มีข่าวด่วนที่น่าเป็นห่วงมาบอกค่ะ!! ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาการระบาดของโรค ๆ หนึ่งในเด็ก ซึ่งก็คือการติด เชื้อ Enterovirus D68 โรคที่เป็นแล้วจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงเหมือนเป็นโปลิโอ และที่สำคัญ ยังไม่มีวิธีรักษา!! ติดต่อกันได้ง่าย!! และขณะนี้การระบาดได้แพร่มาถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว!! ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ควรระวังกันไว้
ระบาดที่ญี่ปุ่น! เชื้อ Enterovirus D68 เป็นแล้วอ่อนแรงคล้ายโปลิโอ
ตามที่เพจจ่า Drama-Addict ได้แชร์ข่าวจากคุณ Rujirat Gift Arthy เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของ เชื้อ Enterovirus D68 ในประเทศญี่ปุ่น ไว้ดังนี้
วันนี้ (6 พ.ย.) มีข่าวเตือนเรื่องอาการชา/อ่อนแรงตามมือเท้าในเด็กว่า “อาจ” เกิดจากเชื้อเอ็นเทอโรไวรัสD-68 โดยเด็กจะมีอาการคล้ายหวัด แต่มักมีอาการชา (อัมพาต/ กล้ามเนื้ออ่อนแรง) ตามมือเท้าร่วมด้วย ถ้าบุตรหลานท่านไหนมีอาการหวัด + ชาตามมือเท้าควรรีบพาไปพบแพทย์นะคะ News warning about Enterovirus D-68 may cause paralysis of hand & foot in kids (after reports of paralysis symptoms in kids increased last month) 子どもの手足にまひ、増加 風邪に似た症状、注意必要
เมื่อสัปดาห์ 22-28 ตุลาที่ผ่านมา มีรายงานอาการชาตามมือเท้าเข้ามา 9 ราย // หลังมีรายงานมาแล้ว 10 รายเมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านั้น // รวมแล้ว 86 รายตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แบ่งเป็น เฮียวโกะ กิฟุ (8 ราย) โตเกียว ไอจิ (6 ราย) ฟุกุโอกะ (5 ราย) ไซตามะ ชิบะ คานากาว่า โอซาก้า (4 ราย)
兵庫、岐阜で8例、東京、愛知で6例、福岡5例、埼玉、千葉、神奈川、大阪で4例と続く。🔴เนื่องจากตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการตรวจเชื้อ จึงยังไม่แน่ชัดว่าทุกรายใช่เชื้อเอ็นเทอโรไวรัส D-68 หรือไม่ แต่บางส่วนใช่
🏥รักษาได้ตามอาการเท่านั้น ไม่มีวัคซีน ติดต่อทางการสัมผัสกับไอหรือจามของผู้ป่วย ล้างมือ/กลั้วคอช่วยลดความเสี่ยงได้
“ส่วนใหญ่แล้ว อาการป่วยจะคล้ายๆ กับอาการหวัดหรือเป็นไข้ แต่ในเด็กนั้นจะมีปัญหาในการหายใจและอาจมีอาการเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น หน้าเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเป็นอัมพาต ซึ่งเรื่องนี้ทำให้แพทย์แปลกใจมากที่พบว่า เชื้อ Enterovirus D68 มีส่วนที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวเพราะไม่เคยมีมาก่อน”
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ เชื้อ Enterovirus D68 คืออะไร? มีอาการอย่างไร? ป้องกันได้อย่างไร?
เชื้อ Enterovirus D68 คืออะไร?
