ไม่อยากให้ลูกหลานป่วยบ่อย พ่อแม่ต้องระวัง 5 โรคที่มาพร้อมจูบ นี้เอาไว้ให้ดี!
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะเคยได้ยินเรื่องราว หรืออ่านเจอคำเตือนจากสื่อต่าง ๆ หรือแม้แต่จาก Amarin Baby And Kids เอง เราก็มีโอกาสได้โพสต์เตือนคุณพ่อคุณแม่ กันอยู่บ่อย ๆ ว่า การปล่อยให้คนแปลกหน้า หรือแม้แต่คนรู้จักจูบหรือหอมเด็กนั้นอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเสียเท่าไรนัก เนื่องจากตัวทารก หรือเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ยังมีภูมิต้านทานต่ำ หากได้รับการสัมผัสจากบุคคลที่ไม่สบายโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคต่าง ๆ นั้นก็ยิ่งสูงมากขึ้น
และถ้าหากพูดถึง โรคที่มาพร้อมจูบ ละก็หลาย ๆ ท่านอาจจะนึกถึง “โรคเริม” กันใช่ไหมละคะ ซึ่งโรคเริมนี้ก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ 5 โรคที่มาพร้อมจูบ ที่ทีมงานได้รวบรวมมาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน แต่จะมีโรคอะไรอีกหรือไม่นั่น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
5 โรคที่มาพร้อมจูบ มีอะไรบ้าง?
โรคแรก: โรคเริม
โรคที่มาพร้อมจูบ โรคแรกที่คนนึงถึงเลยก็คือ โรคเริม เริมในช่องปากเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของการติดเชื้อครั้งแรก พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 10 เดือน – 3 ขวบ เมื่อหายแล้วเชื้อมักหลบซ่อนที่ปมประสาท ถ้ามีปัจจัยกระตุ้น เช่น เป็นมีไข้ โดนแดดจัด ร่างกายอ่อนแอ เชื้อที่แฝงอยู่ก็จะกำเริบขึ้นมาอีก
เชื้อไวรัสเริมนั้น สามารถติดต่อกันได้ผ่านการจูบ หรือการให้นมแม่ ในผู้ใหญ่อาจมีเชื้อได้โดยไม่ทำอันตรายกับร่างกาย แต่สำหรับเด็กทารกที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะ 6 สัปดาห์แรกของชีวิตยิ่งอันตรายที่สุด สัญญาณแรกที่สังเกตได้ คือ ทารกไม่ยอมดูดนม ซึม มีไข้ ร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ถ้าพบว่ามีอาการแบบนี้ให้รีบพาไปหาคุณหมอ
อาการของโรค: พบได้ตั้งแต่ไม่มีอาการของโรค ไปจนถึงเสียชีวิต สามารถติดต่อได้ทางผิวหนัง หรือเยื่อบุที่เปิด เช่น ทางตา เพศสัมพันธ์ และจากแม่สู่ลูก หรือคนอื่น ๆ โดยจะมีอาการต่าง ๆ กันตามการติดเชื้อ เช่น ที่ตามีอาการตาแดง มีลักษณะตุ่มน้ำใสบริเวณที่ติดเชื้อ เป็นต้น ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ที่ภูมิคุ้มกันปกติจะไม่แสดงอาการ แต่จะแสดงอาการในคนที่ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็กทารก ผู้ได้รับยากดภูมิต้านทาน เชื้อสามารถแพร่กระจายในเลือดและอวัยวะต่าง ๆ ได้
อ่านต่อบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง >> แม่แชร์! ลูกเป็น” โรคเริม ” เพราะสัมผัสของใครบางคน!
