ทำอย่างไรเมื่อ ประจำเดือนมีกลิ่น อาการที่ใคร ๆ ก็คิดว่าปกติ แต่แท้จริงแล้ว ไม่ใช่!
ประจำเดือน สิ่งที่ธรรมชาติเลือกที่จะมอบให้ผู้หญิงทุก ๆ เดือน เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นหญิง เชื่อมั่นว่าคุณแม่บางท่าน อาจจะทราบแค่ว่า ประจำเดือนคือ เลือดที่ออกมาในทุก ๆ เดือนเท่านั้น แต่หากรู้ไม่ว่าประจำเดือนนั้น มีความหมายมากกว่านั้น อีกทั้งอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดังเช่น กลิ่น นั้นสามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของเราได้เลยทีเดียวละค่ะ
ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ประจำเดือน มาฝากกันค่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
อ่านต่อเรื่องของประจำเดือนได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
ทำความรู้จักกับประจำเดือน
ประจำเดือน หรือ รอบเดือน หรือ ระดู คือ เลือดและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่หลุดลอกออกจากเยื่อบุโพรงมดลูก หรือเยื่อบุมดลูก โดยเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง โดยสัมพันธ์กับการตกไข่ ซึ่งการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเกิดประมาณเดือนละครั้ง ภาวะที่เกิดขึ้นนี้ จึงถูกเรียกว่า ประจำเดือน
หลังจากมีประจำเดือนแล้ว รังไข่จะเริ่มสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น เริ่มต้นวงจรของการเกิดประจำเดือนใหม่ เกิดเป็นรอบเดือน หรือ ประจำเดือน วนเวียนไปเรื่อย ๆ ตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งคือ วัยที่รังไข่ยังสร้างฮอร์โมนทั้งสองชนิดดังกล่าวได้ แต่เมื่อสูงวัยขึ้น เซลล์รังไข่จะเสื่อมสภาพจนหยุดการสร้างฮอร์โมนทั้งสองชนิด หรือ สร้างได้น้อยมาก จึงส่งผลให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ภาวะหมดประจำเดือนถาวร ที่นิยมเรียกกันว่า วัยทองนั่นเอง
โดยปกติแล้วประจำเดือนจะเริ่มมีในช่วงวัย 10 ขวบ – 18 ปี (บางคนมาช้า บางคนมาเร็ว ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกาย รวมทั้งกรรมพันธุ์) กระทั่งอายุประมาณ 45-55 ปี ก็จะก้าวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
ประจำเดือนแบบไหน เรียกได้ว่า “ปกติ”
- สีของประจำเดือนปกติแล้ว จะเป็นเลือดสีแดงคล้ำ และเป็นน้ำข้นคล้ายเมือก ไม่มีลิ่มเลือดปนอยู่ เว้นเสียแต่ประจำเดือนมามาก ก็อาจจะมีลิ่มเลือดบนอยู่บ้างนิดหน่อย และจะต้องไม่มีสีช้ำเลือดช้ำหนอง
- ปกติแล้วประจำเดือนมักจะมามากในวันแรกหรือวันที่สอง แล้วจะเริ่มลดน้อยลง ส่วนใหญ่แล้วจะมาประมาณ 3-7 วัน
- คุณแม่สามารถสังเกตว่าประจำเดือนของคุณแม่มามากหรือน้อยได้จากผ้าอนามัยค่ะ โดยผ้าอนามัย 1 แผ่นจะซับเลือดได้มากถึง 30-40 มิลลิลิตร (ผ้าอนามัยชุ่มไปด้วยประจำเดือน) ซึ่งหากใน 1 วัน คุณแม่ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ชุ่มเลือดมากกว่า 6 แผ่น นั่นก็ถือว่าเข้าข่ายประจำเดือนมามาก ซึ่งอาจจะไม่ผิดปกติแต่อย่างใด เพราะการที่ประจำเดือนมามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกันค่ะ ทั้งความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย สภาพจิตใจ (ความเครียด ความกังวล) หรือหากประจำเดือนมาน้อยมาก มาแบบแค่เปื้อนผ้าอนามัยนิดหน่อย 1-2 วันก็หมด ก็อาจไม่ผิดปกติเช่นกัน
- ประจำเดือนจะต้องไม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
ประจำเดือนเหม็นผิดปกติ เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง >>
เครดิต: Honest Docs
ประจำเดือนมีกลิ่น เหม็นผิดปกติ เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