เอนเทอโรไวรัส (enterovirus) คือเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดติดเชื้อและทำให้หลายสิบล้านคนต้องเจ็บป่วยในทุก ๆ ปี โดยปกติแล้วการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสจะทำให้เป็นหวัดหรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ในปี ค.ศ. 2014 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประสบปัญหาการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ เชื้อ Enterovirus D68 (non-polio enterovirus) ทำให้เด็กหลายคนมีอาการหอบและหายใจลำบาก บางส่วนยังมีอาการทางระบบประสาท ได้แก่ อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นอัมพาต แต่ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าเชื้อ EV-D68 เป็นสาเหตุของอาการดังกล่าว และในช่วงปลายเดือนตุลาคม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้ทำการยืนยันแล้วว่า มีคนติดเชื้อ EV-D68 มากกว่า 900 เคส รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 7 ราย โรคนี้จึงเป็นโรคที่กำลังถูกเฝ้าระวังในสหรัฐอเมริกา
เมื่อลูกติดเชื้อ EV-D68 แล้วจะมีอาการอย่างไร?
เด็กแต่ละคนจะแสดงอาการต่างกันออกไป สามารถมีอาการทั่วไปและรุนแรง ดังนี้
อาการป่วยทั่วไป
อาการป่วยขั้นรุนแรง
- หายใจมีเสียงฮึด เสียงวี๊ด
- หายใจลำบาก
หากลูกมีอาการหายใจลำบาก หรืออาการอื่น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
EV-D68 ติดต่อกันได้อย่างไร?
เนื่องจากเชื้อไวรัสตัวนี้เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจ จึงมักจะพบเชื้อไวรัสนี้ในน้ำลาย น้ำมูก และเสมหะ ของผู้ป่วย ดังนั้นเชื้อไวรัสจึงสามารถแพร่กระจายสู่คนอื่นได้โดยการ ไอ จาม ทางอากาศ ผ่านการสัมผัส เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้ติดต่อกันได้ง่าย จึงทำให้โรคนี้แพร่กระจายและระบาดได้เป็นวงกว้างนั่นเอง
ใครบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อ EV-D68?
ทารก เด็กเล็ก และวัยรุ่น เป็นกลุ่มที่มักจะพบการติดเชื้อ EV-D68 ได้มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากการสร้างระบบภูมิคุ้มกันยังไม่ดีพอ นอกจากนี้เมื่อกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ติดเชื้อ EV-D68 จะแสดงอาการได้รุนแรงกว่าผู้ใหญ่ โดยหากผู้ใหญ่ติดเชื้อนี้อาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ เลย หรือมีอาการคล้ายหวัดเพียงเล็กน้อย
และสำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด หากติดเชื้อไวรัสตัวนี้ จะมีอาการรุนแรงกว่าเด็กทั่วไป จึงควรต้องระวังเป็นพิเศษ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ วิธีรักษาและการป้องกันการติดเชื้อ EV-D68
วิธีรักษา
ข่าวร้ายคือ ยังไม่มีวิธีรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ EV-D68 เลยค่ะ สิ่งที่ทำได้คือการรักษาตามอาการและคอยกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูระบบประสาท และขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อ EV-D68
วิธีป้องกันการติด เชื้อ Enterovirus D68
เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้ติดต่อกันได้ผ่านทางอากาศ การไอ และการจาม ดังนั้น เราสามารถป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ อย่างน้อย 20 วินาที
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา จมูก และ ปาก หากยังไม่ได้ล้างมือ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย และไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย
- ควรใช้ทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าปิดทุกครั้งเมื่อต้องการไอหรือจาม
ข่าวดีสำหรับตอนนี้คือ ยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่วางแผนจะพาลูก ๆ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ควรระมัดระวังกันให้ดีนะคะ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
สธ. เตือน “หัดเยอรมัน” ระบาดในญี่ปุ่น คนท้องควรหลีกเลี่ยง
18 ลักษณะลิ้นบอกโรค เพียงแค่ดูลิ้นลูก ก็รู้ได้ว่าป่วยหรือไม่?
ระวังลูกป่วยแน่! 6 โรคฮิตปลายฝนต้นหนาว
ข้อมูลอ้างอิงจาก : honestdocs.co, Center for Diseases Control and Prevention (CDC)
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่