ไข่ เป็นอาหารที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังมีคุณค่าทางสารอาหารอย่างมหาศาล นอกจากราคาที่ถูกแล้ว ยังสามารถนำมาปรุงได้หลายเมนูอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่ามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ แพ้ไข่ ขั้นรุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งเพียงแค่ทานหรือสัมผัส ก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
แม่แชร์! ลูก “แพ้ไข่” ขั้นรุนแรงเฉียบพลัน ไม่ระวังอาจเสียชีวิตได้
ไข่ฟองเดียวก็แพ้ได้ เพียงแค่สัมผัส!
ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอนำประสบการณ์ของคุณแม่ Aum Suttisinee Bunsaringkharnnan ที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ลูกแพ้ไข่ขั้นรุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งคุณแม่ได้ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าลูกแพ้ไข่ จึงได้คอยระมัดระวังเป็นอย่างดี ที่จะไม่ให้ลูกทานไข่ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น โดยลูกได้นำไข่ดิบที่วางไว้อยู่ในบ้านมาเล่นแล้วเผลอบีบจนไข่แตกเปื้อนมือและขา หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ลูกก็มีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว นัยน์ตาแดง เสียงแหบ จนคุณแม่ตกใจและตั้งสติปฐมพยาบาลลูกจนอาการดีขึ้น โดยมีเหตุการณ์โดยละเอียด ดังนี้
แชร์ประสบการณ์ลูกรักของแม่แพ้ไข่เฉียบพลันรุนแรง…
เอนจิ้นเป็นเด็กภูมิแพ้ขั้นหนัก แม่พาไปเทสเจาะผลเลือดเมื่ออายุ4เดือน จึงทราบว่าแพ้ไข่ขาว Level สูง อาการจะนอนหายใจครืดคราด ผื่นสากๆตามหน้าและข้อพับ ฉะนั้นการให้ลูกกินนมแม่ล้วน แม่ก็ต้องงดไข่ไปด้วยเพราะคุณหมอบอกว่า ลูกจะรับโปรตีนไข่ผ่านน้ำนมของแม่… จึงตั้งใจงดสิ่งที่หมอเตือนมาตลอด เลี่ยงไข่และอาหารทุกชนิดที่มีส่วนผสมของไข่ ของโปรดแม่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นของหวาน เบเกอรี่ พุดดิ้ง ทาร์ตไข่ ขนมปัง สังขยา ทองหยอด บะหมี่เกี๊ยว ฯลฯ อดหมด อยากกินแค่ไหนต้องอดทน เพราะกลัวจะผ่านนมไปสู่ลูก…
จนเมื่อเอนจิ้นอายุขวบครึ่ง เทสอีกรอบแบบเจาะจง จึงทราบเพิ่มเติมว่า แพ้ไข่ขาว ไข่แดง และไรฝุ่น ทั้งหมด Level สูง การทำอาหารให้ลูกจำเป็นต้องเลี่ยงไข่มาโดยตลอด เพราะหากไม่งดจริงจัง ค่อยๆรับไข่ทีละเล็กน้อยจะกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้และไม่หายซักที…
ปัจจุบัน ลูก2ขวบครึ่งแล้ว วันนี้ด้วยความที่ลูกนิสัยซุกซนก็วิ่งไปคว้าไข่ดิบ1ฟองแล้วบีบจนแตก เปื้อนมือแขน ขา ปรากฏว่า ลูกร้องวี๊ดลั่น เกา คัน ผื่นขึ้นเต็มตัวแบบภายใน2-3วินาที เต็มไปหมด เสียงแหบ นัยตาแดงมาก แม่ตกใจมาก รีบจับไปอาบน้ำฟอกสบู่ทันที ให้ยาแก้แพ้ ทายาคาลาไมล์ เอาจริงๆงงหนักเพราะแค่สัมผัส ไม่ได้กินเข้าไป แล้วก็จับไข่แค่ฟองเดียวก็เป็นหนักขนาดนี้…
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ แม่แชร์! ลูก “แพ้ไข่” ขั้นรุนแรงเฉียบพลัน ไม่ระวังอาจเสียชีวิตได้
แม่แชร์! ลูก “แพ้ไข่” ขั้นรุนแรงเฉียบพลัน ไม่ระวังอาจเสียชีวิตได้
อาการภูมิแพ้แบบรุนแรงเฉียบพลันนั้นเป็นเรื่องใหญ่นะคะ เพราะหากเกิดขึ้นแล้วมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก ในบางรายหากแพ้มากหรือรับสารที่ทำให้แพ้ในปริมาณมากจะทำให้หมดสติ หลอดลมตีบ หายใจไม่ออก เพราะฉะนั้นถ้าเด็กหรือมีผู้ที่เค้าบอกว่าแพ้สิ่งใด กรุณาอย่าไปแกล้ง เช่นเอาไปใกล้ๆเอาไปป้ายเนื้อป้ายตัว คือบางรายแค่สูดดมกลิ่นก็มีอาการแพ้แล้ว หรือให้เค้ากินนิดๆหน่อยๆเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย รู้ไหมมันอันตรายถึงชีวิต..
