุมากกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ Influenza เริ่มฉีดที่อายุ 6 เดือนขึ้นไป

ฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เฉพาะอายุ ต่ำกว่า     9 ปี ในปีแรกให้ 2 เข็มในห่างกัน1เดือน

วัคซีนโรต้า Rotavirus ใช้หยอดทางปาก เริ่มที่อายุ 2 เดือน

วัคซีนนิวโมคอคคัส Pneumococcus ฉีดที่อายุ 2 เดือนขึ้นไป

อ่านต่อ >> ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน ที่ถูกต้อง” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน ที่ถูกต้อง!

1. ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง

2. ไม่ควรรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูง หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน การเป็นหวัด ท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนได้

3.หลังรับวัคซีนควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย10นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยาแบบเฉียบพลัน เช่น ผื่นขึ้น หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หมดสติเป็นต้น

4. หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะปวดเมื่อย สามารถทานยาลดไข้แก้ปวดพาราเซ็ตตามอลได้ ถ้าไม่แพ้ยา

5. หากมีอาการปวด บวม ภายใน 24ชั่วโมงแรก ให้ใช้ผ้าเย็นประคบ เพื่อลดเลือดไหลเวียนมาบริเวณนั้น อาการบวมจะลดลง

6. หากมีอาการบวมแดง ต้องประเมินว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ถ้าเป็นฝีควรปฏิบัติ ดังนี้

7. หลังรับวัคซีนโดยเฉพาะเด็กโตอาจมีอาการหน้ามืดเป็นลม ให้นั่งนิ่งๆ อยู่กับที่หรือนอนราบอย่างน้อย 15 นาทีหรือจนอาการดีขึ้น

8. หากไม่สามารถมาตามนัดที่ฉีดได้ สามารถเลื่อนออกได้ (แนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์)

9. หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยา หรือมีอาการแพ้ไข่หรือไก่แบบรุนแรง กรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบด้วย

อย่างไรก็ดีการ ดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน คือพ่อแม่ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหลังจากลูกน้อยได้รับวัคซีน และเตรียมพร้อมข้อมูลด้วยวิธีที่แนะนำข้างต้น ก็เชื่อว่าคงจะเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือกับอาการข้างเคียงด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลใจ

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล : คู่มือวัคซีน ของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ปี 2013-2014, หนังสือการประชุมใหญ่ประจำปี 2557 ของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และข้อมูล BCGจาก สถานเสาวภา สภากาชาดไทย www.thonburi2hospital.com