1. เชื้อราในช่องคลอด หากเลือดประจำเดือนที่ออกมามีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ อาจหมายถึงอาการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด โดยเฉพาะหากสังเกตว่าประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวตลอดช่วงรอบเดือน และมีอาการคันภายในช่องคลอด อีกทั้งก่อนหรือหลังเป็นประจำเดือนก็มีตกขาวสีเหลืองเข้มลักษณะเหมือนแป้งเปียกออกมาจากช่องคลอดด้วย ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาการติดเชื้ออาจลุกลามจนทำให้มดลูกอักเสบได้นะคะ
2. การติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูก หากได้กลิ่นประจำเดือน ตกขาว หรือสังเกตได้ว่าน้องสาวมีกลิ่นเหม็นเค็ม นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกถึงอาการติดเชื้อในช่องคลอด หรือการติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิบางชนิดที่ปากมดลูก ซึ่งเคสนี้ก็ควรรีบรักษานะคะ เพราะเชื้อโรคอาจลุกลามทำให้เกิดอาการมดลูกอักเสบ หรือโรคที่ร้ายแรงกว่านั้นได้
3. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการมีเลือดออกซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ก็ได้ พร้อมกับมีกลิ่นเหม็นเค็ม เหม็นอับ ๆ มีหนองปน หรือกลิ่นประจำเดือนเหม็นผิดปกติในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมกับอาการแสบอวัยวะเพศขณะหรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็เป็นได้ว่านี่คือสัญญาณที่ส่อถึงการติดเชื้อในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ และอาจเป็นหนึ่งอาการที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคใดโรคหนึ่งก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือคู่นอนของเรามีพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศ และคนที่ไม่สวมถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด
4. มะเร็งปากมดลูก สำหรับคุณแม่ ๆ หรือคุณผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์หรือวัยใกล้หมดประจำเดือนแล้วพบว่า มีอาการเลือดออกหลังการร่วมเพศ รวมทั้งมีเลือดออกจากช่องคลอด (อาจไม่ใช่ประจำเดือนหรือเป็นประจำเดือนก็ได้) ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 10 วัน พร้อมทั้งประจำเดือนหรือเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเน่าและอาจมีเศษเนื้อปนออกมากับเลือดด้วย ให้สงสัยถึงโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
5. มะเร็งปากช่องคลอด หากมีอาการคันปากช่องคลอด ร่วมกับมีแผลหรือก้อนเนื้อที่ปากช่องคลอด และเลือดที่ออกจากช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นเน่า เคสนี้ให้เดาถึงโรคมะเร็งปากช่องคลอดไว้ก่อน และควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
6. มะเร็งในช่องคลอด ในเคสนี้เลือดที่ออกมามักจะไม่ใช่ประจำเดือนค่ะ แต่เป็นเลือดออกผิดปกติในช่องคลอด โดยจะเริ่มจากมีตกขาวกลิ่นเหม็น มีเลือดปนกับตกขาวออกมาด้วย หลังจากนั้นหากรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ (เกิดแผลในช่องคลอด) จะมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดโดยที่แยกไม่ได้ว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่ แต่จะสังเกตได้ว่าเลือดนั้นมีกลิ่นเหม็นเหมือนเลือดปนหนอง ซึ่งหากไม่รีบรักษา เซลล์มะเร็งอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้
7. มะเร็งมดลูก กลิ่นเหม็นจากเลือดที่คิดว่าเป็นประจำเดือนในเคสนี้ก็ไม่ใช่เลือดประจำเดือนเช่นกันค่ะ เนื่องจากโรคมะเร็งมดลูกมักพบได้บ่อยในหญิงสูงอายุ ซึ่งเป็นวัยหมดประจำเดือนแล้ว แต่กลับพบว่ามีเลือดออกจากช่องคลอด ลักษณะเลือดนั้นมีสีช้ำเลือดช้ำหนองและมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ซึ่งหากคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ท่านใดมีอาการในลักษณะนี้ ก็อย่านิ่งนอนใจ รีบพาไปพบสูตินรีแพทย์ทันทีนะคะ
คุณแม่ ๆ ลองสังเกตกันดูนะคะ หากพบว่ามีกลิ่นหรืออาการตามที่กล่าวไปแล้วอย่านิ่งเฉยเด็ดขาด ของแบบนี้พบและปรึกษาคุณหมอโดยไวจะดีที่สุดนะคะ
เครดิต: กระปุก
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่