ฝากถึงใครที่ทำงานร้านอาหาร,ขายอาหาร มันจะเป็นการดีมากๆ หากในเมนู เขียนว่ามีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง ณ ตอนนี้เห็นหลายที่เริ่มทำ คือไม่จำเป็นต้องเขียนสูตร เพียงแค่แจงส่วนประกอบที่สามารถทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ หลักๆจะมี อาหารทะเล แป้งสาลี ถั่ว ไข่ นม เป็นต้น หรือหากมีลูกค้ามาถามคุณว่าจานนี้ใส่ถั่วไหม ใส่ไข่ไหม กรุณาตอบตามความจริง อย่ามั่ว เพราะมันคือชีวิตของเค้าเลยนะคะหากกินผิดไป
(ในรูปถ่ายหลังจากเกิดอาการประมาณ30นาที ซึ่งผื่นยุบไปบ้างแล้วค่ะ)
แพ้อาหารขั้นรุนแรงเฉียบพลันคืออะไร?
อาการแพ้อาหาร เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับประทานอาหารบางชนิดเข้าไป ซึ่งโดยส่วนมาก จะเป็นกลุ่มอาหารประเภท นม ไข่ อาหารทะเล ถั่ว แป้งสาลี โดยอาจทำให้เกิดอาการที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ผิวหนัง หรือระบบหลอดเลือดและหัวใจ อาการแพ้อาหารอาจเกิดขึ้นตั้งแต่อาการเบาไปจนถึงรุนแรงมาก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ และอาการอาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือค่อย ๆ ก่อตัวหลายชั่วโมงจึงเกิดขึ้น หรือ สะสมอยู่ในร่างกาย โดยมักจะมีอาการ ดังต่อไปนี้
- เหน็บหรือคันในปาก
- คันตา แสบหรือเคืองตา น้ำตาไหล
- ลมพิษ คัน มีผื่นแดงขึ้น หรือผิวหนังอักเสบ
- มีอาการบวมที่ปาก ใบหน้า ลิ้นและคอ หรือส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย
- กลืนลำบาก
- มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ หายใจมีเสียง หายใจตื้น คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง ท้องเสีย
- เวียนศีรษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม
- มีอาการที่คล้ายกับอาการของไข้ละอองฟาง เช่น จามหรือคันตา
และในบางราย อาจมีอาการแพ้ที่รุนแรงและเกิดขึ้นในทันทีที่ได้รับการกระตุ้นจากสิ่งที่แพ้ โดยจะเกิดอาการที่ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็อาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ ดังต่อไปนี้
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงและไออย่างหนัก เนื่องจากทางเดินหายใจหดตัวตีบแคบลง จนอากาศเข้าและออกได้ไม่สะดวก
- คอบวม หรือมีความรู้สึกว่ามีก้อนบวมอยู่ในคอ ซึ่งทำให้หายใจติดขัด
- ช็อก สับสนหรือวิงเวียน เนื่องจากความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหัน
- หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
- รู้สึกกลัวและมีความวิตกกังวลอย่างฉับพลันและรุนแรง
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ สาเหตุของการ แพ้ไข่ และวิธีป้องกันไม่ให้อาการ “แพ้ไข่” กำเริบ
สาเหตุและกลไกของการ แพ้ไข่
สาเหตุของการแพ้อาหาร รวมไปถึงการ แพ้ไข่ นั้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม และรวมไปถึงพฤติกรรมการทานอาหารต่าง ๆ โดยการแพ้ไข่ในทารกหรือเด็กเล็กนั้น อาจเกิดได้จากการที่คุณแม่ทานไข่เข้าไปเป็นจำนวนมากขณะตั้งครรภ์ จนทำให้ร่างกายเกิดความเข้าใจผิดว่า ไข่ ที่ทานเข้าไปนั้นเป็นสิ่งที่อันตราย ร่างกายจึงสั่งให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองโดยการปล่อยแอนติบอดี้ที่เรียกว่า อิมมูโนโกลบูลิน อี (Immunoglobulin E: IgE) เพื่อกำจัดอาหารหรือสารอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และครั้งต่อไปที่รับประทานอาหารดังกล่าว แอนติบอดี้ชนิดนี้ก็จะสามารถรับรู้ได้และส่งสัญญาณไปยังระบบภูมิคุ้มกันเพื่อปล่อยสารฮิสตามีนและสารเคมีอื่น ๆ สู่กระแสเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้นั่นเอง