โรคที่สอง: โรคจูบ
โรคจูบ หรือที่เราเรียกกันอีกอย่างว่า Kissing Disease ซึ่งเกิดจากไวรัส Ebstein Barr หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า EB เป็นไวรัสที่สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสและทางน้ำลาย และส่วนใหญ่แล้วในประเทศไทยนั้น จะพบการติดเชื้อดังกล่าวได้ในเด็กที่มีอายุ 2 ขวบปีแรกค่ะ
เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายได้รับการติดเชื้อ เจ้าเชื้อไวรัสก็จะแอบแฝงอยู่กับบุคคลนั้นไปตลอดชีวิตโดยไม่ทำให้เกิดอาการ แต่มีโอกาสแพร่สู่คนอื่นได้เรื่อย ๆ จากเชื้อที่ออกมาปนอยู่ในน้ำลาย การติดเชื้อชนิดนี้จึงเกิดขึ้นได้กว้างขวางทั่วโลก ในบางคนที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย เชื้ออาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค รวมถึงโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งโพรงหลังจมูก เป็นต้น
อาการของโรค: ไข้สูง เจ็บคอ จากคอหอย หรือทอน ซิล มีการอักเสบ และมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต ส่วนอาการอื่นๆที่อาจจะพบร่วมด้วยคือ อาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลำได้ ตับโต ม้ามโต มีจุดเลือดออกที่เพดานปาก ถ่ายอุจจาระเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีน้ำมูก เป็นต้น ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะหายภายในเวลา 2 สัปดาห์ ยกเว้นอาการอ่อนเพลียที่อาจหลงเหลืออยู่ได้นานหลายเดือน
โรคที่สาม: โรคมือ เท้า ปาก
โรคที่ติดต่อได้จากการสัมผัสน้ำลาย ฝอยละอองน้ำมูก และการสัมผัสบาดแผล หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ที่ผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวได้สัมผัสไว้ โรคมือเท้าปากนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนหวาดกลัว และพบมากในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
อาการของโรค: สำหรับเด็กเมื่อป่วยเป็นมือเท้าปาก จะมีไข้สูง ไอ เป็นแผลในปาก และจะมีตุ่มน้ำใสแดงตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว เด็กที่ป่วยจะมีอาการทรมาน และจะร้องงอแงอยู่ตลอดเวลาเพราะพิษไข้ สำหรับเด็กที่ป่วยเป็น มือเท้าปากนั้น สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
อ่านต่อบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง >> ทำไมเด็ก ๆ ถึงชอบเป็น โรคมือเท้าปาก
โรคที่สี่: โรคหวัด
โรคหวัด เป็นอีกหนี่งโรคที่ไม่มีใครไม่รู้จักและเป็นอีกโรคที่พบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็ก ๆ ที่ภูมิต้านทานมีน้อย ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อได้ผ่านระบบทางเดินหายใจ การสัมผัสน้ำลาย ได้รับละอองฝอยของน้ำลาย เป็นต้น
อาการของโรค: อาการที่พบเห็นได้บ่อยในเด็กเล็กนั้น ได้แก่
- มีไข้ แต่ไม่สูง คือเมื่อวัดไข้อุณหภูมิร่างกายมักจะไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว
- มีน้ำมูกใส คัดจมูก และมีการจาม
- ไอ และเจ็บคอ
- บางคนอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
อ่านต่อบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง >> อย่านิ่งนอนใจ ลูกเป็นหวัดบ่อย ไซนัสอักเสบอาจถามหา
โรคที่ห้า: โรค RSV
อีกหนึ่ง โรคที่มาพร้อมจูบ สุดน่ากลัวและสุดยอดฮิตในตลาดสังคมก็คือ RSV หรือชื่อเต็มๆ ว่า Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้เนื่องจากมักเกิดพยาธิสภาพในส่วนของหลอดลมเล็ก และถุงลมทำให้มีการสร้างสิ่งคัดหลั่ง เช่น เสมหะ ออกมาในปริมาณมาก และมีการหดตัวของหลอดลมเนื่องจากการบวมของเยื่อบุหลอดลมและทางเดินหายใจต่าง ๆ ส่งผลให้เด็กมีอาการหอบ เหนื่อย และหายใจลำบากได้อย่างรวดเร็ว เชื้อนี้ติดต่อกันได้โดยการสัมผัสใกล้ชิดกับสิ่งคัดหลั่งต่างๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และจูบ เป็นต้น
อาการของโรค:
- หอบเหนื่อย
- หายใจเร็ว หายใจแรง
- หายใจครืดคราด
- ตัวเขียว
- มีเสียงหวีดในปอด (จากการที่เยื่อบุทางเดินหายใจบวมอักเสบและหลอดลมหดตัว)
- มีเสมหะมาก
- ไอโขลก ๆ เป็นต้น
อ่านต่อบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง >> แม่แชร์! อาการเมื่อลูกป่วยเป็น RSV
เด็ก ๆ เวลาไม่สบายนั้นน่าสงสารนะคะ ดังนั้น จะให้ดี พยายามแสดงออกถึงความรักด้วยวิธีอื่นน่าจะดีกว่า ลูกหลานเราจะได้ห่างไกล 5 โรคที่มาพร้อมจูบ เหล่านี้กันเสียที
เรียบเรียงโดย: ทีมงาน Amarin Baby and Kids
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ:
- 11 โรคติดต่อทางพันธุกรรม จากพ่อแม่สู่ลูกและวิธีป้องกัน
- อีสุกอีใส โรคติดต่อที่ดูไม่น่ากลัว แต่อันตรายถึงชีวิตลูก!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่