วิธีป้องกันไม่ให้อาการ “แพ้ไข่” กำเริบ
วิธีป้องกันอาการแพ้ไข่ที่ดีที่สุด คือการหลีกเลี่ยงไม่ทานไข่ อาหารที่ทำจากไข่ โดยเฉพาะหากมีอาการแพ้ไข่ขั้นรุนแรงเฉียบพลันด้วยนั้น ควรเลี่ยงการสัมผัส สูดดม ไข่และอาหารที่ทำจากไข่ทุกชนิด เพื่อไม่ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้เพิ่มอีก และนอกจากการป้องกันแล้ว ควรทำควบคู่ไปกับการรักษาหรือทานยาเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง โดยการทานยาต่าง ๆ นั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง และวิธีการป้องกันมี ดังต่อไปนี้
- ในการรับประทานอาหารนอกบ้านทุกครั้ง ควรแจ้งผู้ประกอบอาหารว่าแพ้ไข่ เพราะอาการแพ้ไข่ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ การแจ้งผู้ประกอบอาหารก่อนทุกครั้งจะช่วยเพิ่มความระมัดระวังในการปรุงอาหารมากขึ้น
- ตรวจสอบอาหารและเครื่องดื่มก่อนบริโภคทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนประกอบจากไข่ และควรอ่านฉลากให้ละเอียดทุกครั้งก่อนทาน
- ในกรณีที่ลูกอยู่ในวัยที่สามารถเลือกทานอาหารเองได้แล้ว ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นหากรับประทานไข่เข้าไป และควรบอกวิธีการปฏิบัติตน หากเกิดอาการแพ้
- ควรแจ้งให้คนรอบข้างของเด็ก เช่น คุณครู พี่เลี้ยง ญาติที่ช่วยเลี้ยงดู ทราบว่าลูกมีปัญหาแพ้อาหาร และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาณและอาการแพ้อาหารที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมหากต้องรับมือกับอาการแพ้อาหารได้อย่างทันท่วงที
- ให้ลูกพกสิ่งแจ้งเตือนที่มีรายละเอียดของอาการและวิธีการรับมือกับอาการเบื้องต้น เช่น ที่ผูกข้อมือหรือที่ห้อยคอ หรือแม้แต่ปักชนิดอาหารที่แพ้ลงบนเสื้อ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีที่เกิดอาการ
อาการแพ้ไข่ หรือแม้แต่อาการแพ้อาหารชนิดอื่น ๆ ควรปฏิบัติตนได้อย่างระมัดระวัง และมีสติ หากเกิดอาการภูมิแพ้กำเริบ ก็อาจช่วยให้ลูกหายป่วยจากอาการแพ้ได้เร็วขึ้น อย่างเช่น คุณแม่ท่านนี้ ที่คอยระมัดระวัง ไม่ทาน ไม่ให้ลูกทานอาหารที่อาจจะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ และ หมั่นพาลูกไปตรวจหาค่าภูมิแพ้อยู่เป็นประจำ ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ สงสัยว่าลูกอาจจะแพ้อาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ก็ควรที่จะไปพบแพทย์ เพื่อปรึกษาการรักษาในระยะยาวต่อไป
อ่านบทความที่น่าสนใจที่นี่
ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่กิน อาหารกลุ่มเสี่ยง มากเกินไป
วิจัยเผย! ให้ลูกกินปลา-พาลูกเที่ยวฟาร์ม ป้องกันโรคภูมิแพ้ ได้
ลูกไอตอนกลางคืน ไอหนัก ไอถี่ เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณแม่ Aum Suttisinee Bunsaringkharnnan, honestdocs, pobpad
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่